มากิน “กือโป๊ะ”

67hheief79cgkj9f7ffb6

“เมืองงามสามวัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ ชนน้อมนำศรัทธา ถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้” คำขวัญจังหวัดปัตตานีซึ่งเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยว และอาหารที่น่าสนใจมากมาย ประชากรส่วนมากในจังหวัดปัตตานีเป็นชาวมุสลิม ต้องรับประทานอาหารฮาลาลหรืออาหารมุสลิม ซึ่งเป็นอาหารของชนผู้นับถือศาสนาอิสลาม แต่ไม่เฉพาะคนที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น ยังมีคนนับถือศาสนาอื่นๆ ในโลกนี้ร่วมรับประทานได้  เพราะปรุงสุกอย่างสะอาด รสชาติอร่อย ถูกสุขลักษณะตามบทบัญญัติของอิสลาม เรามารู้จักกับอาหารที่ขึ้นชื่อของจังหวัดปัตตานีที่มีชื่อว่า “กือโป๊ะ หรือ กระโป๊ะ”

“กือโป๊ะ หรือ กระโป๊ะ” เป็นข้าวเกรียบสดนิดหนึ่ง มีรูปร่างหน้าตาน่ารับประทาน เป็นของกินเล่นที่อร่อยมาก นิยมกินกันมากในจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส ซึ่งทั้งสองจังหวัดนี้เป็นแหล่งผลิตหลักด้วย กือโป๊ะเป็นข้าวเกรียบสดที่มีส่วนผสมที่หาง่ายและวิธีทำก็ง่าย ใครๆ ก็สามารถที่จะทำกินเองเล่นๆ ที่บ้านได้ ส่วนผสมมาจากปลาทูสด ที่ไม่ได้ขนาด ขายไม่ได้ และราคาถูก และถือได้ว่าเป็นสินค้าที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้ดี เพราะปัจจุบันมีคนนิยมกินกันมากขึ้น ไม่เฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่อื่นๆ ก็นิยมกินเช่นกัน เป็นของดีและมีชื่อเสียงอีกอย่างของจังหวัดปัตตานี

กือโป๊ะทอด
กือโป๊ะทอด ถ่ายภาพโดย พิมพ์อร จระกา

จากการสอบถามถึง ส่วนผสมและวิธีการทำ จากคุณมาเรีย เจ๊ะแว จะเห็นได้ว่าส่วนผสมของกือโป๊ะ จะเป็นวัตถุดิบที่มีอยู่ใกล้ๆ ตัว และหาได้ง่ายในพื้นที่จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส วิธีการทำไม่ได้ยุ่งยาก สามารถที่จะทำเองภายในครอบครัวได้

    ส่วนผสม

  ปลาทู แป้งมันสำปะหลัง เกลือ และน้ำตาลทราย

กือโป๊ะที่ยังไม่ทอด ถ่ายภาพโดย มาเรีย เจ๊ะแว
กือโป๊ะที่ยังไม่ทอด ถ่ายภาพโดย มาเรีย เจ๊ะแว

 

วิธีทำ

แกะเอาแต่เนื้อปลามาผสมกับแป้งมันสำปะหลัง นำเกลือ น้ำตาลมาคลุุกเคล้าให้เข้ากัน บดจนละเอียด

นำมาแบ่งหรือปั้นเป็นก้อนๆ นำลงไปต้มในน้ำเดือนประมาน 10-15 นาที เอามาหั่นแล้วนำไปทอดประมาณ 3 นาที พร้อมเสิร์ฟกับน้ำจิ้มหวาน

เส้นทางทำมาหากิน
เส้นทางทำมาหากิน แหล่ง ที่มา : http://www.komchadluek.net/

การทำอาหารชนิดนี้แปรเปลี่ยนเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาเป็นขุมทรัพย์จากการที่บรรพบุรุษของชาวดาโต๊ะรู้จักวิธีการทำข้าวเกรียบกือโป๊ะมาตั้งแต่อดีต และได้สืบทอดภูมิปัญญานี้ส่งผ่านมาหลายๆ รุ่นจนถึงรุ่นลูกหลาน ในยุคปัจจุบันมีการทำข้าวเกรียบกือโป๊ะไว้กินกันในครัวเรือน และแบ่งขายกันบ้างภายในหมู่บ้านจนขายดี จึงขยายตลาดไปยังภายนอกหมู่บ้าน มีการเพิ่มการผลิตมากขึ้นเรื่อยๆ ไปสู่ตำบล อำเภอ และจังหวัดอื่นๆ จากการผลิตข้าวเกรียบกือโป๊ะของชุมชนสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนที่เป็นผู้ผลิตข้าวเกรียบ ประมาณ 3,000– 5,000 บาท/คน/เดือน นับเป็นขุมทรัพย์ที่เกิดจากภูมิปัญญาโดยแท้ ทำให้ชาวบ้านที่ไม่มีงานประจำได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ และยังมีรายได้เข้ามาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีกด้วย

 

บรรณนาณุกรม

อบเชย อิ่มสบาย. (2547). อาหารมุสลิม : 114 ตำรับโอชะจากครัวไทยมุสลิม สายอินเดีย-ปากีสถาน มุสลิมปักษ์ใต้ มลายู-ชวา เปอร์เชีย-อาหรับ. กรุงเทพฯ: แสงแดด.

วิทยาลัยชุมชนปัตตานี. (2555). ข้าวเกรียบกือโป๊ะของดีปัตตานี. ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2559, จาก: http://www.pncc.ac.th/pncc/joomlapncc/..

ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ มาเรีย เจ๊ะแว

 ภาพประกอบ

พิมพ์อร จระกา. (2559, มกราคม 20). กือโปะทอด.

มาเรีย เจ๊ะแว. (2558, ธันวาคม 15 ). ข้าวเกรียบสด.

อมรรัตน์ เข็มขาว. (2552, พฤษภาคม 15). เส้นทางทำมาหากิน. ค้นเมื่อ 22 มกราคม 2559, จาก  http://www.komchadluek.net/

เรียบเรียงโดย ฮัสนะห์ กูเดดาเก็ง นักศึกษาฝึกงาน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต ปัตตานี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชา การจัดการสารสนเทศ ภาควิชา บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ ภาคการศึกษาที่ 2/2558