
ภาพประกอบ ต้มยำกุ้ง จากหนังสือกินตามแม่ หน้า 100
อาหารไทยมีลักษณะรสเผ็ดร้อนใช้สมุนไพรเป็นเครื่องปรุงมากที่สุด ต้มยำกุ้ง เป็นอาหารไทยที่เป็นนิยมมากที่สุด เครื่องปรุงสำคัญได้แก่ เนื้อกุ้งและเครื่องต้มยำอันประกอบด้วย ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า พริกขี้หนูสวน สำหรับผัดไทย เป็นอาหารที่กินเป็นอาหารว่างหรืออาหารจานเดียวก็ได้ กินกับถั่วงอกดิบ ต้นกุยช่าย และหัวปลี ส่วนพะแนงปีกไก่ปรุงรส มาผัดกับน้ำพริกพะแนง เป็นการดัดแปลงผัดพะแนงให้มีรูปแบบหลายหลายขั้น
อาหารจีน มีรสชาติเป็นกลางไม่โดดเด่นไปทางใดทางหนึ่ง ยกเว้นอาหารจากเสฉวนจะมีรสเผ็ด ลักษณะของอาหารจีนจะแตกต่างกันไปตามการปรุงในแต่ละภูมิภาค เป็ดปักกิ่งเป็นอาหารที่ถือกำเนิดจากเมืองปักกิ่ง เป็นหนึ่งในอาหารจีนที่มีชื่อเสียงมากที่สุด หนังเป็ดถูกย่างจนกรอบ จากนั้นจะถูกเฉือนให้เป็นชิ้นบางๆ กินกับแผ่นแป้ง ต้นหอมแตงกวาหั่นชิ้นยาวและน้ำจิ้ม ข้นเหนียว ส่วนดิมซำ เป็นอาหารว่างของชาวจีนกวางตุ้ง นิยมกินกับน้ำชา

ภาพประกอบ แกงเลียงนพเก้า จากหนังสือกินตามแม่ หน้า 57

ภาพประกอบ ข้าวพัดกระเพราไก่ จากหนังสือกินตามแม่ หน้า 55
ประเทศไทยนับได้ว่าเป็นประเทศผู้ส่งออก รายสำคัญของโลก โดยในปี พ.ศ. 2545 ที่ผ่านมา ประเทศไทย ส่งออกอาหารเพื่อเลี้ยงชาวโลกมูลค่ากว่า 4 แสน ล้านบาท และด้วยศักยภาพความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งในเรื่องของวัตถุดิบ แรงงาน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงฝีมือของคนไทย รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะผลักดันให้ ประเทศไทยเป็นครัวของโลกรวมทั้งได้ประกาศให้ วันที่ 1 มกราคม 2547 เป็น วันประกาศความปลอดภัยด้านอาหาร
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบเรื่อง กรอบแนวทางปฏิบัติการตรวจสอบควบคุมคุณภาพสินค้าเกษตร และอาหาร ( Food Safety ) ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเสนอ และได้กำหนดให้ ปี พ.ศ. 2547 เป็น ปีแห่งสุขภาพอนามัย เพื่อรณรงค์และเผยแพร่คุณภาพมาตรฐานสินค้าการเกษตร รวมถึงอาหารชนิดต่างๆของไทย ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนให้ ภาคเอกชนขยายกิจการร้านอาหารไทย ในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้มีการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ ที่ได้รับการควบคุมตรวจสอบ มีการปรุงอาหารตามตำรับไทยแท้ โดยผู้ที่มีความรู้ความชำนาญ ซึ่งจะทำให้เกิดผลดี เช่น การสร้างตราสินค้า ( Brand name )และสร้างการตลาดส่งออกวัตถุดิบให้แก่สินค้าเกษตรและอาหารไทย ตลอดถึงการสร้างงานให้แก่คนไทยในต่างประเทศ สร้างภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของประเทศให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย ส่งผลให้ชาวต่างประเทศ สนใจเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
สาระสำคัญของกรอบแนวทางปฏิบัติการตรวจสอบ และควบคุมคุณภาพสินค้าเกษตรและอาหาร ( Food Safety )มีหลักการที่สำคัญ คือ
1. เน้นความสำคัญในด้านความปลอดภัยของผู้บริโภค ภายในประเทศและต่างประเทศเท่าเทียมกัน
2. สินค้าเกษตรและอาหารของไทย ต้องเป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
3. การกำหนดมาตรฐานด้านสุขภาพอนามัย และสุขอนามัยพืช จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค และการผลิตทางการเกษตร
4. ประเทศไทยจะต้องมีระบบการควบคุมมาตรฐานการกักกันพืช และสัตว์ที่เท่าเทียมกับต่างประเทศ (From Farm to Table)เพื่อให้เกิดความเป็น ธรรมในระบบการค้าระหว่างประเทศ และผู้บริโภคภายในประเทศ
โครงสร้างหน่วยงานดูแลด้านความปลอดภัยอาหาร ของสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศหนึ่งที่ได้ชื่อว่ามีระบบการจัดการด้านอาหารที่ปลอดภัยที่สุดของโลกเนื่องจากมีระบบการกำกับดูแลและเฝ้าระวัง ตั้งแต่การผลิตและการกระจายสินค้าในทุกระดับ ทั้งในระดับ ท้องถิ่น ระดับรัฐ และระดับประเทศบุคลากรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องมีตั้งแต่ ผู้ตรวจสอบอาหาร นักจุลวิทยา นักระบาดวิทยา นักวิทยาศาสตร์สาขา ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ตามกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติที่กำหนดไว้ ภายใต้กฎหมายระดับท้องถิ่น จนถึงระดับประเทศ บางหน่วยงานอาจกำกับดูแล เฉพาะอาหารบางชนิด บางหน่วยงานรับผิดชอบเฉพาะพื้นที่ หรือเฉพาะผู้ประกอบการอาหารบางประเภท เช่นภัตตาคาร หรือโรงงานบรรจุเนื้อสัตว์ ซึ่งทุกหน่วยงานทำงานร่วมกัน เป็นคณะทำงานด้านความปลอดภัยอาหารของสหรัฐอเมริกา( U.S.Food Safety Team )
โครงการบริหารด้านความปลอดภัยอาหาร ของประธานาธิบดี คลินตัน ได้เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2540 เพื่อสนับสนุนด้านการทำงานของคณะทำงานด้านความปลอดภัยอาหาร ในการป้องกันการเกิดความเจ็บป่วยเนื่องจากอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชากรชาวสหรัฐเจ็บป่วย ถึง ปีละ 6.5 – 33 ล้านคน โดยระบบความปลอดภัยด้านอาหาร ตั้งอยู่บนพื้นฐานของระบบที่เข้มแข็ง มีความยืดหยุ่น อาศัยวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐาน และถือเป็นความรับผิดชอบตามกฎหมายของโรงงานในการ ผลิตอาหารที่ปลอดภัย โดยอยู่ภายใต้อำนาจฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และยุติธรรม ในหลักการปฏิบัติที่มีความโปร่งใส เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยการตัดสินใจขึ้นอยู่กับ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
ระบบความปลอดภัยด้านอาหารของสหรัฐอเมริกา มีหลักการที่สำคัญดังนี้
1. เฉพาะอาหารที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะวางจำหน่ายได้
2. การพิจารณาของหน่วยงานรัฐ ด้านความปลอดภัยอาหารจะใช้
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เป็นเกณฑ์
3. หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ในการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมาย
4. โรงงานผู้ผลิต ผู้กระจายสินค้า ผู้นำเข้าและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และมีความผิด ถ้าไม่ปฏิบัติตาม
5. กระบวนการกำกับดูแลมีความโปร่งใส และประชาชนเข้าถึงได้ง่าย
จากหลักการดังกล่าวทำให้ ระบบความปลอดภัยด้านอาหารของสหรัฐอเมริกาได้รับความเชื่อถือในระดับสูง จากนานาประเทศไปทั่วโลก.
**************************************
![]()
บรรณานุกรม
กองบรรณาธิการ. For Quality 11,89 – 90 ( March – April ) 35 – 37
ภาพประกอบ
กระทรวงสาธารณสุข. กินตามแม่. พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ 2546
รวบรวมข้อมูลโดย : ฝ่ายวารสารและเอกสาร
