วันการศึกษานอกโรงเรียน 8 กันยายน

8 กันยายน วันการศึกษานอกโรงเรียน
การศึกษาเป็นกระบวนการต่อเนื่องตลอดชีวิต นอกจากการเรียนรู้หนังสืออันเป็นกุญแจสำคัญที่ไขเข้าสู่สรรพวิทยาการแล้ว การเรียนรู้ด้วยสื่อการเรียนอย่างอื่น และกระบวนการอื่น ๆ ซึ่งมีอยู่นานัปการนั้น จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เรียนให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO จึงได้กำหนดเอาวันที่ 8 กันยายนของทุกปี เป็นวัน International Literacy Day ตามมติของที่ประชุมของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการจากประเทศทั่วโลก ว่าด้วยการขจัดการไม่รู้หนังสือ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเตหะราน เมื่อปี ค.ศ. 1965 เพื่อเป็นวันที่ระลึกการรู้หนังสือสากล และได้มีหนังสือเชิญชวนประเทศสมาชิกร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 เป็นต้นมา

สำหรับประเทศไทยได้มีการจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันที่ระลึกการรู้หนังสือสากลนี้ มาตั้งแต่ปี 2510 เป็นต้นมา โดยจัดขึ้นที่กองการศึกษาผู้ใหญ่และตามโรงเรียนผู้ใหญ่ทั่วไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2520 กองการศึกษาผู้ใหญ่ได้จัดนิทรรศการ “วันการศึกษาผู้ใหญ่แห่งชาติ” ขึ้น ณ หอสมุดแห่งชาติ และในปี พ.ศ. 2521 ได้จัดนิทรรศการ “วันการศึกษาผู้ใหญ่และการศึกษานอกระบบ” ขึ้น ณ บริเวณโรงละครแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานจากภายนอกเข้ามาสมทบด้วย

ในปี พ.ศ. 2522 ได้มีการจัดนิทรรศการ “วันการศึกษานอกโรงเรียน” ขึ้น ณ บริเวณคุรุสภา ในปีนี้มีหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมาร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ International Literacy Day จึงได้กลายมาเป็น “วันการศึกษานอกโรงเรียน” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 เป็นต้นมา โดยเหตุที่การศึกษานอกโรงเรียนเป็นการศึกษาตลอดชีวิต และกระบวนการเรียนการสอนไม่จำกัดสถานที่ เวลา อายุ เพศ หรืออาชีพของผู้เรียน แต่เน้นกลุ่มเป้าหมายที่ไม่มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนในระบบโรงเรียน
การจัดการศึกษานอกโรงเรียนจึงมีหลายรูปแบบ เช่น

1. การสอนให้คนอ่านออกเขียนได้ เพื่อให้มีความรู้พื้นฐานในการดำรงชีวิต ได้แก่ โครงการรณรงค์เพื่อการรู้หนังสือแห่งชาติ โครงการศึกษาผู้ใหญ่แบบเบ็ด
เสร็จขั้นพื้นฐาน และโครงการศึกษาต่อเนื่อง
2.การจัดที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดเคลื่อนที่ วิทยุและโทรทัศน์เพื่อการศึกษา เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารที่ทันต่อเหตุการณ์
3.การสอนวิชาชีพหลักสูตรระยะสั้น โครงการฝึกอบรมต่าง ๆ เพื่อให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายด้านวิชาชีพ และให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองและสังคม
ในวันการศึกษานอกโรงเรียนได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของการรู้หนังสือและการศึกษาตลอดชีวิต เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งส่วนตนและส่วนรวมให้ดีขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้ประชาชนได้รับรู้และมีความเข้าใจเกี่ยวกับการให้บริการของกรมการศึกษานอกโรงเรียนอีกด้วย

บรรณานุกรม

วรนุช อุษณกร. ประวัติวันสำคัญที่ควรรู้จัก. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2543.
ภาพจาก http://guide.insidebayarea.com/ryan/nie/sign_on.asp

ข้อมูลโดย : กลุ่มนักศึกษาฝึกงาน งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุดอ่านต่อ >>