วันสุขบัญญัติ 28 พฤษภาคม

ภาพจาก กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ภาพจาก กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

สุขบัญญัติ หมายถึง ข้อกำหนดที่เด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนทั่วไปพึงปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอจนเป็นสุขนิสัย เพื่อให้มีสุขภาพดีทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม ดังนั้น การส่งเสริมสุขบัญญัติจึงเป็นกลวิธีหนึ่งในการสร้างเสริม และปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชนปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีได้

ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตต้องเปลี่ยนไป จะเห็นได้ว่า คนไทยประสบปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคที่ไม่ติดต่อมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ในขณะที่ปัญหาโรคติดต่อที่สำคัญกลับกลายพันธุ์รักษาให้หายขาดได้ยากขึ้น อันมีสาเหตุมาจากปัจจัยด้านพฤติกรรมสุขภาพและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อ ล่าสุดข้อมูลสถิติสาธารณสุข พ.ศ. 2540 ระบุว่าคนไทยตายด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากเป็นอันดับหนึ่ง

ดร. ภักดี โพธิศิริ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากเป้าหมายของแผนพัฒนาการสาธารณสุข ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540 – 2545) สาขาพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ และการพึ่งพาตนเองด้านสาธารณสุข ทำให้กองสุขศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงธารณสุขร่วมกับนักวิชาการด้านสาธารณสุขจากหน่วยงานต่างๆ จัดทำเป็นข้อกำหนดทางด้านสุขภาพที่จำเป็น และปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอจนเป็นสุขนิสัย เพื่อให้มีสุขภาพดี เรียกว่า สุขบัญญัติแห่งชาติ มีทั้งหมด 10 ประการ ได้แก่

  1. ดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด
  • อาบน้ำให้สะอาดทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
  • สระผมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
  • ตัดเล็บมือเล็บเท้าให้สั้นอยู่เสมอ
  • ถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลาทุกวัน
  • ใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ไม่อับชื้น และให้อบอุ่นเพียงพอ
  • จัดเก็บของใช้ให้เป็นระเบียบ
  1. รักษาฟันให้แข็งแรง และแปรงฟันทุกวันอย่างถูกวิธี
  • แปรงฟันทุกวันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เวลาเช้า และก่อนนอน
  • เลือกใช้ยาสีฟันและฟลูออไรด์
  • หลีกเลี่ยงการกินลูกอม ลูกกวาด ท็อฟฟี่ หรือขนมหวานเหนียว
  • ตรวจสุขภาพในช่องปาก อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  • ห้ามใช้ฟันกัดขบของแข็ง
  1. ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังการขับถ่าย
  • ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนและหลังการเตรียม ปรุง และรับประทานอาหาร
  • ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งหลังการขับถ่าย
  1. กินอาหารสุก สะอาด ปราศจากสารอันตราย และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด สีฉูดฉาด
  • เลือกซื้ออาหารสด สะอาด ปลอดสารพิษ โดยคำนึงถึงหลัก 3 ป คือ ประโยชน์ ปลอดภัย ประหยัด
  • ปรุงอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และใช้เครื่องปรุงรสที่ถูกต้อง โดยคำนึงถึงหลัก 3 ส คือ สงวนคุณค่า สุกเสมอ สะอาดปลอดภัย
  • กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และกินให้ถูกหลักโภชนาการทุกวัน
  • กินอาหารปรุงสุกใหม่ และใช้ช้อนกลางในการกินอาหารร่วมกัน
  • หลีกเลี่ยงการกินอาหารสุกๆ ดิบๆ หรืออาหารรสจัด ของหมักดอง หรือ อาหารใส่สีฉูดฉาด
  • ดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  1. งดสูบบุหรี่ สุรา สารเสพย์ติด การพนัน และการสำส่อนทางเพศ
  • งดสูบบุหรี่
  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • ไม่เสพสารเสพย์ติดทุกประเภท
  • งดเล่นการพนันทุกชนิด
  • งดการสำส่อนทางเพศ
  1. สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น
  • ทุกคนในครอบครัว ช่วยกันทำงานบ้าน
  • ปรึกษาหารือ และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน
  • เผื่อแผ่น้ำใจให้กันและกัน
  • ทำบุญ และได้ทำกิจกรรมสนุกสนานร่วมกัน
  1. ป้องกันอุบัติภัยด้วยการไม่ประมาท
  • ระมัดระวังในการป้องกันอุบัติภัยภายในบ้าน เช่น ไฟฟ้า เตาแก๊ส ของมีคม จุดธูปเทียนบูชาพระ และไม้ขีดไฟ เป็นต้น
  • ระมัดระวังในการป้องกันอุบัติภัยในที่สาธารณะ เช่น ปฏิบัติตามกฎแห่งความปลอดภัยจากการจราจรทางบก ทางน้ำ ป้องกันอันตรายจากโรงฝึกงาน ห้องปฏิบัติการ เขตก่อสร้าง หลีกเลี่ยงการชุมนุมห้อมล้อม ในขณะเกิดอุบัติภัย
  1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพประจำปี
  • ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
  • ออกกำลังกายและเล่นกีฬาให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและวัย
  • ตรวจสุขภาพประจำปี
  1. ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ
  • พักผ่อนและนอนหลับให้เพียงพอ
  • จัดสิ่งแวดล้อมทั้งในบ้าน และที่ทำงานให้น่าอยู่ หรือน่าทำงาน
  • มองโลกในแง่ดี ให้อภัย และยอมรับในข้อบกพร่องของคนอื่น
  • เมื่อมีปัญหาไม่สบายใจ ควรหาทางผ่อนคลาย
  1. มีสำนึกต่อส่วนรวมร่วมสร้างสรรค์สังคม
  • มีการกำจัดขยะในบ้าน และทิ้งขยะในที่รองรับ
  • หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เช่น โฟม พลาสติก และสเปรย์ เป็นต้น
  • มีและใช้ส้วมที่ถูกสุขลักษณะ
  • มีการกำจัดน้ำทิ้งในครัวเรือนและโรงเรียนด้วยวิธีที่ถูกต้อง
  • ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด
  • อนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม เช่น ชุมชน ป่า น้ำ และสัตว์ป่า เป็นต้น

การปฏิบัติตามสุขบัญญัติแห่งชาติจะเป็นบรรทัดฐานสำคัญสำหรับสร้างเสริม และปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องให้เกิดขึ้นกับประชาชนตามนโยบายการสุขศึกษาแห่งชาติ เพื่อให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปยึดเป็นแนวทางปฏิบัติขั้นพื้นฐาน เพื่อการมีสุขภาพอนามัยที่ดี รัฐบาลจึงกำหนดให้วันที่ 28 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันสุขบัญญัติแห่งชาติ เพื่อเป็นการสร้างสุขบัญญัติที่ดีของคนไทยทั้งประเทศ

บรรณานุกรม

วรนุช อุษณกร. ประวัติวันสำคัญที่ควรรู้จัก. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2543.

ภาพจาก กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ http://www.thaihed.com/

ข้อมูลโดย : กลุ่มนักศึกษาฝึกงาน งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด