ประเทศไทยมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทั้งยังมีชาวต่างชาติ เช่น ชาวโปรตุเกสอพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังมีชุมชนที่ได้รับวัฒนธรรมของชาวโปรตุเกส คือ ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนนี้เป็นชุมชนเล็กๆ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งมีคนไทยเชื้อสายจีนกับคนไทยเชื้อสายโปรตุเกสอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญเป็นชุมชนที่เก่าแก่ มีอายุกว่า 200 ปี ตั้งแต่ครั้งสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช
∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴
ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนของชาวไทยเชื้อสายจีนและเชื้อสายโปรตุเกส ที่อพยพลี้ภัยมาจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ชาวโปรตุเกสกับชาวจีนตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัย ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งปัจจุบัน คือ “ชุมชนกุฎีจีน”
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนนี้ คือ โบสถ์ซางตาครู้ส คำว่าซางตาครู้สในภาษาโปรตุเกสแปลว่า “กางเขนศักดิ์สิทธิ์” สร้างขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี ในโบสถ์มีระฆังพุทธกาย ซึ่งมีแค่ 2 วัดในประเทศไทยเท่านั้น ใช้ในการตีเพื่อถวายพระพร ข้างในตัวโบสถ์มีกระจกสีสันสวยงามที่เล่าเรื่องราวจากพระคัมภีร์ รวมถึงมีรูปปั้นพระแม่มารี รูปปั้นนักบุญในศาสนาคริสต์ตั้งอยู่ตามบริเวณรอบๆ ชุมชน
ภูมิปัญญาที่โดดเด่นของชุมชนนี้มาจากชาวโปรตุเกสในสมัยก่อน ได้แก่ ขนมฝรั่งกุฎีจีน เป็นขนมที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมชาวจีนกับชาวโปรตุเกส ตัวขนมเป็นของโปรตุเกส แต่มีหน้าเป็นแบบจีน ลักษณะเด่น คือ การใช้วัตถุดิบแค่ 3 อย่างในการทำตัวขนม ได้แก่ แป้ง ไข่ และน้ำตาล มีการโรยหน้าด้วยผลไม้อบแห้ง มี 2 แบบ คือ ขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก แบบขนาดใหญ่ มีการโรยหน้าด้วยลูกเกด ฟักเชื่อม มะเขือเทศอบแห้ง และน้ำตาลทราย ส่วนขนาดเล็ก เป็นขนมกุฎีจีนแบบดั่งเดิม คือ ไม่มีหน้า ตัวขนมจะนุ่ม กลิ่นหอม มีรสไม่หวานมาก
เทศกาลที่สำคัญในชุมชนนี้ ได้แก่ เทศกาล “พิธีถอดพระ” เป็นวันที่พระเยซูถูกตรึงไม้กางเขน หรือที่เรียกว่า ศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ มีการแสดงร่วม 14 ภาค เป็นการแสดงประวัติก่อนที่พระเยซูจะถูกตรึงไม้กางเขน กล่าวถึงการหกล้ม 14 ครั้ง จนถึงการช่วยท่านลงมาจากการถูกตรึงไม้กางเขน เป็นเทศกาลที่มีมากว่า 100 ปี จัดตามปฎิทินศาสนาศริสต์ประมาณช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน
และเทศกาล “คริสมาสตร์” จะมีการประดับแสงไฟตกแต่งหน้าบ้านที่แตกต่างกันไปตามจุดเด่นของแต่ละซอย และมีการทำอาหารโปรตุเกสมาเลี้ยงฉลอง ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี
ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนที่เก่าแก่ มีวัฒนธรรมของชนชาติอื่นมาผสมผสานกับวัฒนธรรมไทยได้อย่างลงตัว มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ชุมชนอื่นไม่สามารถเลียนแบบได้ ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ซางตาครู้ส โบสถ์ศาสนาคริสต์ที่เป็นศูนย์กลางชุมชน ขนมกุฎีจีนที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมของชาวจีนกับชาวโปรตุเกสเข้าด้วยกัน เทศกาลที่เน้นไปทางศาสนาคริสต์ ซึ่งยังมีอีกหลากหลายชุมชนที่มีวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตในชุมชนนั้น รอให้ผู้คนเข้ามาสัมผัส ศึกษา อนุรักษ์ และเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่าง เพื่ออาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขตราบนานเท่านาน
∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴∴
บรรณานุกรม
ดาวรัตน์ ชูทรัพย์. (2545). หมื่นร้อยพันผสาน : บันทึกสิ่งดีวัฒนธรรมประเพณีวิถีไทย. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.
ธงฉัตร จันทร์บุตร และคณะ. (2559). ศึกษาชุมชนกุฎีจีน เขตธนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร. รายงานวิชาสังคมไทยร่วมสมัย. มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. หน้าที่ 1-7.
ธงฉัตร จันทร์บุตร และคณะ. (2559). สืบสานภูมิปัญญาขนมโบราณคู่ชุมชนกุฎีจีน. รายงานวิชามนุษย์กับสิ่งแวดล้อม. มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. หน้าที่ 1-12.
ภาพประกอบ
ภาพโดยธงฉัตร จันทร์บุตร ถ่ายเมื่อปี 2559
เรียบเรียงโดย นักศึกษาฝึกงาน นายธงฉัตร จันทร์บุตร มหาวิทยาลัยสวนดุสิต คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ ภาคการศึกษา 1/2561