ลายไทยเกิดจากความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนา จึงเป็นเหตุสำคัญให้ช่างหรือศิลปินประดิษฐ์ลายไทยโดยได้แนวคิดมาจาก ดอกบัว พวงมาลัย ควันธูป และเปลวเทียน แล้วนำมาสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นลวดลายต่างๆ เช่น ลายกนก ลายเปลวเพลิง ลายใบเทศ ลายพฤษชาติ ซึ่งเมื่อศึกษาถึงที่มาของลวดลายเหล่านั้น พบว่าบางส่วนมีการพัฒนาจากรูปดอกบัวหลากหลายชนิด อาทิ บัวหลวง บัวสัตตบงกช บัวสัตตบุษย์ และมีการพัฒนาจากลักษณะการเคลื่อนไหวของเปลวไฟที่มีความพลิ้วไหว จึงนำมาสร้างสรรค์ให้เกิดลายไทยที่สวยงาม
แม้ว่าศิลปะไทยจะได้รับอิทธิพลจากหลายประเทศ เช่น อินเดีย จีน ขอม เขมร แต่ช่างไทยก็สามารถนำไปพัฒนาลวดลายจนมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองที่มีความแตกต่างไปจากชาติตะวันตก คือ ศิลปะไทยแตกต่างไปจากศิลปะตะวันตกตรงที่ศิลปะตะวันตกนั้นเป็นแบบธรรมชาตินิยม แต่ศิลปะไทยจะดัดแปลงธรรมชาติไปตามคตินิยมที่คิดสร้างสรรค์จากปรัชญา (ความเชื่อในเรื่องสวรรค์นรก) ดังภาพพระแม่ธรณีบิดมวยผม

ที่มา : https://pixabay.com/en/mother-earth-squeeze-the-bun-1581680/
ลวดลายไทยบางอย่างก็ได้จากธรรมชาติ ต้นไม้ หรือสัตว์ และการได้รับอิทธิพลความเชื่อเกี่ยวกับศาสนารวมถึงในด้านของไสยศาสตร์ ทำให้ลายไทยเข้าไปมีส่วนร่วมในการรับใช้สถาบันพุทธศาสนา และรับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยนำไปใช้ประดับตกแต่งอาคารสถานที่หรือสถาปัตยกรรม เช่น โบสถ์ วิหาร ปราสาท พระราชวัง เครื่องนุ่งห่ม สิ่งของเครื่องใช้ เครื่องประดับ ทางด้านบ้านเรือนและสิ่งของเครื่องใช้มีหลายรูปแบบและถูกนำไปใช้ในโอกาสต่างๆ โดยเฉพาะลายไทยพื้นฐาน นอกจากนำมาประยุกต์ใช้งาน เกิดผลงานทางด้านการออกแบบสร้างสรรค์ในหลายสาขาต่างๆ แล้วยังเป็นการดำรงคุณค่าทางศิลปะ วัฒนธรรมของไทยให้ปรากฏแก่ผู้พบเห็นทั้งชาวไทยด้วยกันและชาวต่างชาติ
การศึกษาการวาดเส้นลายไทยจะแยกเป็นสองรูปแบบใหญ่ๆ คือ ลายไทย และจิตรกรรมไทย ซึ่งลายไทยที่เป็นลวดลายหลักสำคัญ ดังนี้
- ลายกระหนก เป็นลายพื้นฐานหนึ่งที่สำคัญของลายไทย มีพื้นฐานจากสามเหลี่ยมชายธง อาจมีตัวเดียว หรือหลายตัวก็ได้ มักมีฐานมุมแหลมหันไปทางเดียวกัน โดยมีขนาดและสัดส่วนที่แตกต่างกันไป ลายกระหนกที่สำคัญ ได้แก่ กระหนกสามตัว กระหนกสามตัวเปลว
- ลายกระจัง เป็นลายพื้นฐานประเภทหนึ่งที่สำคัญของลายไทย รูปทรงคล้ายสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ต้นแบบลายนี้มาจากธรรมชาติ เช่น กระจังตาอ้อย ต้นอ้อย กระจังฟันปลา
- ลายทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ลวดลาย “ลายช่อ” ที่มีรูปทรงพุ่ม ได้รับแรงบันดาลใจมาจากข้าวปั้นตีแต่งเป็นรูปคล้ายดอกบัวตูมที่ใช้บวงสรวงบูชา นิยมนำไปใช้งานทางด้านที่เกี่ยวกับศาสนา
- ลายประจำยาม ลวดลายที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัสตะแคง มีลักษณะคล้ายดอกไม้ โดยดัดแปลงมาจากดอกไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ดอกสี่ทิศ”
- ลายกาบ เป็นลายที่กำเนิดลาย “ช่อลาย” โครงสร้างของลายนี้มาจากพืชพันธุ์ในส่วนที่เป็นกาบหุ้มตรงโคนหรือข้อ เช่น กาบของต้นไผ่ กาบต้นกล้วย
- ลายนกคาบและนาคขบ มีลักษณะเป็นหน้าของนกหน้านาคที่เอาปากคาบลายตัวอื่นเอาไว้หรือมีลายช่ออื่นๆ ออกทางปาก ตำแหน่งของลายนกคาบจะอยู่ตรงข้อต่อที่จะเชื่อมก้านกันและกัน
“ลายไทย” งานประดิษฐ์กรรมในเชิงศิลปะชั้นสูงและสืบเนื่องมาแต่ครั้งโบราณกาลของไทย งานศิลปะที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยบ่งบอกถึงภูมิปัญญาของคนไทยหรือช่างไทย ใช้จินตนาการในเชิงสร้างสรรค์มีแบบอย่างเฉพาะตัว นับได้ว่าเป็นศิลปะและวัฒนธรรมอันมีค่าของชาติเป็นที่เชิดหน้าชูตา ได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศว่า “ศิลปะลายไทยสวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลก” แต่ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่นั้น มักไม่ค่อยมีโอกาสได้สัมผัสกับงานศิลปะไทยอย่างลึกซึ้ง อาจจะทำให้ศิลปะลายไทยค่อยๆ จางหายไป เพราะฉะนั้นเราควรรักษาและสืบสานศิลปะลายไทยไว้ให้อยู่คู่กับประเทศไทยตลอดไป
บรรณานุกรม
เสน่ห์ ธนารัตน์สฤษดิ์. (2550). ศิลป์ลายไทย. กรุงเทพฯ : เฉลิมชัยการพิมพ์.
เศรษฐมันตร์ กาญจนากุล. (2535). เส้นสายลายไทย. กรุงเทพฯ : เฉลิมชัยการพิมพ์.
ภูทเรศษ์ พรมดี. (2014). ลายไทย. สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2562, จาก http://jtfud.blogspot.com/
ศิลวัฒ ชอบจิตต์. (ม.ป.ป). ลายไทย. สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2562, จาก https://sites.google.com/site/thailandsart/2
บ้านจอมยุทธ์. (2543). ศิลปะลายไทย. สืบค้นเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2562, จาก https://www.baanjomyut.com/library_2/extension-3/evolution_of_thai_art/05.html
บ้านจอมยุทธ์. (2543). ลักษณะของงานศิลปะไทย. สืบค้นเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2562, จาก htmlhttps://www.baanjomyut.com/library_2/extension-3/
evolution_of_thai_art/02.html
nkstec. (มปป.). ลายไทย. สืบค้นเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2562, จาก http://www.nkstec.ac.th/UserFiles/File/information/laithai01.pdf
ภาพประกอบ
Ljungkngs. (ม.ป.ป). ภาพพระแม่ธรณีบิดผมมวย. ค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2562 จาก https://pixabay.com/en/mother-earth-squeeze-the-bun-1581680/
วาดภาพลายไทยพื้นฐานทั้งหมด โดย นุชจรีย์ เมืองแตง เมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2562
เรียบเรียงโดย นุชจรีย์ เมืองแตง นักศึกษาฝึกงานจาก มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาสารสนเทศศาสตร์ (สารสนเทศศาสตร์ศึกษา) ภาคการศึกษา 2/2562