โรคและความพิการที่เกิดจากความเสี่อมหรือ ความชรา
1. หัวใจและหลอดเลือด
ได้แก่ ความดันโลหิตสูง
หลอดเลือดในสมองแตก ไขมันในเลือดสูง
และหลอดเลึอดแดงแข็งแรง
และตีบตัน
2. มะเร็ง
3. เบาหวาน
4. ข้อและกระดูก
5. จิตประสาท
6. ระบบทางเดินอาหาร(ท้องผูก ท้องเดิน และถุงน้ำดีอักเสบ)
7. ระบบทางเดินหายใจ(หลอดลมพอง และหลอดลมอักเสบ)
8. ไตและโรคที่เกี่ยวกับปัสสาวะ
9. ถุงน้ำดี
10. ตา
11. หู
*********

10.ตา
สายตา เปลี่ยนแปลงเสื่อมลงตามอายุ อายุมากแก้วตาจะแข็งขึ้น กล้ามเนื้อตายืดหยุ่นไม่ดีจึงไม่สามารถ
ขยับเลนซ์ คือแก้วตาในการมองใกล้และมองไกลได้ดีอย่างหนุ่มสาว ต้องใช้แว่นช่วย ที่เรียกว่า
สายตายาว คือมองไกลไม่ชัดมองใกล้ไม่เห็น
คนแก่ตามืดตามัวยามค่ำคืนซึ่งอาจจะเป็นเพราะขาดไวตามินเอ
หรือการปรับแก้วตาเสื่อมจากความชราและสายตาคนแก่ไม่สามารถแยกสีที่ใกล้เคียงกันเช่น สีน้ำเงินกับสีเขียว ได้ดีเช่นคนหนุ่มสาว
ทั้ง 3 อย่างข้างต้นไม่ใช่โรคตาแต่เป็นปรากฏการณ์ของความเสื่อมของตาส่วนที่เป็นโรคตา
ได้แก่
1. ต้อหิน
คือลูกตาซึ่งเดิมนุ่มและหยุ่น จะกลายเป็นกลมตึงแข็ง เป็นเพราะความดันภายในโพรงลูกตาเพิ่มมาก ทิ้งไว้นานๆ ต่อไปจะมีอาการปวดลูกตามาก และมักจะปวดศรีษะ
ควบไปด้วย ถ้าเกิดรวดเร็วก็จะคลื่นไส้อาเจียนด้วย
2.ต้อกระจก
เป็นความเสื่อมสภาพของแก้วตาหรือเลนซ์ เมื่ออายุมากๆ เลนซ์จะฝ้าขุ่นมัว ทำให้การเห็นเลวลงๆ จนมืดมิด ซึ่งจะทำการรักษาได้วิธีเดียวคือ
ผ่าตัด แล้วใส่กระจกหรือพลาสติกแทนเลนซ์
3.โรคของเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงเรตินาแข็งและถูกอุดตัน
ทำให้มีอาการตามืด ตาฟาง คล้ายเป็นต้อกระจก มักจะเป็นในคนสูงอายุมาก โรคนี้ไม่มีทางจะรักษา ต้องปล่อยไปตามสภาพ
วิธีป้องกัน
1.อย่าใช้ยาล้างตาเมื่อไม่มีความจำเป็น โปรดทราบไว้ว่าน้ำในเปลือกตาธรรมชาตินี้ดีที่สุดในการทำหน้าที่ล้างตาท่านอย่างดีแล้ว
2.ไม่ควรใช้ตาสีเมื่ออยู่ในอาคารหรือในที่ไม่สว่าง เพระาปกติคนแก่ตามัวแล้ว
3. บริหารเปลือกตาบนและเปลือกตาล่างทุกวันด้วยการใช้นิ้วชี้รูดกดไปบนเปลือกตาจากคิ้วไปทางหางตา
4. บริหารลูกตาทุกวันด้วยการมองไกลสลับมองใกล้และเกลือกลูกตาไปมา