|
หน้าหลัก
คำนิยามและความเป็นมา
สถิติข้อมูลต่างๆที่น่าสนใจ
แผนนโยบายของรัฐกับงานผู้สูงอายุ
การสร้างเสริมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุ
โภชนาการทั่วๆ
ไป
โรคต่างๆที่มักจะเกิดกับผู้สูงอายุ
การพักผ่อนและการออกกำลังกาย
การศึกษาหาความรู้
การดำรงในศาสนธรรม
การดูแลเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ
การเตรียมตัวเข้าสู่วัยสูงอายุ
บทความและงานวิจัยที่น่าสนใจ
หน่วยงาน
คณะกรรมการ
ที่เกี่ยวข้องกับงานผู้สูงอายุ
รวบรวมข้อมูลโดย :
งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ
ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
|
|
การดูแลตนเองของผู้สูงอายุ
โรคและความพิการที่เกิดจากความเสี่อมหรือ ความชรา
1. หัวใจและหลอดเลือด
ได้แก่ ความดันโลหิตสูง
หลอดเลือดในสมองแตก ไขมันในเลือดสูง
และหลอดเลึอดแดงแข็งแรง
และตีบตัน
2. มะเร็ง
3. เบาหวาน
4. ข้อและกระดูก
5. จิตประสาท
6. ระบบทางเดินอาหาร(ท้องผูก ท้องเดิน และถุงน้ำดีอักเสบ)
7. ระบบทางเดินหายใจ(หลอดลมพอง และหลอดลมอักเสบ)
8. ไตและโรคที่เกี่ยวกับปัสสาวะ
9. ถุงน้ำดี
10. ตา
11. หู
*********
5. จิตประสาท
หรือปัญหาทางใจ หรือสุขภาพจิตผุ้สูงอายุ ในประเทศแถบตะวันตก ขนบธรรมเนียมประเพณีทำให้เป็นปัญหามาก
สถิติการฆ่าตัวตายของผู้สูงอายุ ค่อนข้างสูง ซึ่งแตกต่าง จากกับประเทศไทย ผู้สูงอายุยังได้รับการเคารพยกย่อง ลูกหลานยังเหลียวแลเลี้ยงดูถือเป็น
ขนบธรรมเนียมแสดงออกในความกตัญญูกตเวทีอย่างหนึ่ง
แต่ก็ประมาทไม่ได้ ด้วยสภาวะ เศรษฐกิจ สังคม เปลี่ยนแปลงแนวโน้มไปทางตะวันตก ทุกที หนุ่มสาวชนบทหลั่งไหล
มาหางานทำในเมืองใหญ่ๆ เป็นระยะ ผู้สูงอายุในชนบทถูกทอดทิ้งมากขึ้น ซ้ำร้ายกว่านั้นยังต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานๆ ที่พ่อแม่ส่งมาให้เลี้ยง ที่ร้ายที่สุดคือ
พ่อแม่ ไม่ส่งเงินมาให้ หรือส่งมาไม่พอ ปัญหาจึงเกิดขึ้นกับทั้งผู้สูงอายุและปัญหาเด็กที่ห่าง พ่อแม่ต้องอยู่กับ ตา ยาย ปู่ย่าแก่ๆ ประสาทกินตั้งแต่อายุน้อยๆ
ความรู้สึกหรือการเปลี่ยนแปลงของจิตใจหรือจิตประสาทในผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุที่ใกล้จะเกษียณจะต้องระวังปัญหาเบื้องต้นในเรื่องจิตประสาทนั้ ได้แก่ ข้าราชการ,พนักงานของรัฐบาล, รัฐวิสาหกิจ
ตลอดจนธุรกิจเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่คุ้นเคยกับบริวารติดสอยห้อยตามเอาอกเอาใจ หรือแม้แต่ที่เคยใช้ชีวิตคลุกคลีกับผู้ร่วมงานโดยไม่ได้คลุกคลีกับกลุ่มอื่นๆ
พวกเหล่านี้ที่เกษียณอายุไปแล้ว จะมีความรู้สึกที่เปลี่ยนไปทันที การเปลี่ยแปลงนี้นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เบาที่สุดเริ่มแรกที่สุดของในชีวิตวัยชรา
(คือเกิน 60 ปี หรือตอนปลดเกษียณ) บางคน ทนภาวะนั้ไม่ได้ ประกอบกับเป็นคนอมโรคอยู่ด้วย เลยพาลป่วยกำเริบ บางทีก็ตายเอาง่ายๆ
น้ำหนักสมองของผู้สูงอายุมากๆ นั้น มีน้ำหนักลดลงปกติถึง 200-300 กรัม ซึ่งนับว่าไม่น้อยทีเดียว ดังนั้นประสาทส่วนที่ต้องใช้สมอง
เช่น ความจำ บุคลิกภาพ อาการสั่น การเคลื่อนไหว ปฎิกริยา ตอบรับจะเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดความเชื่องช้า หลงๆ ลืมๆ ปล่อยเนื้อปล่อยตัวในการแต่งกาย ปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม
หมดความสนใจในตัวเอง
กลับเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะจบชิวิตของตนไป
ในผู้สูงอายุ พบว่า จะมีอาการต่างๆ ที่มาจากจิตถึง 60% อาการหรือโรคของกายจริงๆ เพียง 40% เท่านั้น
อาการจิตประสาทนี้ ได้แก่ นอนไม่หลับ อ่อนเพลียอ่อนใจ น้อยใจ จู้จี้ ขี้บ่น ขี้ระแวง หวงงก หลงๆ ลืมๆ หงุดหงิด ปวดท้อง โดยไม่มีสาเหตุ
กลัวไปเสียทุกอย่างนับตั้งแต่กลัวแก่ กลัวตาย กลัวไม่สวย กลัวถูกคู่ครอง ลูกหลานทอดทิ้ง และกลัวความตาย รวมความ คือ ผู้สูงอายุจะมีปัญหาทางจิตประสาท
ซึ่งก่อให้เกิด อาการความรู้สึกนึกคิดต่างๆ มากมายยิ่งกว่าพยาธิสภาพทางกายเสียอีก ซึ่งนับว่า เป็นความทุกข์อันมีผลทางใจอย่างมหันต์
การป้องกันปัญหาและนวิธีการรักษา
1. หันหน้าเข้าาหาพระธรรม เข้าหาวัดที่สอนให้ปฎิบัติแก่จิตของเราเองไปในทางที่ถูกต้อง เป็นการผักผ่อนอารมณ์ทำให้จิตใจสบาย ไม่เคร่งเครียด
2.หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้มีการเคลื่อนไหวของร่างกายโลหิตสูบฉีดดี
3.กินอาหารให้ถูกต้อง ตามหลักโภชนาการของผู้สูงอายุ
4.ให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์เป็นประจำ
5.สร้างความอบอุ่นภายในครอบครัวเป็นประจำ อย่าทิ้งขว้างปล่อยให้อยู่อย่างเดียวดาย ยกเว้นมีนิสัยชอบก็อย่าขัดใจ
6.อย่าขัดใจคนแก่ คนแก่ที่มีความเคยชิน กับห้องที่เคยอยู่ ของที่เคยใช้ อย่าเข้าไปยุ่งหรือไปช่วยทำความสะอาด ยักย้ายถ่ายเท กวาดทิ้งเป็นอันขาด
เพราะท่านจะจำไม่ได้ ก็ท่านเคยหยิบเคยคลำมา 30-40 ปีแล้ว อย่าไปยุ่งให้ท่านสับสนอีกเป็นอันขาด
7.ท้องถิ่นรัฐบาลหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ เช่น กรมประชาสงเคราะห์ การเคหะฯ กทม. หรือเทศบาลทุกแห่ง น่าจะจัดหาหรือสนับสนุนให้มีการจัดตั้ง
ชมรมหรือสโมสรเป็นที่พบปะเสวนาและจัดให้มีคลีนิคผู้สูงอายุตามชมชุนต่างๆ ให้มีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุและเตรียมที่จะเป็นผู้เกษียณจากงาน
มีต่อ..
 สนเทศน่ารู้
 ขึ้นด้านบน
|