สนเทศน่ารู้ :: วันปิยมหาราช 

  พระราชกรณียกิจ ด้านการทหารและการป้องกันประเทศ

พระราชประวัติ

พระราชกรณียกิจ ::>> ด้านสังคม | สาธารณสุขและสาธารณูปโภค | การเศรษฐกิจและการคลัง | การคมนาคมและการสื่อสาร | การศาสนา
การยุติธรรม กฎหมายและศาล | การทหารและการป้องกันประเทศ | ภาษาและวรรณกรรม | ศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม | การศึกษา
  • ปรับปรุงการทหาร
  • ตั้งโรงเรียนเพื่อผลิตทหาร
  • เลิกระบบไพร่ใช้การเกณฑ์ทหารแทน
  • การรักษาความปลอดภัย

ปรับปรุงการทหาร


พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์ประธานและจัดประชุมเทศาภิบาล กระทรวงมหาดไทย

การฝึกซ้อมทหารปืนใหญ่ที่สนามหลวง เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๒-๒๔๔๕ อันเป็นการฝึกกำลังทหารตามแบบตะวันตก
   
          หลังจากเสด็จประพาสสิงคโปร์และชวาในพุทธศักราช ๒๔๑๕ พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดการทหารใหม่ โดยแบ่งหน่วยทหารในกองทัพเป็นทหารบกและทหารเรือ ทหารบกประกอบด้วย กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กรมทหารรักษาพระองค์ กรมทหารล้อมวัง กรมทหารม้า กรมทหารปืนใหญ่ กรมทหารช่างและกรมทหารฝีพาย ส่วนทหารเรือประกอบด้วยกรมทหารเรือพระที่นั่งเวสาตรี(ทหารช่างแสงเดิม) และกรมวรสุมพล(ทหารมารีนเดิม) นอกจากจัดแบ่งกรมทหารใหม่แล้ว ยังจัดการเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ทันสมัย เช่น สั่งปืนแกตตาลิ่งเข้ามาเป็นครั้งแรก กำหนดระเบียบการบังคับบัญชาให้รัดกุมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
        

ตั้งกระทรวงกลาโหม


กระทรวงกลาโหม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้พันเอกเจ้าหมื่นไวยวรนาถ สร้างตึกใหญ่ขึ้นที่ข้างพระบรมมหาราชวัง ใกล้ข้างศาลหลักเมือง ใน พ.ศ. ๒๔๒๔ และโปรดให้สถาปนาจากกรมขึ้นเป็นกระทรวง เมื่อ ๑ เมษายน ๒๔๓๔
 
          ได้ดำเนินการปฎิรูปการทหารให้ก้าวหน้าขึ้น คือ ตั้งกรมยุทธนาธิการขึ้นในพุทธศักราช ๒๔๓๐ ยกฐานะขึ้นเป็นกระทรวงเมื่อพุทธศักราช ๒๔๓๓ และตั้งเป็นกระทรวงกลาโหมในพุทธศักราช ๒๔๓๗ ตามลำดับ นอกจากนั้นโปรดเกล้าฯ ให้จัดกองทหารขึ้นตามหัวเมืองต่างๆ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ราษฎร

       ตั้งโรงเรียนเพื่อผลิตทหาร

          เริ่มดำเนินการเมื่อพุทธศักราช ๒๔๒๔ เป็นโรงเรียนนายร้อยและนายสิบ ต่อมาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๙

เลิกระบบไพร่ใช้การเกณฑ์ทหารแทน

          ทรงเปลี่ยนแปลงสถานะไพร่ให้เป็นคนสามัญ โดยโปรดให้ยกเลิกระบบไพร่ หรือการเกณฑ์แรงงาน "ไพร่" คือ ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศที่มีอายุ ๑๕-๒๖ ปีขึ้นไป จนถึงอายุ ๗๐ ปี ทำหน้าที่รับใช้เจ้านายเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ได้รับความคุ้มครอง พระองค์ทรงเห็นว่ากำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ คือ ราษฎรที่จะมีเวลาพอเพียงสำหรับการทำมาหากินเพื่อสร้างเสริมรายได้ให้แก่ครอบครัวและประเทศชาติ การเกณฑ์แรงงานมาปฎิบัติงานให้ราชการทุกปี ปีละ ๓ เดือน โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ทำให้ราษฎรไม่สามารถทำมาหากินได้เต็มที่พระองค์จึงทรงโปรดฯ ให้ยกเลิกระบบไพร่ หรือการเกณฑ์แรงงานประชาชน มาเป็นการเกณฑ์ทหาร ตามกำหนดเวลาที่แน่นอนเพียง ๒ ปี หลังจากที่รับใช้ชาติครบ ๒ ปี ราษฎรจะเป็นอิสระประกอบอาชีพปฏิบัติภารกิจของตนได้เต็มที่

การรักษาความปลอดภัย

          โปรดเกล้าฯ ให้สร้างป้อมต่างๆ ตามหัวเมืองชายทะเล เพื่อเป็นด่านหน้าปกป้องคุ้มครองประเทศ เช่น ป้อมพระจุลจอมเกล้า ป้อมปู่เจ้าสมิงพราย ปรับปรุงเรื่องยุทธปัจจัยและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ทันสมัย โปรดให้สร้างเรือรบเพิ่มขึ้นหลายลำ เช่น เรือพระที่นั่งเวสาตรี เรือรบหลวงมกุฎราชกุมาร เรื่อพระที่นั่งมหาจักรี เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง และเรือรบหลวงสุริยมณฑล เป็นต้น

การรักษาความสงบภายใน

          พุทธศักราช ๒๔๔๐ ทรงตั้งตำรวจภูธรขึ้นสนับสนุนกรมตำรวจ ในส่วนกลาง ดำเนินการปราบปรามโจรผู้ร้ายอย่างมีแผนและต่อเนื่อง ให้กรมตำรวจทั้งภูธรและนครบาลขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๔ โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธรที่ จังหวัดนครราชสีมา นับเป็นโรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธรแห่งแรกของเมืองไทย ต่อมาย้ายมาอยู่ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จนถึงปัจจุบัน คือ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นั่นเอง

 

        สนเทศน่ารู้  ขึ้นด้านบน


  
ปรับปรุงล่าสุด : 26 ธันวาคม 2549 15:47:17 น.