|
|
||||||||||||||||||||||||
| พระราชกรณียกิจ ด้านการคมนาคมและการสื่อสาร | ||||||||||||||||||||||||
|
พระราชประวัติ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เริ่มต้นจากการพัฒนาทางรถไฟก่อน ต่อมาจึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาทาง หรือถนนควบคู่ไปกับการพัฒนาทางรถไฟ เพื่อให้ถนนหรือทางเกวียนเหล่านั้นนำสินค้ามาป้อนทางรถไฟ การพัฒนาการคมนาคมทางบก เป็นผลให้พาหนะทางบกเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ทั้งสัตว์ พาหนะ เกวียน รถลาก รถม้า รถยนต์ รถราง และรถไฟ ทำให้ความเจริญของการพัฒนาได้กระจายไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการทางการเมืองและเศรษฐกิจ
พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ระหว่างกรุงเทพฯ และนครราชสีมา และได้เสด็จพระราชดำเนินไปขุดดินก่อพระฤกษ์ เพื่อประเดิมการสร้างทางรถไฟไปนครราชสีมา นับว่าเป็นการสร้างทางรถไฟครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเริ่มสร้างในปีพุทธศักราช ๒๔๓๓ เปิดเดินรถไปได้ช่วงแรกระหว่างกรุงเทพฯ และอยุธยา เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๓๙ มีการสร้างเสร็จตลอดสายในปีพุทธศักราช ๒๔๔๔ และทรงโปรดเกล้าฯ ให้ทางรถไฟสายนี้เป็น "รถไฟหลวง" แห่งแรกของไทยด้วย หลังจากนั้นโปรดเกล้าฯ ให้เปิดรถไฟสายใต้ ระหว่างกรุงเทพฯและเพชรบุรี ในปีพุทธศักราช ๒๔๔๖ รถไฟสายตะวันออก กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา ในปีพุทธศักราช ๒๔๕๐ ส่วนเอกชนและชาวต่างชาติได้รับพระราชทานสัมปทานสร้างทางรถไฟสายอื่นๆ อีก ทำให้เกิดความสะดวกในการสัญจร และการทำมาหากินของประชาชนมากขึ้น
ในปีพุทธศักราช ๒๔๓๔ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ตัดถนนราชดำเนิน และถนนเยาวราช ส่วนถนนสายอื่นๆ ที่โปรดให้สร้างและบูรณะเพื่อความสะดวกในการสัญจรของราษฎร ได้แก่ ถนนบำรุงเมือง ถนนเจริญกรุง ถนนวังบูรพา ถนนอุณากรรณ ถนนดินสอ ถนนจักรพงษ์ ถนนพระอาทิตย์ ถนนพระสุเมรุ ถนนจักรเพชร ถนนมหาชัย ถนนสี่พระยา เป็นต้น
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานเชื่อมถนนข้ามคลอง เช่น สะพานผ่านฝ้าลีลาศ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ฯลฯ และยังได้พระราชทานทรัพย์จากเงินพระคลังข้างที่อันเป็นเงินส่วนพระองค์ ให้จัดสร้างสะพานขึ้น เพื่อสาธารณประโยชน์เป็นประจำทุกปีในวันเฉลิมพระชนมพรรษาจนถึงปีสวรรคต รวม ๑๗ สะพาน โดยพระราชทานนามสะพานขึ้นด้วยคำว่า "เฉลิม" และตัวเลขต่อท้ายระบุพระชนมพรรษา เช่น สะพานเฉลิมศรี ๔๒ สร้างเมื่อพุทธศักราช ๒๔๓๘ ขณะเจริญพระชนมพรรษา ๔๒ พรรษา นับเป็นสะพานแรก และสะพานสุดท้าย คือ สะพานเฉลิมสวรรค์ ๕๘ เป็นต้น
โปรดให้ขุดคลองเพื่อความสะดวกในการเดินทางคมนาคมทางน้ำ และการทำมาหากินของราษฎร โดยโปรดให้ขุดคลองเก่าและทำประตูระบายน้ำ เช่น ในพุทธศักราช ๒๔๓๕ โปรดเกล้าฯ ให้ว่าจ้างบริษัทขุดคลองและคูสนาม ดำเนินการขุดคลองในบริเวณทุ่งนาระหว่างลุ่มน้ำเจ้าพระยากับจังหวัดนครนายก คลองนี้ใช้ประโยชน์ทั้งทางคมนาคม และการชลประทานเพื่อการเกษตร พระราชทานนามว่า "คลองรังสิตประยูรศักดิ์" ปัจจุบันคือคลองรังสิต เป็นต้น
ตั้งแต่โบราณกาล การติดต่อระหว่างพระนครกับหัวเมืองยังต้องใช้คนเดินสาร
ใช้เรือหรือใช้ม้าเป็นพาหนะ ซึ่งการไปรษณีย์เป็นไปอย่างล้าช้า
ประกอบกับหนทางยังไม่สะดวกสบายเท่าใดนัก
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงทอดพระเนตรเห็นความสำคัญของการสื่อสารทางไปรษณีย์
จึงได้ใช้จังหวัดนครปฐมเป็นที่เริ่มต้นการไปรษณีย์เป็นครั้งแรกของเมืองไทย
ในปีพุทธศักราช ๒๔๑๒ หลังจากการไปรษณีย์เปิดดำเนินการแล้ว แต่การทำงานยังไม่สามารถทำได้เต็มที่
เนื่องจากในขณะนั้นยังมีป่าไม้อยู่เป็นจำนวนมาก การสื่อสารทางโทรเลขจึงไม่ประสบผลสำเร็จ
กระทรวงกลาโหมได้นำวิทยาการสมัยใหม่ที่เรียกว่า "โทรศัพท์" มาทดลองใช้ในปีพุทธศักราช ๒๔๒๔ ติดตั้งทดลองใช้ครั้งแรก ตั้งแต่กรุงเทพฯ ถึงเมืองสุมทรปราการ การสร้างสิ่งสาธารณูปโภคเกี่ยวกับโทรศัพท์ สร้างมาเป็นเวลานานกว่า ๓ ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ครั้งแรกในปีพุทธศักราช ๒๔๒๙ แล้วกรมโทรเลขก็ได้รับโอนเข้ามาตั้งโทรศัพท์กลางขึ้นในกรุงเทพฯ พร้อมกันนี้ก็ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไป บริษัทห้างร้านเอกชน และส่วนราชการ ได้มีโอกาสเช่าโทรศัพท์เพื่อเป็นธุรกิจติดต่อสื่อสารกัน จนกระทั่งทุกวันนี้
อ้างอิง
รวบรวมข้อมูลโดย : งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด |
||||||||||||||||||||||||