สนเทศน่ารู้ :: ผู้สูงอายุ

หน้าหลัก

 คำนิยามและความเป็นมา

สถิติข้อมูลต่างๆที่น่าสนใจ

แผนนโยบายของรัฐกับงานผู้สูงอายุ

 การดูแลเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ
     
ภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ
     
การใช้ยาในผู้สูงอายุ

การเตรียมตัวเข้าสู่วัยสูงอายุ   

บทความและงานวิจัยที่น่าสนใจ

หน่วยงาน คณะกรรมการ
ที่เกี่ยวข้องกับงานผู้สูงอายุ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

รวบรวมข้อมูลโดย : งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด

 

การดูแลเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ

การใช้ยาในผู้สูงอาย

การใช้ยาในผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และโอกาสเกิดอันตรายจากการใช้ยามาก เพราะโดยทั่วไปยาที่ใช้รักษาโรคซึ่งมีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาด ไม่ใช้ยาที่ปรุงหรือเตรียมสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ฉะนั้นการออกฤทธิ์และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของยาภายในร่างกายผู้สูงอายุย่อมแตกต่างกับที่ใช้ในวัยอื่น  ได้มีผู้ศึกษาพบว่าผู้ป่วยอายุ 60-70 ปี จะมีอันตรายจากการใช้ยาเป็น 2 เท่าของผู้ป่วย 30-40 ปี จึงเป็นหน้าที่หลักของพยาบาลและบุตรหลานที่ใกล้ชิด ที่จะต้องดูแลให้ผู้สูงอายุใช้ยาอย่างปลอดภัยและได้รับผลในการรักษามากที่สุด

            ผลข้างเคียงจากการใช้ยาในผู้สูงอายุ
1.การใช้ยาด้วยตนเอง
มักได้รับประสิทธิภาพจากการใช้ยาลดลง เพราะท่าทีและความคิดบางอย่างของผู้สูงอายุในการ ใช้ยา และไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษาที่คล้ายกันดังนี้
                  1.1 ผู้ป่วยหยุดใช้ ยาเองเมื่ออาการของโรคบรรเทาขึ้น
                  1.2 อิทธิพลของญาติและเพื่อนที่มีผลให้ไม่รับยาตามแผนการรักษา
                  1.3 เพิ่มขนาดยาเอง เพราะเชื่อว่าจะทำให้หายจากอาการหรือโรคที่เป็นเร็จขึ้น
                  1.4 จากผลข้างเคียงของยาที่ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องการใช้ยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ระคายเคืองกระเพาะ รวมทั้งกลิ่น รส เป็นต้น
                  1.5 ไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษา เช่น ยาบางชนิดจะทำให้ง่วงซึม ผู้ป่วยควรได้รับการผักผ่อนแต่ไม่ปฏิบัติตาม
                  1.6 ใช้ยาที่เสื่อมสภาพ
                  1.7 ลืมกินยา 

2. จากการได้รับยาเป็นเวลานาน
ในกรณีที่ได้รับยาบางชนิดเป็นระยะเวลานาน เช่น การใช้ยาในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ยาอาจทำให้เกิดการขาดสารอาหารบางอย่างได้ โดยยาทำให้เบื่ออาหาร การรับรสแปรเปลี่ยน ปากแห้ง หรือรบกวนดูดซึมสารอาหาร การเปลี่ยนแปลงการขับถ่าย ดังตารางต่อไปนี้
ตารางแสดงอาการทางคลินิคที่เกิดจากได้รับยาเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดการขาดสารอาหาร

ยาที่ผู้ป่วยได้รับ สารอาหารที่บกพร่อง อาการแสดง
ethanol
colchicine
salicylate
กรดโฟลิก
วิตามินบี 12
เหล็ก
โรคโลหิตจาง
aluminium hydroxide ฟอสเฟต ระดับฟอสเฟตในเลือดต่ำ
oxalates และ phytates
ethanol
แคลเซียม
แมกนีเชียม
ชักกระตุก เกร็งแข็ง(tetany)
thiazides โปรแตสเชียม การทำงานของกล้ามเนื้ออ่อนแรง
cholestyamine วิตามินเอ การรับรสและการได้กลิ่นผิดปกติ
isoniazid วิตามินบี 6 เกิดพยาธิสภาพของประสาทส่วนปลาย
sodium warfarin และ mineral oil  วิตามินเค ระดับโปรธรอมบินในเลือดต่ำ
tetracyclins ในเด็ก แคลเชียม ฟันเหลือง
ethanol ไธอะมิน อาการทางจิตชนิด Wernicks และ Korsakoft's syndrome
mineral oil วิตามินเอ ตามองไม่เห็นเวลากลางคืนและผิวหนังอักเสบ (hyperkeratosis)
thiazides โซเดียม อ่อนแรง จิตใจสับสน ความดันเลือดต่ำ
phenobarbital วิตามินดี กระดูกอ่อนในเด็ก กระดูก เปราะในผู้ใหญ่
L-dopa และ ethanol วิตามินบี ผิวหนังอักเสบ ขนร่วง
methotrexate โฟเลท mucositis และ stomatitis

ฉะนั้นการให้ยาแก่ผู้สูงอายุควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1.ความจำเป็นที่ต้องใช้ยา
2.ให้การวินิจฉัยที่ถูกต้อง
3.ขนาดของยาที่ต่ำเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา
4.รูปแบบของยา ที่เหมาะสม
5.ผลข้างเคียงหรือฤทธิ์ยาที่ไม่พึงประสงค์ ต้องให้ความระมัดระวัง และเมื่อคาดว่าจะเกิดให้หยุดหรือปรึกษาแพทย์
6. ปฏิกิริยาต่อกันของยา 
7. ความชัดเจนของการอธิบายเกี่ยวกับการใช้ยาที่ถูกวิธีรวมทั้งการเก็บรักษา
8.ไม่ควรให้ยาติดต่อกันเป็นเวลานาน

3.ข้อพึงปฏิบัติในการให้ยาผู้สูงอายุ
                  3.1 ประเมินสภาวะผู้ป่วยโดยดูอาการสภาวะของโรค ความสามารถในการเรียนรู้ของผู้สูงอายุแต่ละคน เพื่อเป็นแนวทางในการอธิบายและให้คำแนะนำที่ดีที่สุด พยาบาลควรกระตุ้นให้ผู้ป่วยเห็นความสำคัญของการใช้ยาที่ถูกวิธี และตรงตามแผนรักษา
                  3.2 มีการประเมินผล การรับรู้ ความเข้าใจ และแนวคิด โดยการซักถามและอาจให้ลองปฏิบัติ รวมทั้งชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม เปิดโอกาสให้มีการซักถามเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยและญาติเข้าใจได้ถูกต้อง
                  3.3 อธิบายถึงการใช้ยาแต่ละชนิด
                  3.4 อธิบายถึงความจำเป็นของการใช้ยาตามแผนการรักษา
                  3.5 อธิบายขนาดของยาที่ได้รับ เช่น ความหมายของภาชนะที่จะใช้ ความหมาย ของช้อนโต๊ะ ช้อนชา จำนวนครึ่งเม็ด ครึ่งเม็ด เต็มเม็ด จำนวนแคปซูล จำนวนหยุด เป็นต้น
                  3.6 อธิบายเกี่ยวกับการกำหนดเวลาในการได้รับยาและความหมายต่างๆ พร้อมกับผลเสียของการใช้ยาไม่ถูกเวลา
                  3.7 ให้ถูกชนิด ระวังการให้ยาผิด ยาที่ใช้รับประทานต้องแยกอยู่คนละหมวดกับยาใช้ภายนอก ทำป้ายฉลากห้ามรับประทานให้เด่นชัด 
                  3.8 ให้ถูกวิธีทางพร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ เช่น ยาที่ต้องเคี้ยวก็เพื่อให้ยาแตกตัวได้ มีการกระจายตัวของยาไปยังอวัยวะที่มีอาการได้เร็ว เป็นต้น
                  3.9 ให้รับประทานยาต่อหน้าและให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ยาดูดซึมได้ดีและสังเกตฤทธิ์และอาการที่ไม่พึงประสงค์จากยา เพื่อช่วยเหลือได้ทันที
                  3.10 ดูแลให้ได้รับน้ำดื่มและอาหารทีมีคุณค่าต่อร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่อาจทำให้เกิดปฏิกริยาต่อกันของยา
                  3.11 ไม่ซื้อยารับประทานเอง ไม่ใช้ยาของบุคคลอื่น แม้จะป่วยเป็นโรคคล้ายคลึงกัน
                  3.12 สังเกตการเสื่อมสภาพและการหมดอายุของยา เช่น กลิ่น สี รส ความชื้น รูปทรงที่เปลี่ยนแปลง ลักษณะเม็ดยา ความเหนียว และป้ายบอกวันหมดอายุซึ่งมักเขียนเป็นภาษาต่างประเทศ คือ expire date(exp. date) เป็นต้น
                  


อ้างอิง

จรัสวรรณ เทียนประภาส,พัชรี ตันศิริ บรรณาธิการ. 2536. การพยาบาลผู้สูงอายุ.พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : คณะกรรมการพัฒนาตำรา สาขาพยาบาลศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.

กลับหัวเรื่อง....

สนเทศน่ารู้  ขึ้นด้านบน 

ปรับปรุงล่าสุด : 20 ธันวาคม 2549 15:21:29 น.