ชาเขียวนั้นนอกจากช่วยป้องกันโรคหัวใจ และโรคมะเร็งแล้ว งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในฮ่องกง ที่ศึกษาจากสารคาเทชิน (catechins) 3 อย่างจากชาเขียว คือ epigallocatechin (EGC), gallocatechin (GC) และ gallate gallocatechin (GCG) พบว่า epigallocatechin (EGC) นั้นสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกได้ถึง 79% และไม่มีอันตรายใดๆ ต่อกระดูก
Tag: ชา
ข่าวดีสำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ทุกท่าน ที่ต่อไปไม่ต้องทานยาเยอะๆ อีกต่อไปแล้ว เพราะแค่คุณดื่มชาวันละแก้ว ก็สามารถยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ดร. เอ็ด โอเคลโล่ แห่งศูนย์วิจัยสมุนไพร มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ ได้รายงานผลการวิจัยว่า การที่คุณดื่มชาเขียว หรือชาดำวันละ 1 ถ้วยทุกวัน สามารถยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะ ในชาเขียว และชาดำ มีสารที่ช่วยยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้การดื่มชาเขียวยังสามารถป้องกันการเกิดปฏิกิริยาเบต้าซีเครเทส (Beta-secretase) ที่เป็นขั้นตอนในการผลิตตะกอนโปรตีนในสมอง อันเป็นสาเหตุของการป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ แต่คุณจะต้องดื่มชาเขียวอย่างน้อย 1 อาทิตย์ถึงจะเห็นผลดี แต่หากคุณดื่มชาดำเพียงแค่ 1 วันคุณก็สามารถเห็นผลได้เร็วกว่าการดื่มชาเขียวหลายเท่า ถึงแม้ว่าแพทย์จะไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายได้ แต่จากการวิจัยเรื่องการดื่มชา ก็สามารถยับยั้งและลดภาวะเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ราคาถูกผลข้างเคียงก็ไม่เกิด “ดื่มชาย่อมดีกว่าการรับประทานยานะคะ” ที่มา : คอลัมน์ Living Beware นิตยสาร ใกล้หมอ ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2549 ปีที่ 30 ฉบับที่ 11 ที่มาภาพ : http://www.sxc.hu รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
ก่อนที่ยอดอ่อนคู่แรกของใบชาจะเริ่มผลิบาน ในช่วงนั้นเองเราจะได้เก็บเกี่ยวชาขาวมาลิ้มรส ซึ่งมีโอกาสให้เก็บได้เพียงไม่กี่วันของฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น จุดเด่นของชาขาวที่ไม่เหมือนชาชนิดอื่นๆ ด้วยลักษณะที่เล็กและบอบบางของตูมชาขาว ซึ่งจะมีเส้นขนอ่อนๆ สีขาวประกายเงินปกคลุมอยู่ ยิ่งปกคลุมมากเท่าไหร่ยิ่งหมายถึงชาคุณภาพดีมากเท่านั้น ตลอดจนความละเอียดอ่อนในขั้นตอนของการผลิต ทำให้ต้องใช้ชาในปริมาณที่มากกว่าชาประเภทอื่นต่อการชงเพื่อให้ได้น้ำชา 1 แก้วถึงจะได้น้ำชาขาวสีเหลืองทองอำพัน ซึ่งมีรสชาตินุ่มนวลกลมกล่อมและชุ่มคอแบบธรรมชาติ โดยที่ไม่มีรสขมฝาดแบบชาเขียวหรือชาดำ ขั้นตอนการผลิต หลังจากเก็บตูมชาขาวมาปุ๊บ ก็จะทำการตากให้แห้งทันทีด้วยแสงแดดธรรมชาติ ด้วยกรรมวิธีที่ไม่ผ่านกระบวนการหมักบ่มเช่นนี้นี่แหละ จึงทำให้ชาขาวยังคงสารต่อต้านอนุมูลอิสระไว้ได้มากกว่าชาเขียวถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังมีคุณค่าวิตามินซี และวิตามินอีอีกด้วย ดื่มชาขาว วางใจได้เรื่องกาเฟอีน มีการวิจัยพบว่าชาขาวมีปริมาณกาเฟอีนอยู่น้อยกว่าชาชนิดอื่นๆ โดยมีกาเฟอีนอยู่เพียง 15 มิลลิกรัมเท่านั้น ขณะที่ชาเขียวและชาดำจะมีกาเฟอีนอยู่ประมาณ 20 และ 40 มิลลิกรัม ตามลำดับ ที่มา : นิตยสาร Lisa vol.6 no.10 วันที่ 10.3.2005 รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
น้ำชานอกจากจะเป็นเครื่องดื่มแล้ว ยังช่วยขจัดกลิ่นคาวได้ เวลาที่ใช้มือแกะกุ้ง, ปู, ปลา ให้ล้างมือในถ้วยน้ำชาอุ่นที่เตรียมไว้ แล้วเช็ดด้วยกระดาษเช็ดมือ มือจะไม่เหม็นคาว ส่วนน้ำชาก้นกาที่เหลือในตอนเช้าอย่าเพิ่งเททิ้ง ให้ใช้เศษผ้าชุบ นำมาเช็ดถูบานกระจกหน้าต่างหรือกระจกส่องหน้า จะทำให้กระจกใสสะอาดมองดูใหม่ และยังประหยัดเงินไม่ต้องซื้อน้ำยาล้างกระจกอีกด้วย ที่มา: หนังสือความรู้คู่บ้าน โดย พรรณิภา ต่วนโสภณ รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
ชาเป็นเครื่องดื่มที่ได้จากใบอ่อนของต้นชา พืชในตระกูล Camellia sinensis เครื่องมือในการเก็บชาที่ดีที่สุดคือมือของมนุษย์ ชาเป็นคำจีนที่ปรากฏอยู่ในภาษาไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา น่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า “ฉา” พ่อค้าจีนที่เข้ามาค้าขายคงจะนำมาเผยแพร่ น้ำชายุคนั้นถือเป็นของดีนำมาใช้รับรองแขก นิยมดื่มเฉพาะขุนนาง ผู้มีฐานะ และพระสงฆ์ มีสำนวนไทยคือ “ค่าน้ำร้อนน้ำชา” เข้าใจว่าชาวจีนที่ไปติดต่อกับขุนนางได้ใช้ขึ้นก่อน เมื่อนำเงินไปติดสินบน