เกาลัดคั่วที่เห็นมากแถวเยาวราช มักจะมีเม็ดสีดำเล็กๆ คั่วรวมอยู่ด้วย หลายคนคิดว่าเป็นเมล็ดกาแฟ จริงๆ แล้วไม่ใช่ เจ้าเม็ดสีดำเล็กนั้นคือเม็ดทรายขนาดประมาณ 3-5 มิลลิเมตร เป็นทรายที่ใช้ในการก่อสร้าง หรือที่เห็นตามตู้ปลาสีออกน้ำตาล พ่อค้าจะนำเอาทรายแห้งใส่ลงไปในกระบะใบใหญ่ พอทรายร้อนระอุได้ที่จนเป็นสีดำ ก็จะนำเอาลูกเกาลัดใส่ลงไป บางร้านเติมน้ำตาลทรายคั่วรวมกันให้ได้รสหวาน บางเจ้าเพิ่มกลิ่นหอมด้วยการใส่เมล็ดกาแฟคั่วรวมไป เหตุผลที่ต้องใช้เม็ดทราย ก็เพราะเม็ดทรายช่วยเก็บความร้อนไว้ได้ ซึ่งดีนักสำหรับการทำให้เกาลัดสุกถึงเนื้อผลด้านใน เพราะหากสังเกตกันดีๆ เนื้อผลของเกาลัดนั้นจะไม่ติดกับเปลือก ดังนั้นการใช้ทรายที่ร้อนระอุตลอดเวลาจะช่วยให้เนื้อเกาลัดค่อยๆ สุก แต่ต้องหมั่นคนเพื่อไม่ให้เกาลัดไหม้ ซึ่งจะคั่วกันนานราว 30-40 นาที เม็ดทรายนั้นใช้ได้นานกว่า 1 เดือน เรียกว่าคั่วเกาลัดได้หลายกระทะจนทรายที่เป็นเม็ดเริ่มป่นเป็นผงนั่นแหล่ะจึงจะเปลี่ยนไปใช้เม็ดทรายชุดใหม่ ที่มา : นิตยสาร ครัว krua vol. 13 no. 149 November 2006 รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
Tag: อาหาร
แร่ธาตุมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย แต่คุณทราบไหมว่า แร่ธาตุยังช่วย เสริมสร้างส่วนที่เสื่อมลงได้ด้วย ดังนั้น เมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้นเราจึงต้องการแร่ธาตุอย่างพอเพียงมาช่วยเสริมสร้าง และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แล้วในวัย 50 ปีขึ้นไป ต้องการแร่ธาตุตัวไหนบ้าง อันดับแรกที่นึกถึงคือ แคลเซียม เพื่อรักษาระดับแคลเซียมในกระดูก และลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน พบมากใน นม เนื้อสัตว์ ปลา ถั่วเหลือง วิตามิน บี 12 จะช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และโรคทางระบบประสาท วิตามิน อี จะช่วยชะลอริ้วรอย ลดอัตราการเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคที่มักเกิดกับผู้สูงวัย โครเมียม เป็นตัวช่วยรักษาระดับน้ำตาลให้คงที่ และเพิ่มประสิทธิภาพของอินซูลิน จึงช่วยป้องกันโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ยังมี เบต้า-แคโรทีน ทองแดง ไอโอดีน สังกะสี วิตามินซี และแร่ธาตุกลุ่มน้อยอย่าง ซีเลเนียม ซิลิกอน วานาเดียม นิเกิล ที่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อผู้ที่อยู่ในช่วงวัย 50 ปี เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว การรักษาสมดุลของคุณในวัย 50 ปีขึ้นไป ให้มีความแข็งแรงจนหนุ่มๆ สาวๆ อิจฉา จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ที่มา: คอลัมน์ Vitamin Corner นิตยสาร ใกล้หมอ ปีที่ 30 ฉบับที่ 8 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
เราควรจะรู้ตัวว่าเมื่อไหร่ควรจะพอ และหยุดกิน ไม่ใช่กินเพื่อให้คุ้มตามข้อเสนอที่ทางร้านหยิบยื่น แต่เราต้องกินอย่างใส่ใจกับสุขภาพตระหนักถึงคุณประโยชน์ และโทษที่ได้รับด้วยเช่นกัน 1. กินอาหารประเภทเนื้อสัตว์จำพวกเนื้อหมู ไก่ วัว ปลาหมึก ให้น้อยลง โดยทานเนื้อปลา หรือผักแทนที่ เพราะเป็นอาหารที่ย่อยง่ายอีกทั้งปราศจากไขมัน และไม่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง 2. กินอาหารที่ต้มหรือลวก โดยพยายามกินอาหารประเภทปิ้ง ย่าง ทอด ให้น้อยที่สุด 3. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลมระหว่างทาน เพราะว่าสองสิ่งนี้ให้พลังงานอาหารที่มาก และต้องใช้เวลานานในการเผาผลาญ ควรเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าหรือน้ำชาแทนที่ 4. สังเกตเนื้อสัตว์ก่อนหยิบมารับประทาน หรือปรุง ว่ามีสภาพ รูป สี กลิ่น ต่างไปจากปกติหรือไม่ 5. เมื่อเห็นว่ากระทะหรือเตาย่างเริ่มไหม้ ควรเรียกพนักงานให้เปลี่ยนอันใหม่ให้ ไม่ควรเกรงใจทนกินต่อไป เพราะสิ่งที่สะสมอยู่บนกระทะนั้นนอกจากจะเป็นสารก่อมะเร็งตัวฉกาจแล้ว ยังทำให้เนื้อไม่สุกทั่วถึงกัน เนื่องจากคราบไหม้จะปิดกั้นความร้อนทำให้เนื้อที่ได้ไม่สุกดี 6. อย่ารีบทานจนเกินไป อาจฆ่าเวลาด้วยการเดินย่อย หรือคุยสังสรรค์กับเพื่อน เพื่อช่วยร่างกายในเรื่องการย่อยอาหาร 7. ออกกำลังกายเผาผลาญพลังงานส่วนเกินจากมื้อนั้นๆ ด้วยวิธีเบาๆ เช่น ค่อยๆ เดิน เพื่อกระตุ้นให้กระเพาะย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากกินอาหารแล้วนั้น อย่าเพิ่งล้มตัวลงนอนในทันที ควรจะนั่งพักสักครู่ หรือทำกิจกรรมเบาๆ อื่นๆ ก่อน 8. รับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์ในร้านที่ไว้วางใจได้ ทั้งความสด สะอาดของอาหาร และความอนามัยของภาชนะ อย่าลืมว่า..สิ่งที่คุณจะได้รับไม่ว่าจะดีหรือร้าย ก็จะส่งผลจากสิ่งที่คุณกินเข้าไปนั่นเอง “You are what you eat” ที่มา: คอลัมน์ Special Report นิตยสาร ใกล้หมอ ปีที่ 30 ฉบับที่ 8 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
โรคเหงือกอักเสบเป็นโรคที่ผู้สูงอายุต้องทรมานอยู่เสมอ และยังเป็นสาเหตุให้ฟันหลุดร่วง โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวาน จากผลการทดลองของ US Health Professional Study ซึ่งคัดเลือกชายทั้งหมด 34,160 คน อายุระหว่าง 40-75 ปี เพื่อตรวจหาหลักฐานสนับสนุนถึงความเกี่ยวโยงระหว่างปัจจัยของอาหาร และภาวะเหงือกติดเชื้อ ปรากฏว่า กลุ่มชายที่ตอนวัยหนุ่มมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดเบาหวาน ได้รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงไปจนจบการทดลอง ซึ่งได้ปรับให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของแต่ละคนแล้ว มีแนวโน้มเหงือกติดเชื้อน้อยกว่ากลุ่มที่รับประทานอาหารกากใยน้อยถึง 23% ดังนั้นจึงมีนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเมคมาสเตอร์ ในประเทศแคนาดาจึงสรุปว่า การรับประทานที่มีกากใยสูงที่ไม่เพิ่มแคลอรี จะช่วยให้ผู้สูงอายุลดอัตราเสี่ยงเป็นโรคเหงือกได้ อย่างไรก็ตามอย่ามัวแต่รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงจนลืมรักษาสุขภาพปากและฟันนะคะ มิฉะนั้นอาจมีปัญหาช่องปากมากขึ้นกว่าเดิม ที่มา: คอลัมน์ Health Living หนังสือ Healthy Today ปีที่ 6 ฉบับที่ 66 กันยายน 2549 ที่มาภาพ: http://www.breadworld.com รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
ไม่เพียงแต่อร่อยและเป็นแหล่งสำคัญของวิตามินเอ และบี รวมทั้งแร่ธาตุสำคัญต่อร่างกาย อย่างแมกนีเซียม และโพแทสเซียม กรดผลไม้ในมะเขือเทศ สามารถทำโลชั่นทำความสะอาดผิวได้ เพราะมีฤทธิ์ช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยเฉพาะเมื่อนำมาผสมกับนมจะมีกรดแล็กติกช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิว