![]() > พระราชประวัติ
> หน้าแรก
|
![]() |
|||||
![]() |
||||||
จารึกพ่อขุนรามคำแหง
"ไม่ปลอม" :
จากมุมมองของนักวิทยาศาสตร์
(ต่อ..)
คุณจิราภรณ์ ได้พยายามสำรวจสืบเสาะหาศิลาจารึกหรือโบราณวัตถุสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่ทำจากหินชนิดนี้ จากพิพิธภัณฑ์ วังและวัดหลายๆ แห่งทั้งในกรุงเทพๆ และต่างจังหวัด แต่ยังไม่พบสิ่งที่ต้องการที่พบแล้วไม่ทราบอายุ และที่มาก็มี คือ แท่นหินแกะสลักในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เมื่อวิเคราะห์แล้วพบว่า มีองค์ประกอบใกล้เคียงกับศิลาจารึกหลักที่ ๑ แต่ไม่ทราบว่าทำขึ้นในสมัยใด และนำมาจากที่ใด จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ การที่หินทรายแป้งชนิดนี้ ไม่มีหรือไม่ค่อยมีใช้ในสมัยรัตนโกสินทร์ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะหายาก หรือไม่เป็นที่นิยม จากการศึกษาธรณีวิทยาและสำรวจแหล่งดินบริเวณจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียง พบว่าหินที่ใช้ในการทำศิลาจารึก โบราณวัตถุและโบราณสถานสมัยสุโขทัย ล้วนแล้วแต่นำมาจากหินในบริเวณจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียงทั้งสิ้น
ต่อจากนั้นได้ทำการวิเคราะห์ ปริมาณแร่ธาตุบนตัวอย่าง ทั้งส่วนที่อยู่ที่ผิวและส่วนที่อยู่ด้านใน ด้วยเครื่องมือ Energy Dispersive X-ray Fluorescence Spectrometer ซึ่งเป็นเครื่องมือที่อาศัยหลักว่า เมื่อยิงลำแสงอิเล็กตรอนจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไปยังผิวของตัวอย่าง ลำแสงของอิเล็กตรอนจะทำให้เกิดรังสีเอกซ์ (X-ray) ที่มีพลังงานต่างๆ ขึ้นอยู่กับชนิดของธาตุที่เป็นองค์ประกอบเมื่อวัดพลังงานของรังสีเอกซ์ที่เกิดขึ้น จะสามารถคำนวณหาปริมาณแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบบนจุดเล็กๆ แต่ละจุดบนตัวอย่างได้ เมื่อเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์หลายๆ จุด บนตัวอย่างแต่ละตัวอย่างแล้วหาค่าเฉลี่ย พบว่าความแตกต่างขององค์ประกอบที่ผิวกับส่วนที่อยู่ข้างใน ของศิลาจารึกหลักที่ ๑ หลักที่ ๓ หลักที่ ๔๕ และหลักที่กล่าวถึงชีผ้าขาวเพสสันดร มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน เช่น มีปริมาณ แคลเซี่ยม และแคลเซี่ยมออกไซด์ (ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของแร่แคลไซต์) ลดลงร้อยละ ๓-๑๐ ปริมาณอลูมิเนียม และอลูมิเนียมออกไซด์ (ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของแร่เฟลด์สปาร์ และแร่คลอไรต์) ลดลงร้อยละ ๒-๑๐ เป็นต้น การที่แร่ธาตุบางอย่างบนผิวของศิลาจารึก มีปริมาณแตกต่างจากเนื้อหินด้านใน ก็เพราะกระบวนการสึกกร่อนผุพังของหินเนื่องจากการกระทำของสิ่งแวดล้อมนั่นเอง แร่เฟลด์สปาร์ ไม่ทนทานต่อการสึกกร่อนผุสลาย จึงมักละลายหรือสลายไปเป็นดิน แร่แคลไซต์ ละลายได้ดีในน้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ เช่น น้ำฝน น้ำใต้ดิน ฯลฯ ผิวของ ศิลาจารึกจึงมีแร่เหล่านี้ลดลง ส่วนแร่ควอร์ตซ์ ทนทานต่อการกระทำของสภาวะแวดล้อมได้ดี ปริมาณจึงไม่ลดลง การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยเวลา ไม่สามารถเร่งให้เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ หรือทำเทียมเลียนแบบได้เหมือน |
||||||
|
คัดลอกเนื้อหาส่วนใหญ่ จากนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนกันยายน ๒๕๓๓ | |||||