Sunday, October 12, 2025

นิทรรศการและสื่อส่งเสริมการศึกษา

ผลิตและพัฒนาโดย หน่วยเทคโนโลยีส่งเสริมการศึกษา ฝ่ายเทคโนโลยีห้องสมุด สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง

นิทรรศการนิทรรศการสื่อส่งเสริมการศึกษาสามโลกนิทัศน์ (2561-2562)สื่อส่งเสริมการศึกษาสื่อส่งเสริมการศึกษาด้านผลิตสื่อการศึกษาเดรัจฉานภูมิ

หุ่นจำลองครุฑ: สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในไตรภูมิกถา

ภาพอธิบายการกำเนิดครุฑ 4 รูปแบบ
วาดภาพประกอบโดย: นายกฤษดา เรืองสถาน
นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ

หุ่นจำลองครุฑ (Garuda)

ครุฑเป็นสัตว์ใหญ่ มีอนุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง บินได้รวดเร็ว มีสติปัญญาเฉียบแหลม อ่อนน้อมถ่อมตนและมีสัมมาคารวะ

ครุฑ จัดเป็นสัตว์เดรัจฉานเช่นดียวกัน แต่อาหารและที่อยู่ของครุฑนั้นเหมือนกับของเทวดาในสวรรค์ มีฤทธิ์อำนาจสามารถเนรมิตตนได้เช่นกัน ดังนั้นจึงได้ชื่อว่า “เทพโยนิ”

พญาครุฑ ผู้เป็นใหญ่นั้นร่างกายใหญ่โตถึง 140 โยชน์ ปีกซ้ายขวายาว 140 โยชน์ ยาว 12 โยชน์ เมื่อครุฑกางปีกเต็มที่ บินไปในอากาศจะยาวถึง 700 โยชน์ เวลาเหยียดปีกเต็มที่จะได้ถึง 800 โยชน์

ครุฑ จะมีการเกิดได้ 4 รูปแบบ คือ 

1. ครุฑที่เกิดจากครรภ์

2. ครุฑที่เกิดจากไข่

3. ครุฑที่เกิดจากไคล

4. ครุฑที่เกิดเป็นรูปกายใหญ่โตในทันที

แต่ครุฑที่เกิดจากครรภ์และไข่จะไม่สามารถจับนาคที่เกิดจากไคลและที่เกิดเป็นรูปกายโตใหญ่ในทันทีได้ ครุฑนั้นมีร่างกายใหญ่โตและกำลังวังชาแข็งแรงยิ่งนัก เมื่อเวลาครุฑเฉี่ยวนาคกลางมหาสมุทร น้ำจะแยกออกโดยรอบมีรัศมี 100 โยชน์ ครุฑจะใช้เล็บรัดหางนาค ปล่อยหัวห้อยลง แล้วพาบินไปยังที่อยู่แล้วจึงจะกินเป็นอาหาร ครุฑมักจะเลือกกินนาคที่มีขนาดเท่าตนหรือเล็กกว่า ถ้ามีขนาดใหญ่กว่าก็ไม่สามารถจับกินได้ ณ เชิงเขาพระสุเมรุมีสระใหญ่สระหนึ่งชื่อ “สิมพลี” กว้าง 400 โยชน์ มีต้นงิ้วขึ้นเป็นฟ้าล้อมรอบ มีความสูงเท่ากันราวกับมีผู้ปลูกไว้ ใบเขียวงามน่าดูยิ่งขึ้น และยังมีต้นงิ้วใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ขนาดเท่าต้นไม้ชมพูทวีป สระนี้เป็นที่อยู่ของฝูงครุฑ ไม่มีสัตว์ปีกใดที่เทียบเท่าครุฑได้เลย (กรมศิลปากร, 2555)

ครุฑ เป็นสัตว์ที่ทรงพลัง มีความสง่างาม น่าเกรงขาม รวมถึงมีความลี้ลับอยู่ในตัวเอง มีร่างกายที่ผสมผสานกันระหว่าง รูปร่างของสัตว์กับคนเข้าด้วยกัน ตามคติความเชื่อของพราหมณ์ฮินดูและพุทธศาสนามหายานกล่าวได้ว่า ครุฑเกิดจากการผสมผสานระหว่างองค์ประกอบรูปร่างของสัตว์ที่เรียกว่า นก นั้นคือ หัวนก ขานก และปีกนก เข้ากับรูปร่างของมนุษย์ที่เป็นมนุษย์ผู้ชาย การจำแนกลักษณะครุฑ มีด้วยกัน 5 ประเภท (ส.พรายน้อย, 2542, หน้า 18 และ 19) ได้แก่

  1. ครุฑที่มีลักษณะตัวเป็นคนอย่างคนธรรมดาแต่มีปีก
  2. ครุฑที่มีลักษณะตัวเป็นคน แต่มีหัวเป็นนก
  3. ครุฑที่มีลักษณะตัวเป็นคน แต่มีหัวและขาเป็นนก
  4. ครุฑที่มีลักษณะตัวเป็นนกแต่หัวเป็นคน
  5. ครุฑที่มีลักษณะรูปร่างเหมือนนกทั้งตัว

การจำแนกลักษณะครุฑ 5 ประเภท

1. หุ่นจำลองครุฑที่มีลักษณะตัวเป็นคนอย่างคนธรรมดาแต่มีปีก
ผลิตโดย: นายกฤษดา เรืองสถาน นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ
2. หุ่นจำลองครุฑที่มีลักษณะตัวเป็นคน แต่มีหัวเป็นนก
ผลิตโดย: นายกฤษดา เรืองสถาน นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ
3. หุ่นจำลองครุฑที่มีลักษณะตัวเป็นคน แต่มีหัวและขาเป็นนก
ผลิตโดย: นายกฤษดา เรืองสถาน นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ
4. หุ่นจำลองครุฑที่มีลักษณะตัวเป็นนกแต่หัวเป็นคน
ผลิตโดย: นายกฤษดา เรืองสถาน นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ
5. หุ่นจำลองครุฑที่มีลักษณะรูปร่างเหมือนนกทั้งตัว
ผลิตโดย: นายกฤษดา เรืองสถาน นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ

ขั้นตอนการผลิตหุ่นจำลองครุฑ (ตัวเล็ก)

เมื่อเราได้ข้อมูลเบื้องต้นแล้วให้นำข้อมูลดังกล่าวมาบูรณาการร่วมกับ หลักการผลิตสื่อส่งเสริมการศึกษา หลักการจัดนิทรรศการ ลักษณะและพฤติกรรมของกลุ่มผู้เรียน รวมถึงงบประมาณ เพื่อนำมาออกแบบหุ่นจำลองที่สอดคล้องกับปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาและประเมินโอกาสความสำเร็จได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 85

ซึ่งหุ่นจำลองครุฑชิ้นนี้ ผลิตขึ้นมาด้วยวัสดุเหลือใช้ในอัตราร้อยละ 85 เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสามารถประหยัดงบประมาณได้ ด้วยวิธี Upcycle ดำเนินการออกแบบหุ่นจำลองโดยนายกฤษดา เรืองสถาน นักวิชาการโสตทัศนศึกษา ชำนาญการ ซึ่งนำศิลปะไทยเป็นแนวทางหลักในการออกแบบ เนื่องจากเป็นวรรณคดีไทย โดยมีการปรับประยุกต์รูปแบบการ์ตูนเข้าไปในชิ้นงานด้วย เพื่อให้เกิดการเข้าถึงและเข้าใจที่ง่ายมากยิ่งขึ้นได้ในกลุ่มผู้เรียน ซึ่งจากสถิติการเข้าใช้บริการกลุ่มผู้เรียนมีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 18 – 25 ปี โดยประมาณ อีกทั้งเพื่อให้ดูน่าสนใจดึงดูดการอยากเรียนรู้ที่มากขึ้น ตามที่แสดงในภาพข้างต้น

1. ขึ้นโครงลวดให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับโครงสร้างกระดูกมนุษย์
2. นำฟอยล์ห่ออาหารมาหุ้มโครงลวดที่ดัดเอาไว้แล้ว เพื่อให้เป็นส่วนของกล้ามเนื้อของหุ่นจำลอง
3. หุ้มฟอยล์ห่ออาหาร ด้วยดินญี่ปุ่น เพื่อขึ้นโครงสร้างหลัก และนำโครงหุ่นจำลองมายึดติดกับกระป๋องมันฝรั่งเพื่อเป็นฐานที่ตั้งของหุ่นจำลอง
4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์แช่น้ำให้เปื่อย บีบน้ำออกให้มีความชื้นหมาด ๆ ผสมกาวลงไป และนำมาหุ้มกระป๋องมันฝรั่งที่เป็นส่วนฐาน และสามารถเก็บรายละเอียดหุ่นจำลองได้ด้วยดินญี่ปุ่น
5. เก็บรายละเอียดหุ่นจำลอง ตามข้อมูลที่ได้ศึกษามา เพื่อสื่อสารให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นและส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นด้วย
6. เก็บรายละเอียดหุ่นจำลอง ตามข้อมูลที่ได้ศึกษามา เพื่อสื่อสารให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นและส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นด้วย
7. เก็บรายละเอียดหุ่นจำลอง ตามข้อมูลที่ได้ศึกษามา เพื่อสื่อสารให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นและส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นด้วย
8. หลังจากหุ่นจำลองแห้งสนิท ให้นำสีน้ำพลาสติกสีขาวมาทารองพื้น
9. ลงสีหลักให้กับหุ่นจำลอง
10. เก็บรายละเอียดในส่วนเล็ก ๆ ให้เรียบร้อย
11. เสร็จสมบูรณ์

ขั้นตอนการผลิตหุ่นจำลองครุฑ (ตัวใหญ่)

หุ่นจำลองพญาครุฑ

ตามความเชื่อคติไตรภูมินั้น เดรัจฉานภูมิ เป็นหนึ่งในทุคติภูมิ 4 ที่เกิดจากการกระทำบาป ทั้งนี้หุ่นจำลอง ดังกล่าวผลิตขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสารความรู้ ถึงเนื้อหาสาระจากไตรภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง มุ่งให้เห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักศึกษาและผู้ใช้บริการทั่วไปเกิดความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นและยังประโยชน์ต่อการเรียนการสอน โดยคาดหวังว่าจะเกิดประโยชน์กับกระบวนวิชาวรรณคดีไทยและสาขาอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่เกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ยังต้องการแสดงให้เห็นถึงวัสดุและวิธีการ ในการสร้างหุ่นจำลองดังกล่าว เพื่อให้นักศึกษา ได้นำประสบการณ์ในการสร้างหุ่นจำลองไปปรับใช้กับการเรียน โดยคาดหวังว่าจะเกิดประโยชน์กับกระบวนวิชานิทรรศการทางการศึกษา สาขาวิชาปฐมศึกษา และสาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้

1. เป่าลมเข้าลูกโป่ง
2. นำกระดาษหนังสือพิมพ์เหลือใช้ มาแช่น้ำให้พื้นผิวนิ่มลง
3. น้ำกระดาษที่แช่น้ำแล้วมาแปะบนลูกโป่ง ในขั้นตอนนี้ไม่ต้องผสมกาวลงไปในกระดาษ โดยให้แปะกระดาษหนังสือพิมพ์แช่น้ำ อย่างน้อย 2 ชั้น
4. ในชั้นที่ 3 ขึ้นไป ให้ใช้กาวทาก่อนจึงแปะหนังสือพิมพ์ทับลงไป ทั้งนี้ต้องรอให้ชั้นที่เราแปะกระดาษไว้แล้วแห้งสนิทก่อน จึงจะแปะในชั้นต่อไปได้ ซึ่งเราจะทำประมาณ 10 ชั้น หากต้องการให้แข็งแรงมากขึ้นก็สามารถเพิ่มจำนวนชั้นได้ตามความต้องการ แต่จะทำให้ชิ้นงานมีน้ำหนักมากขึ้นตามไปด้วย
5. เมื่อกระดาษหนังสือพิมพ์แห้งสนิท ให้ปล่อยลมออกจากลูกโป่ง แล้วจึงนำมาประกอบกันให้เป็นโครงสร้างหลักในส่วนของศีรษะพญาครุฑ โดยนำกระดาษโฟโต้บอร์ดหรือกระดาษลัง มาทำเป็นโครงศิราภรณ์ ตามรูป
6. นำกระดาษลัง มาทำเป็นโครงหลักเครื่องประดับ
ศิราภรณ์ที่เรียกว่า กรรเจียกจอน
7. นำโครงสร้างกรรเจียกจอน มาประกอบติดกับโครงศีรษะหลักของครุฑ และให้เติมโครงสร้างรายละเอียดรองลงไปในขั้นตอนนี้ด้วย ทั้งนี้การจะดำเนินงานในส่วนนี้ได้ นักศึกษาจำเป็นต้องศึกษา ค้นคว้า เกี่ยวกับงานศิราภรณ์ของไทยด้วย
8. ตัดกระดาษลังให้เป็นตามรูปตัวอย่าง แต่ต้องกรีดเส้นเบาไว้ด้วย เพื่อช่วยให้เวลาดัดโค้ง จะง่ายและสวยงามกว่าการไม่กรีดเบา
9. นำชิ้นงานที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 8 มาประกอบกับโครงสร้างศีรษะพญาครุฑ
10. นำกระดาษโฟโต้บอร์ดหรือกระดาษลัง มาเพิ่มรายละเอียดส่วนจะงอยปากและสันจมูกของพญาครุฑ ตามภาพ
11. เติมโครงสร้างส่วนกรอบตาประกอบลงบนโครงสร้างศีรษะหลักของพญาครุฑ ทั้งนี้นักศึกษาจำเป็นต้องศึกษา ค้นคว้า เกี่ยวกับศิลปะไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
12. นำโฟมทรงกลมมาตัดแบ่งครึ่ง เพื่อใช้เป็นส่วนตาของพญาครุฑ ตามภาพ
13. นำโฟมทรงกลมมาตัดแบ่งครึ่ง และนำมาตกแต่งส่วนต่าง ๆ ตามภาพ
14. นำไม้โครงมาขึ้นโครงสร้างส่วนตัวของพญาครุฑ เพื่อให้มีความแข็งแรงมั่นคง ตามภาพ
15. นำเปเปอร์มาเช่โครงสร้างลูกโป่ง มายึดติดกับโครงสร้างตัวพญาครุฑ เพื่อเป็นการเพิ่มกล้ามเนื้อให้กับหุ่นจำลอง ตามภาพ
16. นำกระดาษลังมากรีดเบา ตามภาพ เพื่อช่วยให้การดัดรูปร่างของกระดาษได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เมื่อกรีดเบาแล้วจึงนำไปหุ้มโครงสร้างร่างกายเพื่อให้เกิดลักษณะกล้ามเนื้อของพญาครุฑ ตามภาพ
17. ทยอยนำกระดาษลังกรีดเบา มาสร้างรูปร่างหุ่นจำลองพญาครุฑ ตามที่เราได้ออกแบบไว้
18. นำฟิวเจอร์บอร์ดแผ่นใหญ่ มาทำเป็นโครงสร้างหลักส่วนปีกเพราะมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง
19. ทยอยใส่รายละเอียดส่วนเครื่องประดับของหุ่นจำลองพญาครุฑ ทั้งนี้นักศึกษาจำเป็นต้องศึกษา ค้นคว้า เกี่ยวกับศิลปะไทย จึงจะสามารถปฏิบัติงานส่วนนี้ได้
20. ทยอยใส่รายละเอียดส่วนเครื่องประดับของหุ่นจำลองพญาครุฑ ทั้งนี้นักศึกษาจำเป็นต้องศึกษา ค้นคว้า เกี่ยวกับศิลปะไทย จึงจะสามารถปฏิบัติงานส่วนนี้ได้
21. นำกระดาษสีมาตัดให้มีรูปร่างเหมือนขนนกและนำมาติดกับโครงสร้างฟิวเจอร์บอร์ด เพื่อทำเป็นปีกพญาครุฑ
นักศึกษาสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่
ที่มา. จาก ไตรภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง (ปกใน), โดย พระมหาธรรมราชา 1 พญาลิไทย, 2526, กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร.
ที่มา. จาก เล่าเรื่องในไตรภูมิ (หน้าปก), โดย เสฐียรโกเศศ, 2542, นนทบุรี : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

อ้างอิงข้อมูลจาก:

กรมศิลปากร, สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์. (2555). ไตรภูมิกถาฉบับถอดความ. ค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2565, จาก https://vajirayana.org/ไตรภูมิกถาฉบับถอดความ/บทที่-๒-แดนของสัตว์เดรัจฉาน

ส.พรายน้อย. (2542). พญาครุฑ พาหนะแห่งพระเจ้า. กรุงเทพมหานคร : น้ำฝน.

สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์. (2559). การสร้างศิลปกรรมรูปครุฑ จากอดีตสมัยสืบสานสู่ปัจจุบันในภูมิภาคเอเชีย. วารสารวิถีสังคมมนุษย์. 4 (ฉบับที่ 2), 129-154.

ผู้เรียบเรียง: นายกฤษดา เรืองสถาน นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง

We would appreciate your assistance in filling out the satisfaction survey, which is available in both Thai and English. The results will be utilized to enhance and expand our work to better serve everyone’s requirements. Click this link.