โรคเหงือกอักเสบเป็นโรคที่ผู้สูงอายุต้องทรมานอยู่เสมอ และยังเป็นสาเหตุให้ฟันหลุดร่วง โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวาน จากผลการทดลองของ US Health Professional Study ซึ่งคัดเลือกชายทั้งหมด 34,160 คน อายุระหว่าง 40-75 ปี เพื่อตรวจหาหลักฐานสนับสนุนถึงความเกี่ยวโยงระหว่างปัจจัยของอาหาร และภาวะเหงือกติดเชื้อ ปรากฏว่า กลุ่มชายที่ตอนวัยหนุ่มมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดเบาหวาน ได้รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงไปจนจบการทดลอง ซึ่งได้ปรับให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของแต่ละคนแล้ว มีแนวโน้มเหงือกติดเชื้อน้อยกว่ากลุ่มที่รับประทานอาหารกากใยน้อยถึง 23% ดังนั้นจึงมีนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเมคมาสเตอร์ ในประเทศแคนาดาจึงสรุปว่า การรับประทานที่มีกากใยสูงที่ไม่เพิ่มแคลอรี จะช่วยให้ผู้สูงอายุลดอัตราเสี่ยงเป็นโรคเหงือกได้ อย่างไรก็ตามอย่ามัวแต่รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงจนลืมรักษาสุขภาพปากและฟันนะคะ มิฉะนั้นอาจมีปัญหาช่องปากมากขึ้นกว่าเดิม ที่มา: คอลัมน์ Health Living หนังสือ Healthy Today ปีที่ 6 ฉบับที่ 66 กันยายน 2549 ที่มาภาพ: http://www.breadworld.com รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
Tag: สุขภาพ
เราต่างก็รู้ว่าแคลเซียมคือธาตุอาหารจำเป็นสำหรับผู้หญิงสาวๆ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า คุณควรกินแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม โดยอาจดื่มนมวันละสามแก้ว โยเกิร์ตสามถ้วย เนยแข็งหรือซีเรียลหรือน้ำผลไม้ แบบเสริมธาตุแคลเซียมวันละสามมื้อก็ได้ ที่สำคัญก็คือ หากกำลังใช้ยาคุมกำเนิดอยู่ คุณยิ่งจำเป็นจะต้องได้รับแคลเซียมตามปริมาณที่องค์กรอาหารและยาแนะนำ มีผลงานวิจัยบ่งชี้ว่า ผู้หญิงที่กินยาคุมนั้น หากได้รับแคลเซียมน้อยกว่าปริมาณที่แนะนำ จะสูญเสียภาวะมวลกระดูกมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้ยาคุม ในช่วงวัย 20 และ 30 กว่านี้ หากคุณสูญเสียมวลกระดูกมาก โอกาสที่ต่อไปจะเป็นโรคกระดูกพรุน เมื่อสูงวัยขึ้นย่อมมีมาก ทำให้กระดูกเปราะและหักได้ง่าย ดร.โดโรธี ทีการ์เดน ผู้ร่วมวิจัย และเป็นรองศาสตราจารย์ด้านโภชนาการ มหาวิทยาลัยเพอร์ดู กล่าว ภาพประกอบจาก http://www.wheelessonline.com ที่มา: ที่มา: นิตยสาร CLEO เมษายน 2006 No.111 รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
บางครั้งการเดินออกกำลังกายก็ไม่ใช่สักแต่ว่าเดินๆ เพราะหนึ่งก้าวของคุณมีความหมายมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะก้าวออกไปแบบไหนให้ร่างกายแข็งแรง แต่เรามีเคล็ดลับมาบอก 1. เริ่มจากหารองเท้าที่ใส่สบาย เดินนานๆ แล้วไม่เจ็บ เวลาซื้อก็อาจจะซื้อรองเท้าสำหรับวิ่ง แล้วหาสถานที่กว้างๆ อย่าง สวนสาธารณะ หรือพื้นที่ในหมู่บ้าน 2. เดินได้เลย ทุกๆ 30 วินาทีให้เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับความเร็วที่คุณคิดว่าพอสำหรับการเดินเร็ว 3. เมื่อคุณเดินเร็วจนถึงจุดสูงสุด คอยรักษาระดับนี้ไปเรื่อยประมาณ 30 นาที แต่ต้องมั่นใจว่าเดินไม่ใช่การวิ่งจนเหนื่อยหอบ แต่ในครั้งแรกๆ คุณอาจใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ได้ แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาให้นานขึ้นทุกๆ สัปดาห์ และจะสังเกตุได้ว่าร่างกายคุณจะแข็งแรงมากขึ้น 4. นึกไว้อยู่เสมอว่าคุณเดินอย่างไร ต้องรู้ว่าตัวเองเดินอย่างถูกต้องหรือยัง เพราะถ้าไม่คุณจะเจ็บข้อเท้าได้และปวดเมื่อยได้ วิธีเดินให้ถูกต้องคือ ให้ส้นเท้าแตะพื้นก่อนแล้วค่อยๆ วางฝ่าเท้า และนิ้วเท้าหลังสุด เดินต่อไปด้วยฝ่าเท้าทั้งหมด ที่มา: นิตยสาร CLEO เมษายน 2006 No.111 รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
สงสัยต้องเรียกอย่างนั้นจริงๆ เพราะโฆษกของโรงเรียนทันตแพทย์ที่แคลิฟอร์เนียสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาบอกว่า คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเราต้องแปรงฟันแรงๆ จะได้สะอาด ไม่มีอะไรติดฟัน จะกดจะกระแทกแรงซึ่งเป็นสาเหตุให้คอฟันสึก และสารเคลือบฟันกร่อนลงได้ บรรดาคุณหมอฟันทั้งหลายจึง อยากขอแนะนำว่าให้เบามือในการแปรงฟันลงหน่อย จับแปรงด้วยหัวแม่โป้งและนิ้วชี้ แล้วก็คิดว่า “กำลังนวดฟัน” แทนคิดว่า “กำลังแปรงฟัน” แล้วคุณจะเบาแรงลงได้ ที่มา: นิตยสาร CLEO เมษายน 2006 No.111 รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
แกงกะหรี่สีเหลืองช่วยสกัดมะเร็งเต้านมได้ ศูนย์ เอ็ม ดี แอนเดอร์สัน มหาวิทยาลัยเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้วิจัยออกมาแล้วว่า สารเคอร์คิวมินที่อยู่ในขมิ้น เครื่องที่มีอยู่ในส่วนผสมหลักของแกงกะหรี่นั้น สามารถช่วยหยุดยั้งมะเร็งเต้านมไม่ให้ลุกลามไปที่อื่นได้ โดยสถาบันได้ทดลองกับหนูที่เป็นมะเร็งเต้านม พบว่า.. หนูที่ได้รับสารเคอร์คิวมินเพียงอย่างเดียว สามารถทำให้ก้อนเนื้อเล็กลงเรื่อยๆ การค้นพบนี้กลายเป็นความหวังใหม่ของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม ส่วนคุณผู้ชายสามารถทานแกงกะหรี่ เพื่อช่วยชะลอมะเร็งต่อมลูกหมากได้ เนื่องจากมีสารเคอร์คิวมิน อีกทั้งช่วยลดอาการอัลไซเมอร์ได้ สรุปทุกคนทานแล้วดี ! ที่มา: นิตยสาร Lisa Weekly vol.6 no.44 วันที่ 10.11.2005 รวบรวมข้อมูลโดย: ฝ่ายบริการผู้อ่าน