ระหว่างการสงครามเมื่อปี 1812 แซมวล วิลสัน แห่งเมืองทรอย, นิวยอร์ก บรรจุเนื้อเค็มลงถังส่งไปให้รัฐบาลเพื่อทหารในแนวหน้า เพื่อแสดงว่าเขาได้ตรวจสอบเนื้อเค็มด้วยตนเอง วิลสันได้ประทับอักษร “U.S.” ลงบนแผ่นเนื้อ เพื่อระบุว่ามันเป็นของรัฐบาล แต่เพื่อนบ้านของวิลสันในเมืองทรอย ผู้ชอบเรียกเขาว่า “ลุงแซม” กลับใช้ในความหมายว่า.. เป็นชื่อย่อของ “Uncle Sam Wilson” หลายปีผ่านไป หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งสร้างรูปการ์ตูนชื่อ “ลุงแซม”? เป็นสัญลักษณ์ของรัฐบาลอเมริกัน และภาพนั่นก็แพร่หลายยิ่งขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยโชว์รูป “ลุงแซม” ไว้ในดาวและแถบของธงสหรัฐ การ์ตูน ลุงแซมที่ดังมากคือ รูปนิ้วชี้แล้วพูดว่า “ผมต้องการคุณเพื่อกองทัพบกสหรัฐ” ที่มา: http://how.to/iyaa รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
สืบเนื่องจากในปี พ.ศ. 2499 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ในสมัยนั้น ได้กล่าวปราศัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศ ถึงความคิดที ่จะกำหนดให้มีวันครู ซึ่งเป็นการสอดคล้องกับความคิดเห็นของครูโดยทั่วไป ดังนั้น ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2499 คณะรัฐมนตรี จึงได้มีมติกำหนดให้ วันที่ 16 มกราคมของทุกปี เป็น “วันครู” โดยถือเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2488 วันครู จัดให้มีขึ้นเป็นวันแรกในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2500 เราใช้วันที่ 16 มกราคมของทุกปี เป็นวันรำลึกถึงบุญคุณของคุณครู อาจารย์ ที่ประสิทธิประสาทวิชาความรู้ให้เรา โดยมักจะมีการจัดกิจกรรมดังนี้ คือ กิจกรรมทางศาสนา ทำบุญตักบาตรให้กับบูรพาจารย์ที่ล่วงลับ พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ การส่งบัตรอวยพร หรือการไปเยี่ยมเยียน เพื่อแสดงถึงความกตัญญูกตเวที นิทรรศการต่างๆ เกี่ยวกับครู การเรียนการสอน หรือบางทีก็เป็นกิจกรรม การกุศล หารายได้สมทบกองทุนช่วยเหลือครู เป็นต้น ? รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
ตามที่เราเข้าใจกัน 1 วันคือเวลาที่โลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ (ตามความเข้าใจ 24 ชั่วโมง) และการเกิดน้ำขึ้น น้ำลงในมหาสมุทรต่างๆ ก็ก่อให้เกิดแรงเสียดทาน กับขั้วโลกที่รองรับ เป็นผลให้โลกหมุนช้าลงวันละ 1/23 ล้านวินาที และจากการศึกษาปะการังโบราณ ก็พบความแตกต่างของเวลสว่า เมื่อ 400 ล้านปีก่อน 1 วันมีเพียง 22 ชั่วโมงเท่านั้น และแม้กระทั่งปัจจุบัน โลกก็ใช้เวลาหมุนรอบตัวเองจริงๆ เพียง 23 ชั่วโมง 56 นาที 4 วินาที ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาอีกประมาณ 15 ล้านปี ใน 1 วันจึงจะมี 24 ชั่วโมงอย่างแท้จริง แต่ก็พออนุโลมได้ว่า 1 วัน มี 24 ชั่วโมง ก็คงจะไม่แปลกอะไร ที่มา: หนังสือ 108 ซองคำถาม เล่ม 3 บรรณาธิการโดย ประวิทย์ สุวณิชย์ รวบรวมข้อมูลโดย: ฝ่ายวารสารและเอกสาร
คนส่วนใหญ่ น้อยคนนักที่ไม่รู้จักคำว่า O.K. เรามักจะได้ยินคนพูดกันติดปาก ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ ไม่ว่าวัยใดก็ตาม แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า.. คำคำนี้มีที่มาอย่างไร ? คำว่า O.K. มาจากคำเต็มว่า Oll Korrect ซึ่งที่ถูกต้องคือ All Correct ( แปลว่า ถูกต้อง ) มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจจาก พ่อค้าชาวอเมริกันคนหนึ่ง มีฐานะ ตำแหน่งหน้าที่การงานสูง แต่การศึกษาน้อย ทุกครั้งที่เขาสั่งงานลงในใบสั่ง ถ้างานชิ้นใดถูกต้อง ตกลง และอนุมัติ เขาจะ เขียนคำว่า Oll Korrect ลงในใบสั่งใบนั้นเสมอๆ ต่อมากิจการของพ่อค้าคนนี้ มีความเจริญก้าวหน้ามาก งานที่ติดต่อมาก็มีมากขึ้น ใบสั่งงานก็มีมากมายล้นโต๊ะ การที่เขาจะต้องเขียนคำ Oll Korrect ลงในใบสั่งทุกใบทำให้ต้องใช้เวลามาก เขาจึงย่อเหลือเพียงสั้นๆ คำ O.K. ซึ่งมีผล และความหมายเหมือนกัน คำว่า “อนุมัติ” นั่นเอง และก็เลยมีการใช้กัน อย่างแพร่หลาย ทั้งภาษาพูด และภาษาเขียน มากันจนปัจจุบันทั่วโลกทีเดีย ที่มา: หนังสือ 108 ซองคำถาม เล่ม 1 บรรณาธิการโดย ประวิทย์ สุวณิชย์ รวบรวมข้อมูลโดย: ฝ่ายวารสารและเอกสาร
? ถ้าผิวหน้ามีริ้วรอย เพราะอดนอน ให้ใช้ไข่ขาวนวดให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วล้างด้วยน้ำอุ่น เมื่อผัดหน้าจะเต่งตึง ถ้าเริ่มมีคางสองชั้น ใช้ปลายนิ้วกดลงเบาๆบนใบหน้าจากบริเวณคางไปยังแก้ม แล้วนวดด้วยปลายนิ้วให้ทั่วหน้า ทำอาการหยิกเบาๆคล้ายนกจิก แล้วตบคางด้านล่างเบาๆ ออกมาถึงปลายหู ถ้ามีริ้วรอยสองข้างมุมปาก ใช้นิ้วมือนวดเบาๆ ลูบขึ้นไปจากรอยลึกระหว่างจมูกและมุมปาก ผ่านมุมปากไปสิ้นสุดลงสองข้างจมูก นวดและลูบจากล่างไปหาบน ถ้าบริเวณหน้าผากที่ย่นมีริ้วรอย นวดเบาๆจากบนคิ้วขึ้นไปหาเนินผม แล้วค่อยๆนวดคลึงตามรอยย่นใช้วิธีกดลงไปเรื่อยๆ จากกลางหน้าผากออกไปหาขมับ ถ้าบริเวณเปลือกตาบวม ใช้นิ้วชี้แต่ละข้างวางลงบนหัวตาใต้คิ้ว ค่อยๆเลื่อนปลายนิ้วชี้ผ่านไปเบาๆ โดยปรือตาลงเล็กน้อย ถ้ามีถุงใต้ตา ให้กดด้วยปลายนิ้วลงบนถุงใต้ตาเพียงเบาๆ จากหัวตาออกไปหาขมับทั้งสอง ถ้ามีรอยตีนกา ให้ใช้ปลายนิ้วชี้คลึงเบาๆ วนรอบหางตาบนรอยตีนกานั้น ที่มา: หนังสือความรู้คู่บ้าน โดย พรรณิภา ต่วนโสภณ รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด