> พระราชประวัติ 
 > พระราชบิดาแห่งอักษรไทย
 > พระเกียรติคุณแผ่ไพศาล 
 > ธรรมะในศิลาจารึก 
 > ปกิณกะ 
    .... พระบรมสาทิสลักษณ์  
    .... มุมมองนักวิทยาศาสตร์ 
    .... ไม่มีผู้ใดปลอมได้ 
    ....    
 > สัตยาธิษฐาน 

 > บรรณานุกรม 
 > คณะผู้จัดทำ 

 > หน้าแรก 

 

ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง หลักที่ ๑ ไม่มีปัญญาชนผู้ใดปลอมได้ (ตอนที่ ๓)
 

          ศิลาจารึกหลักที่ ๑           ไม่มีผู้ใดปลอมได้

          เรื่องศิลาจารึกหลักที่ ๑ เป็นของจริงหรือของปลอมนั้น มีรายละเอียดอยู่ในวัฒนธรรม ฉบับพิเศษ "จารึกพ่อขุนรามคำแหงใครแต่งกันแน่" ฉบับเดือนกรกฎาคม ๒๕๓๑ นั้นแล้ว  คุณไมเคิล ไรท์ ก็เป็นผู้หนึ่งที่เขียนบท ความอยู่ในฉบับนั้น แต่คราวนี้กลับเสนออีกแง่มุมใหม่ เหตุผลใหม่ แต่ผมก็รับฟังไม่ได้อยู่อีกนั่นแหละ ฉะนั้นในที่นี้ผมจึงไม่กล่าวย้ำถึงข้อถกเถียงที่นักวิชาการได้เสนอไว้ในหนังสือดังกล่าว แต่อยากจะเสนอความเห็นว่า ไม่มีผู้ใดที่มีภูมิปัญญาเพียงพอที่จะปลอมศิลาจารึกหลักที่ ๑ ได้ดีจนไม่ส่อพิรุธให้เห็น หรือจับพิรุธไม่ได้

          ข้อความพิรุธในหลักศิลาจารึกหลักที่ ๑ ที่คุณไมเคิล ไรท์ ศาสตราจารย์ไมเคิล วิคเคอรี่ และ ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ และนักวิชาการหัวก้าวหน้าอีกจำนวนหนึ่งเสนอความเห็นและวิพากษ์ศิลาจารึกหลักที่ ๑ มานั้น อยู่ในลักษณะไม่ยอมเข้าใจสังคมสมัยอดีต จึงเอาทัศนะของคนปัจจุบันไปวิพากษ์เนื้อความและคำไทยโบราณในศิลาจารึก นั่นคือ เนื้อหาสาระ หรือภาษา หรืออักษร ไม่ตรงตามที่ตนเองคิดก็เห็นว่าเป็นเรื่องพิรุธ หรือเกินการคาดหวังของนักวิชาการหัวก้าวหน้า นั่นคือเอาแว่นปัจจุบันส่องหาอดีต หากนักวิชาการเหล่านั้นทำความเข้าใจกับสังคมสุโขทัยว่า เขากำลังกังวลเรื่องอะไร และอะไรเป็นปัญหาสำคัญของเขา เช่น เรื่องความมั่นคงของสังคม (ชาติบ้านเมือง) การแสวงหาและอธิบายเผ่าพันธุ์ (เสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ) การขจัดอิทธิพลวัฒนธรรมขอม ฯลฯ เป็นต้น

          อีกประการหนึ่ง ศิลาจารึกเป็นเพียงกิตติกรรมประกาศ ผู้สร้างศิลาจารึกมิได้มีวัตถุประสงค์จะเขียนประวัติศาสตร์ (ประวัติศาสตร์พงศาวดาร และจดหมายเหตุ เขาเขียนในสมุดข่อย) ดังที่คนรุ่นใหม่มักจะเข้าใจผิดและพยายามกล่าวอ้าง ศิลาจารึกเป็นเพียงพระราชโองการประกาศให้สาธารณชนทราบ จัดตั้งวางไว้ในสถานที่ประชุม และศิลาจารึกจำนวนมากกล่าวถึงกิจกรรมการกุศล (สร้างวัด อุทิศทรัพย์สิน และผู้คนถวายวัด) พระเถระผู้ใหญ่และเจ้าศรัทธาก็สร้างศิลาจารึกได้ เช่น พระมหาเถรศรีศรัทธาจุฬาราชมุนีฯ (ศิลาจารึกหลักที่ ๒ ) ป้านางคำเยีย (ศิลาจารึกหลักที่ ๑๐๒ ) พระสุมนเถระ (ศิลาจารึกหลักที่ ๖๒ สร้างไว้ที่วัดพระยืนเมืองลำพูน) เป็นต้น

          เนื้อความในศิลาจารึกมีความหลากหลายต่างๆ  กัน ตามแต่เจ้าศรัทธาอยากจะประกาศให้สาธารณชนทราบ ฉะนั้นความในศิลาจารึกเหล่านั้นปัญญาชนสมัยสุโขทัยเขาอ่านกันทั่วไป จึงสรุปได้ว่าเนื้อความที่ปรากฏในศิลาจารึกนั้นได้รับการพิสูจน์จากคนไทยในยุคนั้นสมัยนั้นแล้ว  หากเป็นเนื้อความที่ยุคสมัยนั้นรับไม่ได้  เมื่อผู้สร้างศิลาจารึกหมดอำนาจ คนในสังคมนั้นก็ย่อมจะทำลายไปแล้ว คงไม่เหลือมาจนถึงปัจจุบัน

  

         

อ่านหน้าที่ ๔ ......

  คัดลอกเนื้อหา จากบทความ "ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง หลักที่ ๑ ไม่มีปัญญาชนผู้ใดปลอมได้" โดย ธวัช ปุณโณทก
จากนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนตุลาคม ๒๕๔๓