ไม่ได้กำลังแนะนำให้คุณโต้ตอบใครที่เขาทำให้คุณเจ็บใจหรอกนะ แต่หมายถึงวิธีแก้ความเผ็ดเวลาที่คุณเผลอกินพริกเม็ดจิ๋ว แต่เผ็ดร้อนแรงยิ่งนักต่างหาก ความเชื่อเก่า : ดื่มน้ำเย็นตามทันที เพื่อหวังดับความเผ็ดร้อนก่อนจะพ่นไฟเป็นมังกร ผลที่ได้ : ไม่ได้ช่วยให้คุณหายเผ็ด แต่กลับกลายเป็นว่า การดื่มน้ำจะยิ่งไปกระจายความเผ็ดให้ทั่วปากมากขึ้นแทน หนทางแก้เผ็ด 1. รับประทานข้าว ขนมปัง หรือจะดื่มนม จากนั้นค่อยอมลูกอมก็ได้ เพราะความหวานในอาหาร เครื่องดื่ม หรือลูกอมเหล่านี้ จะช่วยดูดซับสารแคปไซซิน (Capsaicin) ที่เป็นตัวการให้เกิดความเผ็ดร้อน เมื่อลิ้นหรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งไปสัมผัสเจ้าพริกเม็ดจิ๋วเข้า 2. ดื่มน้ำมะนาว หรือน้ำมะเขือเทศสดๆ จะช่วยแก้เผ็ดได้ เพราะกรดจะไปทำปฏิกิริยากับสารดังกล่าว ซึ่งเป็นด่าง ทำให้ความเผ็ดแผลงอิทธิฤทธิ์น้อยลง ที่มา: นิตยสาร Lisa vol.5 no.30 วันที่ 7.10.2004 รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
Tag: พริก
สรรพคุณ ? ช่วยขับเสมหะ ทำให้ทางเดินหายใจโล่ง เพราะในพริกจะมีสาร Capsacin ซึ่งจะสังเกตได้ว่าคนที่ทานพริกเข้าไป จะมีอาการน้ำตา น้ำมูกไหล ? ช่วยสลายลิ่มเลือด ลดอาการอุดตันของเส้นเลือด อันเป็นสาเหตุขอโรคหัวใจตีบได้ ? ช่วยกระตุ้นสมองส่วนกลางให้หลั่งสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารสร้างความสุข ทำให้เกิดการผ่อนคลาย ช่วยให้ความดันโลหิตลดลง ? ช่วยกระตุ้นให้อยากอาหารเนื่องจากพริกจะไปทำให้ต่อมน้ำลายทำงานมากขึ้น กระตุ้นปลายประสาทให้สมองส่วนกลางรับรู้การอยากอาหาร แต่ถ้ารับทานมากเกินไป อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ในกระเพาะอาหารได้ ที่มา: นิตยสารชีวจิต ปีที่ 6 ฉบับที่ 122 พ.ย. 2546 รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
ตั้งแต่เล็กจนโตเราจะพบว่าในอาหารไทยส่วนใหญ่ มีพริกเป็นเป็นเครื่องปรุงอยู่ด้วยเสมอ เดิมเราจะได้ยินอยู่เสมอว่าการบริโภคพริกมากเกินไปไม่มีประโยชน์ แต่เมื่อมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพริกมากขึ้น ทำให้เราพบว่า นอกจากพริกจะมีสีสัน และความเผ็ดร้อนจะช่วยให้อาหารดูดีมีรสชาติขึ้นแล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นยา เป็นอาหารเสริมสุขภาพอีกด้วย พริกเป็นพืชในวงศ์โซลานาซิอี (Solanaceae) เช่นเดียวกับมะเขือเทศ มันฝรั่ง ยาสูบ และอยู่ในสกุลแคปซิคัม (Capsicum)