Wednesday, October 15, 2025

นิทรรศการและสื่อส่งเสริมการศึกษา

ผลิตและพัฒนาโดย หน่วยเทคโนโลยีส่งเสริมการศึกษา ฝ่ายเทคโนโลยีห้องสมุด สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง

นิทรรศการนิทรรศการสื่อส่งเสริมการศึกษาสื่อส่งเสริมการศึกษาสื่อส่งเสริมการศึกษาด้านผลิตสื่อการศึกษาโขน

หุ่นจำลองโขนหน้าจอ

หุ่นจำลองโขนหน้าจอ
ที่มา. จาก โขน : มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (หน้า 47), โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, 2562, กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย

หุ่นจำลองโขนหน้าจอ

การผลิตหุ่นจำลองโขนหน้าจอ เพื่อเป็นสื่อส่งเสริมการศึกษา ถ่ายทอดความรู้ให้เกิดความเข้าใจที่ง่ายมากยิ่งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เกี่ยวกับ โขน และเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยรามคำแหง อีกทั้งต้องการแสดงให้เห็นถึงวัสดุและวิธีการ ในการสร้างหุ่นจำลองดังกล่าว เพื่อให้นักศึกษา ได้นำประสบการณ์ในการสร้างหุ่นจำลองไปปรับใช้กับการเรียนต่อไปได้ 

หุ่นจำลองแสดงด้านหน้าของโรงโขนหน้าจอ
หุ่นจำลองแสดงด้านหลังของโรงโขนหน้าจอ
โขนหน้าจอ

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (2565, หน้า 31) กล่าวว่า โขน เป็นรูปแบบการแสดงที่มีความงามสง่า แสดงถึงความเข้มแข็งอย่างมีระเบียบแบบแผน นักวิชาการด้านนาฏศิลป์เชื่อว่า โขนเป็นมหรสพที่ก่อรูปหล่อหลอมขึ้นจากศิลปวิทยาการที่มีมาก่อนหลายสาขา ได้แก่ ระบำรำเต้น หนังใหญ่ การเล่นดึกดำบรรพ์ รวมถึงคติความเชื่อของสังคมไทยในอดีตกาล ในขณะที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (2555, หน้า 84) กล่าวว่า แรกเริ่มโขนเป็นการละเล่นของชายล้วนที่อยู่ในราชสำนัก มีไว้สำหรับเล่นในการพระราชพิธีและผู้ที่จะสามารถฝึกหัดโขนได้จะต้องเป็นมหาดเล็กหลวงเท่านั้น จึงเรียกว่า “โขนหลวง” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์และทรงฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมทุกด้าน ทรงได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เจ้านายและขุนนางผู้ใหญ่หัดโขนได้โดยไม่ทรงห้ามปราบ จึงเกิด “โขนบรรดาศักดิ์” ขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ศิลปะการแสดงโขนแพร่หลายมากขึ้น

ส่วนโขนหน้าจอ เป็นการแสดงโขนประเภทหนึ่ง ที่โขนมีการเล่นตรงหน้าจอหนังใหญ่ ธนิต อยู่โพธิ์ (2511, หน้า 124)  ได้กล่าวไว้ว่า จอ แต่เดิมขึงไว้สำหรับเล่นหนังใหญ่ ลักษณะจอหนังแต่เดิม จะใช้ผ้าขาวบางโปร่งชนิดหยาบนำมาเพลาะติดกันเข้าเป็นรูป 4 เหลี่ยม เป็นแผ่นกลาง ส่วนตอนนอกออกมาใช้ผ้าขาวดิบเนื้อหนาเย็บติดรอบผ้าขาวผืนบางและที่ตอนริมของผ้าขาวดิบแผ่นหนาใช้ผ้าแดงกับผ้าสีน้ำเงินเพลาะติดกันเป็นวงรอบนอก แล้วเอาเชือกตัดเป็นตอน ๆ ตามด้านยาว 2 ด้าน สมมติเรียกว่า “ หนวดพราหมณ์ ”

ต่อมาภายหลังเมื่อใช้จอนี้เป็นที่แสดงโขนแล้ว ก็นิยมทำเป็น “จอแขวะ” คือ เจาะที่ผ้าดิบทั้งสองข้างจอทำเป็นช่องประตูเข้าออกแล้วทำเป็นรูปซุ้มประตูเช่นประตูเมืองทั้งสองประตู ด้านหนึ่งของจอเขียนเป็นรูปปราสาทราชวัง สมมติเป็นกรุงลงกา อีกด้านหนึ่งของจอเขียนเป็นค่ายพลับพลาของพระราม แล้วตอนเบื้องบนเขียนรูปนางเมขลาล่อแก้วด้านหนึ่ง รามสูรขว้างขวานด้านหนึ่ง เหนือขึ้นไปเขียนรูปดวงพระอาทิตย์ พระจันทร์ อยู่ด้านละดวง ต่อมาได้ทำยกพื้นหน้าจอขึ้นลาดกระดานปูเสื่อ มีรั้วลูกกรงล้อมรอบเป็นเขตกั้นคนดูไม่ให้ขึ้นไปเกะกะคนเล่น ในตอนบ่ายมักนิยมเล่น “หนังจับระบำหน้าจอ”ครั้นภายหลังมีผู้คิดนำคนแต่งตัวเป็นละครไปเล่นจับระบำไปจนค่ำจึงเริ่มเล่นหนัง

ต่อมามีผู้ปล่อยตัวโขนออกเล่นแทนตัวหนังบ้าง แล้วเชิดหนังสลับไปบ้าง เรียกกันว่า “หนังติดตัวโขน” ครั้นภายหลังจึงปล่อยตัวโขนเล่นไปแต่เย็นจนเลิกในกลางคืน ส่วนจอนั้นก็ตั้งไว้พอเป็นพิธีเท่านั้น เหตุเพราะอะไรไม่แน่ชัด เมื่อความนิยมในเรื่องหนังใหญ่หมดไป เวลาเล่นโขนกลางแจ้งในกาลภายหลังนี้ จึงสร้างโรงสำหรับเล่นโขนเป็นแบบจอเล่นหนังใหญ่ไป ในสมัยหลังนี้ โขนได้นำคำพากย์ คำเจรจาหน้าพาทย์ ดนตรี ตลอดจนจอของหนังมาหมด จึงเรียกโขนที่เล่นหน้าจอหนังอย่างนี้ว่า “ โขนหน้าจอ ”

ซึ่งสอดคล้องกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (2562, หน้า 80) ที่กล่าวว่า คำว่า “จอ” ในที่นี้ หมายถึง จอที่ใช้เชิดหนังใหญ๋ ซึ่งจะทำขึ้นด้วยผ้าดิบสีขาว มีระบายแดงรอบ ต่อมามีการเจาะสองข้างจอเป็นช่องประตู แล้วทำซุ้มขึ้นทั้งสองด้าน ด้านซ้ายเขียนเป็นภาพกรุงลงกา ด้านขวาเป็นภาพพลับพลา ข้างบนเขียนรูปพระอาทิตย์ พระจันทร์ มีรามสูรถือขวาน เหาะไล่เมขลาล่อแก้ว จอหนังลักษณะนี้เรียกว่า “จอแขวะ” เกิดขึ้นราวสมัยรัชกาลที่ 4 หรือรัชกาลที่ 5 การเชิดหนังในอดีตนั้น บางครั้งมีการปล่อยตัวโขนออกมาเล่นสลับ แล้วปล่อยตัวหนังออกมา แสดงรวมกันไป การเชิดหนังสลับตัวโขนนี้ สันนิษฐานว่าน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ที่เรียกว่า “หนังระบำ” โขนหน้าจอเป็นวิวัฒนาการอย่างหนึ่งของนาฏศิลป์โขนที่แสดงถึงการประสมประสานกลมกลืนกับการเล่นหนัง ซึ่งมหรสพทั้ง 2 อย่างมีลักษณะที่เหมือนกัน ได้แก่ มีบทพากย์ บทเจรจา และเพลงหน้าพาทย์ ซึ่งวงปี่พาทย์ที่บรรเลงเพลงหน้าพาทย์ ประกอบการแสดงโขนหน้าจอใช้วงปี่พาทย์วงเดียว ตั้งบนร้านยกพื้นด้านข้าง หน้าโรง หันหน้าเข้าหาตัวแสดง เช่นเดียวกับการบรรเลงประกอบการเล่นหนัง ไม่ต้องผลัดกันบรรเลงเหมือนโขนกลางแปลงและโขนโรงนอก

ขั้นตอนการผลิตหุ่นจำลองโขนหน้าจอ

1. นำกระดาษเบียร์แมท มาประกอบเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้าทรงต่ำ เพื่อเป็นเวทีจำลอง
2. เจาะสองข้างจอเป็นช่องประตู แล้วทำซุ้มขึ้นทั้งสองด้าน ร่างภาพด้านซ้ายเขียนเป็นภาพกรุงลงกา ด้านขวาเป็นภาพพลับพลา ข้างบนเขียนรูปพระอาทิตย์ พระจันทร์ มีรามสูรถือขวาน เหาะไล่เมขลาล่อแก้ว
3. ตัดกระดาษเบียร์แมท เป็นรูปทรงซุ้มประตูทรงสามเหลี่ยมหน้าจั้ว
4. นำส่วนฉากจำลองและเวทีจำลองมาประกอบเข้าด้วยกัน (ด้านหน้า)
5. เติมรายละเอียดต่างๆ ของเวที่จำลองตามที่ได้ศึกษามา(ด้านหลัง) จากภาพจะมีการต่อเติมส่วนที่ตั้งวงดนตรีและทางขึ้นลงของนักแสดง
6. ทิ้งให้กาวแห้งสนิท แล้วจึงทาสีน้ำพลาสติกสำหรับทาภายใน รองพื้น
7. ทาสีตามที่วางแนวทางไว้ดังภาพ
8. นำดินญี่ปุ่นมาปั้นเป็นเครื่องดนตรีวงปี่พาทย์เครื่องห้า ซึ่งประกอบด้วย ปี่ใน, ฆ้องวงใหญ่, ตะโพน, กลองทัด ( ลูกเดียว ), ฉิ่ง จำนวน 1 วง
9. นำส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องมาจัดวางเพื่อให้เกิดการสื่อสารที่ดีในการศึกษา เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
นักศึกษาสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่
ที่มา. จาก โขน : มรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ (หน้าปก), โดย บุญเตือน ศรีวรพจน์, เสาวณิต วิงวอน ; ผู้แปล, วรรณา นาวิกมูล … [และคนอื่น ๆ], 2562, กรุงเทพฯ : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม.
ที่มา. จาก โขน : มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติรายการแรกของประเทศไทย (หน้าปก), โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, บุญเตือน ศรีวรพจน์, เสาวณิต วิงวอน ; ผู้แปล, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, วรรณา นาวิกมูล … [และคนอื่น ๆ], 2562, กรุงเทพฯ : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม.

อ้างอิงข้อมูลจาก:

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, กระทรวงวัฒนธรรม. (2562). โขน : มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติรายการแรกของประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

ธนิต อยู่โพธิ์. (2511). โขน (พิมพ์ครั้งที่ 3). พระนคร: กรมศิลปากร.

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์. (2555). นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ อัญมณี แห่งมหานคร. กรุงเทพมหานคร : อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง.

ที่มา. จาก โขน : มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (หน้า 47), โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, 2562, กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
หนังสือราชการที่เกี่ยวข้อง

ผู้เรียบเรียง: นายกฤษดา เรืองสถาน นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง