สร้าง Portfolio ออนไลน์ ฟรีง่าย ๆ ด้วย Behance
บทบาทของแฟ้มสะสมงานดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์ในการพัฒนาอาชีพ
ในยุคดิจิทัล การนำเสนอศักยภาพและผลงานส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและอาชีพ แฟ้มสะสมงาน (Portfolio) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสะท้อนทักษะและความสามารถของบุคคลให้เป็นที่รับรู้แก่ผู้ว่าจ้างหรือผู้มีอำนาจตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศ แฟ้มสะสมงานจึงได้รับการปรับเปลี่ยนจากรูปแบบเอกสารหรือสื่อสิ่งพิมพ์ ไปสู่การนำเสนอผ่าน แพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวกต่อการอัปเดต และเปิดโอกาสให้ได้รับการพิจารณาจากผู้ว่าจ้างในระดับสากล
สำหรับนักศึกษาหรือผู้ประกอบอาชีพในสายงานออกแบบกราฟิกและสาขาที่เกี่ยวข้อง การเผยแพร่ผลงานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ปัจจุบันมีเว็บไซต์หลายแห่งที่ทำหน้าที่เป็น เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่เป็นพื้นที่แสดงข้อมูลแล้ว ยังสามารถโต้ตอบและให้บริการด้านอื่น ๆ ได้มากกว่าการเป็นเพียงเว็บไซต์แบบดั้งเดิม
หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงคือ Behance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการสร้าง แฟ้มสะสมงานดิจิทัล โดยเฉพาะ Behance มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเผยแพร่และจัดระเบียบผลงานได้อย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังเชื่อมโยงไปสู่โอกาสทางอาชีพผ่านเครือข่ายนักสร้างสรรค์และองค์กรจากทั่วโลก (Adobe, 2568)
Behance คืออะไร
Behance เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (social media) ที่ บริษัท อะโดบี ซิสเต็มส์ จำกัด (Adobe Systems Incorporated) เป็นเจ้าของ ซึ่งมุ่งเน้นหลักในการนำเสนอและค้นพบผลงานสร้างสรรค์ผู้ใช้สามารถสมัคร Behance และสร้างโปรไฟล์ที่ประกอบด้วยโปรเจ็กต์ต่างๆ ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนและไม่ได้ลงทะเบียนสามารถดูโครงการใด ๆ รวมถึงแสดงความคิดเห็นได้ สมาชิกของ Behance สามารถติดตามโปรไฟล์ของผู้ใช้รายอื่นได้ (วิกิพีเดีย, 2523) ทั้งนี้ Behance จะเป็นแพลตฟอร์ม (platform) ที่เหมาะกับการจัดทำแฟ้มสะสมงานทางด้านศิลปะ หรือ งานทางกราฟิกคอมพิวเตอร์ มากกว่าด้านอื่น ๆ ด้วยสามารถนำแฟ้มงานมานำเสนอ ใส่การเชื่อมโยงลิงก์ข้อมูลได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ช่องทางการติดต่อ รูปภาพ และสื่ออื่น ๆ ดังนั้น Behance จึงจะเหมาะกับนักศึกษาที่เรียนเกี่ยวกับงานกราฟิกและต้องการนำผลงานกราฟิกที่จัดทำระหว่างศึกษา มาเป็นฐานข้อมูลเบื้องต้น เพื่อไปต่อยอดต่อด้านการศึกษาหรือโอกาสในการทำงานต่อไปได้ ซึ่งสามารถใช้ฟรีได้ด้วยนั้นเอง จึงเป็นช่องทางที่น่าสนใจช่องทางหนึ่งเพื่อใช้ขยายโอกาสเหมาะกับนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงทางสายคอมพิวเตอร์กราฟิกอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ Behance (ฟรี)
Behance เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ใช้งานได้ ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครเป็นสมาชิก ผู้ใช้สามารถสร้างและเผยแพร่โปรเจ็กต์ได้ไม่จำกัดจำนวน รวมถึงอัปโหลดไฟล์สื่อต่าง ๆ เช่น รูปภาพและวิดีโอ ได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านปริมาณ โดยแพลตฟอร์มนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับมืออาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์จากหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบกราฟิก ช่างภาพ นักวาดภาพประกอบ หรือนักออกแบบ UI/UX ทั้งนี้ แม้ว่า Behance จะเปิดให้ใช้งานฟรี แต่ Adobe ยังมีตัวเลือกเสริม เช่น Adobe Creative Cloud Pro ที่ช่วยเพิ่มฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมหรือเครื่องมือเฉพาะทาง (Adobe, 2568)
Behance Pro (มีค่าบริการ): บริการสำหรับนักออกแบบและ Creative Professionals
Behance ได้ขยายขอบเขตการให้บริการด้วยการเปิดตัว Behance Pro ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอหรือเว็บไซต์ส่วนตัวได้อย่างมืออาชีพ โดย Behance Pro ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของนักออกแบบ กราฟิกดีไซเนอร์ ช่างภาพ และ Creative Professionals ที่ต้องการมีพื้นที่นำเสนอผลงานในรูปแบบที่ปรับแต่งได้มากขึ้น
จุดเด่นของ Behance Pro คือระบบการจัดการเนื้อหา (Content Management System: CMS) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบริหารและออกแบบเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก คล้ายกับแพลตฟอร์ม CMS อื่น ๆ เช่น WordPress, Joomla และ Drupal อย่างไรก็ตาม Behance Pro ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ประเภท Portfolio Site และ Personal Site มากกว่า โดยมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและรองรับการซิงโครไนซ์กับ Adobe Creative Cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริการนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Behance Pro จะมีค่าบริการ (Niwat Chatawittayakul, 2564)
การสมัครใช้งาน Behance
ในการใช้งาน Behance ผู้ใช้จำเป็นต้องสร้างบัญชีโดยใช้ Adobe ID ซึ่งเป็นระบบบัญชีผู้ใช้กลางของ Adobe ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของ Adobe ได้อย่างสะดวก กระบวนการสมัครใช้งาน Behance สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เข้าสู่เว็บไซต์ Behance โดยไปที่ www.behance.net
- เลือกวิธีการสมัครใช้งาน ผู้ใช้สามารถลงทะเบียนโดยใช้อีเมลหรือเลือกเชื่อมต่อผ่านบัญชีเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น Apple, Facebook หรือ Google
- สร้าง Adobe ID ระบบจะขอให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อ ที่อยู่อีเมล และข้อมูลพื้นฐานอื่น ๆ
- ตั้งค่าโปรไฟล์เบื้องต้น หลังจากสมัครใช้งานสำเร็จ ผู้ใช้สามารถติดตามแกลเลอรีที่แนะนำเพื่อให้ระบบสามารถปรับแต่งฟีด “For You” ตามความสนใจของตนได้
ความสำคัญของ Adobe ID
Adobe ID คือบัญชีผู้ใช้ที่จำเป็นสำหรับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของ Adobe รวมถึง Behance โดย Adobe ID ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดการแผนบริการ ซอฟต์แวร์ และการตั้งค่าต่าง ๆ ของผู้ใช้ นอกจากนี้ Adobe ID ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถรักษาความปลอดภัยของบัญชีและเข้าถึงคุณลักษณะเฉพาะที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มของ Adobe ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Adobe, 2568)
วิธีสมัครและทำความรู้จักเบื้องต้น
วิธีลงภาพผลงาน
คลิ๊กเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกับ Adobe
อ้างอิงข้อมูลจาก:
วิกิพีเดีย. (2523). Behance. ค้นเมื่อ 25 กันยายน 2566, จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Behance
Adobe. (2568). Everything you need to get started on Behance. ค้นเมื่อ 31 มกราคม 2568, จาก https://help.behance.net/hc/en-us/articles/1260800494029-Guide-Best-Practices
Niwat Chatawittayakul. (2564). รู้จัก Behance และบริการใหม่ Behance Pro สร้างเว็บ Portfolio Site สำหรับคน Creative ง่ายๆ. ค้นเมื่อ 31 มกราคม 2568, จาก https://www.niwat.blog/รู้จัก-behance-บริการใหม่ขbehance-pro/
ขอบคุณภาพประกอบจาก: pixarbay.com
Pixabay License สำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ฟรี ไม่มีลักษณะที่ต้องการ
ภาพโดย WeDevlops_com จาก Pixabay สามารถใช้งานได้ฟรีภายใต้ใบอนุญาตใช้งานคอนเทนต์ Pixabay

ผู้เรียบเรียง: นายกฤษดา เรืองสถาน นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
