ทรงเป็นผู้เห็นการณ์ไกล
แม้ว่าในขณะนั้นพ่อขุนรามคำแหงมหาราชจะทรงมีพระราชกรณียกิจใหญ่หลวงในการรวมไทยให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงก็ตาม
แต่พระองค์ก็มิได้ทรงทอดทิ้งในเรื่องของภาษาไทย
หากจะพิจารณาอีกนัยหนึ่ง
การที่พระองค์ทรงเป็นผู้ริเริ่มและจารึกเรื่องราวต่างๆ
ลงหลักศิลาด้วยแบบอักษรไทยที่พระองค์ทรงคิดค้นปรับปรุงขึ้นเองนี้
นับว่าพระองค์ทรงเป็นผู้เห็นการณ์ไกลยิ่ง
กล่าวคือ
- เป็นการแสดงให้ชนชาติอื่นๆ
เห็นว่าคนไทยนั้นมีความสามารถ
มีแบบอักษรภาษาใช้เป็นของตนเอง
มีวัฒนธรรมอันรุ่งเรือง
ดีงาม
- ทำให้ประเทศในละแวกใกล้เคียง
นำเป็นแบบอย่างในการศึกษา
ดังที่ได้พบศิลาจารึกหลักอื่นๆ
ที่มีแบบอักษรดัดแปลงไปจากแบบอักษรไทยที่พระองค์ทรงคิดค้นขึ้น
เมื่อแต่ละประเทศใกล้เคียงมีการใช้ภาษาที่คล้ายกัน
จะเป็นประโยชน์ในด้านของการสื่อสารเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีได้ง่าย
- ชาวบ้านสามารถทำ
หรือลอกเลียนเรื่องราวในหลักศิลาได้ไม่ยาก
เพราะเพียงนำสีมาชโลมหลักศิลา
และนำผ้ามาพันโดยรอบ ค่อยๆ
กดลงไป
ก็จะได้ลายที่เป็นเรื่องราวในหลักศิลา
ที่สามารถพกพาหรือ
นำไปเผยแพร่ต่อไปได้ง่าย
- ทำให้เกิด "การเอาเป็นเยี่ยงอย่าง"
ในการจารึกเรื่องราวลงบนแผ่นศิลาของคนรุ่นต่อๆ
มา ทั้งนี้
สังเกตจากการพบศิลาจารึกอื่นๆ
ที่มีลักษณะของการบันทึกในลักษณะคล้ายกับกิตติกรรมประกาศ
เล่าเรื่องราวเหตุการณ์อันเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ผู้บันทึกประทับใจ
หรือให้ความสนใจ
อาจจะเนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองหรือการสดุดี
เช่นจารึกหลักที่ ๔๕
ที่พบหลังวิหารสูง
วัดมหาธาตุ
มีเนื้อความโดยย่อ (๑)
เป็นเรื่องราวการทำสัตย์สาบานต่อกันของเจ้านายสุโขทัย
เป็นต้น
- เพราะหลักศิลาสามารถคงสภาพอยู่ได้นานกว่าวัสดุประเภทอื่นที่คาดว่าจะใช้เขียนกันในขณะนั้น
เช่น ใบลาน หรือสมุดข่อย
หรือผ้า
เป็นต้น ความคงทนของหลักศิลาจะทำให้มีความได้เปรียบ
ทำให้อนุชนรุ่นหลังได้รับทราบเรื่องราวในสมัยนั้น
ได้นำมาเป็นแบบอย่างในการศึกษาเล่าเรียน
|