| จางหย่งกุ้ยกำลังเล่านิทานให้กับผู้ชายสูงอายุ
20 กว่าคน
ที่นั่งจิบน้ำชาไปเรื่อยๆ
ๆ
บนเก้าอี้ไม้ไผ่ที่ถูกขัดสีจนเป็นมัน
พนักงานหญิงก็ยกน้ำชามาเสริฟ
ไม่ได้ขาด
คนที่สูบบุรี่บี้ใบยาแล้วยัดใส่กล้องด้ามยาวสูบอย่างออกรส
บรรยากาศการเล่านิทานพื้นเมืองเล่าต่อๆ
กันมาตั้งแต่ศตวรรษที่
12 จางหย่งกุ้ยเล่าด้วยสำเนียงพื้นเมืองเสฉวน
เริ่มเรื่องนั้นจะรู้สึกจีดชืดอยู่สักหน่อยแต่ยิ่งเล่าก็ยิ่งออกรส
แกมีกลเม็ดเด็ดพรายในการเล่า
ราวกับว่ามีตัวละครในเรื่องมาปรากฏอยู่ต่อหน้าทีเดียว
นิทานที่เล่าเรื่องหนึ่งอาจใช้เวลาถึง
7 คืน ค่าน้ำชาถ้วยละ
25 เฟิน
คนดื่มน้ำชาถ้วยหนึ่งจางหย่งกุ้ยจะได้
10 เฟิน
แต่ละคืนแกได้ราว 2
หยวนจีน
วันไหนที่แกมาเล่านิทาน
ผู้คนที่ชอบฟังนิทานของแกก็จะมานั่งฟังกันเต็มร้าน
แต่ร้านน้ำชาหลายๆ
ร้านในนครเฉิงตู
รู้สึกว่าลูกค้าจ่าย
25
เฟินแล้วนั่งอยู่ตั้งครึ่งคืน
เจ้าของร้านได้ไม่คุ้มเสีย
พวกเขาพากันดัดแปลงร้านน้ำชาเป็นโรงบิลเลียด
ร้านน้ำชาถูกรื้อไปไม่น้อย
จากบ้านไม้เตี้ยๆ
แบบเก่ากลายเป็นตึก
การเล่านิทานอันมีมาแต่โบราณอาจจะค่อยๆ
สูญหายไปท่ามกลางกระแสที่มีการรื้อบ้านเก่าสร้างบ้านใหม่
ก็หวังว่า ศิลปวัฒนธรรมในร้านน้ำชายังคงมีชิวิตกชีวาอยู่เช่นเดิม
ไม่เพียงแต่ในหอกลอง
ที่โด่งดังที่สุด
อีกแห่งหนึ่งอยู่ในสวนสาธารณะ
ประชาชนในใจกลางนครเฉิงตู
มีร้านน้ำชากลางแจ้งร้านหนึ่งจุคนได้
200-300 คน
ลูกค้านั่งเก้าอี้ไม้ไผ่ล้อมรอบโต็ะหิน
มีพนักงานเสริฟน้ำชาอย่างกระฉับกระเฉง
เวลาดื่มชาหอมมะลิต้องใช้ถ้วยมีฝาเพื่อรักษาความร้อนและเวลาดื่มก็ปิดฝาถ้วยไว้
เพื่อไม่ให้กากเข้าปาก(ดังรูปตัวอย่าง) |