สนเทศน่ารู้ :: ชา (Tea)

การผลิตและการค้าระหว่างประเทศ

ผลผลิตชาของโลกในช่วงปี ค.ศ. 1995-1998 โดยเฉลี่ย 2.6 ล้าน ตัน/ปี (ชาเขียว 22%) จากปริมาณพื้นที่ปลูกรวม 15.6 ล้านไร่ใน 30 ประเทศ จีนมีพื้นที่ปลูกชามากที่สุด (6.87 ล้านไร่) แต่จากผลผลิตรวม 580,000 ตัน (ชาเขียว 70%) จัดเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่อันดับสองรองจากอินเดีย ซึ่งมีผลผลิต 755,000 ตัน จากพื้นที่ปลูก 2.65 ล้านไร่ ศรีลังกาเป็นประเทศผลิตอันดับสาม (250,000 ตัน) ติดตามมาด้วยคีนยา (240,000 ตัน) อินโดนิเชีย (140,000 ตัน) และตุรกี (120,000 ตัน) ประเทศในเอเชียใต้ อินเดีย ศรีลังกา และบังคลาเทศมีผลผลิตรวมกันประมาณ 40% ของผลผลิตชาของโลก เอเชียตะวันออก(จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน) 27%, แอฟริกา(10 ประเทศ)14%, เอเชียตะวันตก (ตุรกี, อิหร่าน, จอร์เจีย และอะเซอร์ไบจาน) 10%, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 7% และอเมริกาใต้ (อาร์เจนตินา และบราซิล) 2%

ประมาณ 50% ของชาดำ และ 78% ของชาเขียวใช้เพื่อการบริโภคภายในประเทศผู้ผลิต ส่วนที่เหลือ 1.1 ล้านตัน(ชาดำ 93%) มีจำหน่ายในตลาดโลก

ศรีลังกาและประเทศในแอฟริกาส่วนใหญ่ส่งชาออกมากกว่า 90% ของผลผลิต อินโดนีเชีย 60%, จีน 27% (ชาดำและชาเขียว) และอินเดีย 20%

ประเทศผู้นำเข้าชารายใหญ่ ได้แก่ สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ (155,000 ตัน/ปี), สหภาพโซเวียต(150,000 ตัน), ปากีสถาน(110,000 ตัน), สหรัฐอเมริกา (85,000 ตัน) และอียิปต์ (70,000 ตัน) ปริมาณการบริโภคชาต่อประชากรในแต่ละปีมีค่าตั้งแต่ 0.1-3.1 กก. เช่น อิตาลี 0.1 ,สหรัฐอเมริกาและอินโดนีเชีย 0.3,จีนและสหภาพโซเวียต 0.5, อินเดีย 0.6, ญี่ปุ่นและอียิปต์ 1.1, ตุรกี 1.9, สหราชอาณาจักร 2.5 และไอร์แลนด์ 3.1 กก.

ตลาดการซื้อขายชาระหว่างประเทศขึ้นอยู่กับการประมูลในตลาดผู้ผลิต (เช่น ในกัลกัตตา โคลอมโบ จาการ์ต้า มอมบาซา) และอีกส่วนหนึ่ง ขึ้นอยู่กับการซื้อขายโดยตรงจากแปลงปลูกขนาดใหญ่ หรือองค์กรที่ทำหน้าที่จำหน่ายชาของประเทศ (เช่น จีน) ให้กับผู้ซื้อจากต่างประเทศ ราคาของชา ในแต่ละปีมีความแตกต่างกันโดยเฉพาะมีแนวโน้มลดลงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และมีความแตกต่างกัน 50-200% ระหว่างชาชนิดธรรมดา และชาคุณภาพสูง จากราคาประมูลโดยเฉลี่ย 30-48 บาท/กก. ชาที่ซื้อขายในตลาดโลกปี ค.ศ.1996 (1.1 ล้านตัน) มีมูลค่ารวมโดยประมาณ 33-53 พันล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนของปี US$1=25.32 บาท) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดเนียเซียเป็นประเทศผู้ผลิตสำคัญที่สุด มีพื้นที่ปลูกเป็นแปลงขนาดใหญ่ 500,000 ไร่(ชาดำ 110,000 ตัน) และเกษตรกรรายย่อย 312,500 ไร่ (ชาเขียว 30,000 ตัน) ผลผลิตชาเขียวในเวียดนาม 40,000 ตัน ส่วนใหญ่มาจากเกษตรกรรายย่อย มีพื้นที่ปลูกรวม 437,500 ไร่ และใช้บริโภคภายในประเทศ มาเลเชียผลิตชา 6,000 ตันในแต่ละปีจากพื้นที่ปลูกเป็นแปลงขนาดใหญ่รวม 25,000 ไร่ และนำเข้าชาดำเพื่อบริโภคภายในประเทศ 7,000 ตัน ปาปัวนิวกินีมีผลผลิต ชาดำ 7,000 ตัน จากแปลงปลูกขนาดใหญ่รวม 31,250 ไร่ ไทยมีผลผลิตชารวม 5,000 ตัน จากพื้นที่ปลูก 62,500 ไร่ ลาวมีผลผลิตชา 1,500 ตันจากพื้นที่ปลูก 12,500 ไร่

ที่มา: คัดลอกจาก PROSEA ทรัพยากรพืชในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 16 พืชที่ให้สารกระตุ้น. 2001 พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ชวนพิมพ์.

สาระ..ชา | ข้อมูลชาทางพฤกษศาสตร์ สภาพนิเวศและเขตกรรม | ชาเกี่ยวกับศิลปวัฒธรรมและประเพณี | บทความเกี่ยวกับชา

สนเทศน่ารู้ เรื่องชา ขึ้นด้านบน



ปรับปรุงล่าสุด : 10 มิถุนายน 2553 16:21:54 น.