ผลผลิต
โดยหลักทั่วๆ ไป ชาอัสสัมและชาอินเดียลูกผสมมีศักยภาพในการให้ผลผลิตสูงกว่าชาจีน ในแปลงปลูกของเอกชนรายใหญ
่ซึ่งโดยทั่วไปมีการจัดการ
ที่ดีได้ผลผลิตสูงกว่า
ที่ได้จากแปลงปลูกของเกษตรกร
รายย่อยและการเก็บเกี่ยวแบบรวมกันให้ผลผลิตสูงกว่า
การเลือกเก็บ
สภาพภูมิอากาศ เช่น
สภาพแห้งแล้ง
สภาพอากาศหนาวเย็น
จนน้ำค้างแข็งและลูกเห็บตก
รวมทั้งการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช
รวมทั้งการขาดแคลนแรงงาน
มีผลต่อผลผลิตที่ได้ในบางช่วง การลดลงของราคาของชานับตั้งแต่ทศวรรษ
1950 มีผลกระตุ้นให้มีการรื้อแปลงชาเก่า
เพื่อปลูกทดแทนด้วยชาสายพันธุ์หรือสายต้นที่ให้ผลผลิตสูง
ผลผลิตเฉลี่ยในแต่ละปีของชาจีนที่ผ่านการแปรรูปแล้วของโลกโดยประมาณ
144 กก./ไร่ โดย ในจีน
มีค่าต่ำกว่า 80 กก./ไร่
ไปจนถึงมีค่ามากกว่า 224
กก./ไร่ ในญี่ปุ่น
มีการปลูกชาจีนและชาอัสสัมลูกผสมร่วมกัน
ในศรีลังกาได้ผลผลิตในแต่ละปีประมาณ
144 กก./ไร่ แหล่งปลูกในคีนยา
ส่วนใหญ่เป็นชาอัสสัมและชาอินเดียลูกผสม
ได้ผลผลิตในแต่ละปีสูงถึง
336 กก./ไร่ ในมาลาวี
288 กก./ไร่ และในอินเดีย
272 กก./ไร่
ผลผลิตเฉลี่ยของชาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีตั้งแต่
เวียดนาม 96
กก./ไร่, อินโดเนียเชีย
176 กก./ไร่, มาเลเชีย
320 กก./ไร่ ไปจนถึง ในปาปัวนิวกินี
336 กก./ไร่
ทั้งนี้ค่าเฉลี่ยของชาของผลผลิตที่ได้จากแปลงปลูกของเอกชนรายใหญ่และจากแปลงปลูกของรัฐ
328 กก./ไร่ |