สนเทศน่ารู้ :: ชา (Tea)

โรคและแมลงศัตรูพืช

โรค blister blight เกิดจากเชื้อ Exobasidium vexans  เข้าทำลายใบอ่อนจัดเป็นโรคที่มีความสำคัญและทำความเสียหายอย่างกว้างขวาง ในแหล่งปลูกชา ในเอเชีย แต่ไม่มีรายงานโรคครั้งแรกนี้ในแอฟริกา และอเมริกาใต้  มีรายงานโรคครั้งแรกในอัสสัม(1868) ก่อนที่มีการแพร่ระบาด ไปทั่วอินเดีย  ญี่ปุ่นและไต้หวั่น(1920) ศรีลังกา(1946) อินโดเนียเชีย(1950)  การควบคุมโดยการฉีดพ่นอย่างสม่ำเสมอ ด้วยสารทองแดง และสารป้องกัน และกำจัดโรคพืชแบบดูดซึม  ชาบางสายต้นมีความต้านทานต่อโรคดีกว่า ต้นอื่นๆ แต่ทั้งนี้ยังไม่พบชนิดที่มีความต้านทาน  ต่อโรคอย่างแท้จริง  ในจีน และไต้หวัน โรคที่มีความสำคัญ  ได้แก่ โรคแอนแทรคโนส(Colletotrichum theae-sinensis) และ net blister blight (Exobasiduum reticulum) โรค grey blight (Pestalotia theae) และ brown blight(Colletotrichum camilliae) มีอาการของโรคแคงเกอร์ ในส่วนของกิ่ง และลำต้น เช่น Macrophoma theicola และ Phomopsis theae  สามารถควบคุมโดยใช้ความระมัดระวังในการตัดแต่งกิ่ง ใช้สีที่มีคุณสมบัติ ป้องกันกำจัดโรคพืชทาตรงรอยตัด รวมทั้งการตัดกิ่งที่มีอาการของโรคทิ้งไป เชื้อโรคพืชหลายชนิดเข้าทำลายส่วนราก ซึ่งมีอาการของโรคทิ้งไป เชื้อโรคพืชหลายชนิดเข้าทำลายส่วนรากซึ่งมีความยากลำบากในการควบคุม ได้แก่โรค Charcoal root disease(Ustulina deusta), red root disease(Poria bypolateritia), brown root disease(Armillaria mellea) และ Ganoderma pseudoferreum

การเข้าทำลายครั้งแรก มักจะเริ่มต้นจากส่วนของเส้นใยที่เจริญมาจากส่วนของตอไม้เก่า หรือรากของต้นไม้ที่กองเหลืออยู่ในแปลงหรือไม้ที่ปลูกในร่มเงา การควบคุมโดยการขุดต้นที่เป็นโรค และต้นที่อยู่รอบๆ ออก อบดินด้วยสารเคมี เช่นด้วยเมททินโบรไมด์และปลูกหญ้า เช่น หญ้ากัวเตมาลา ครอบคลุมพื้นที่ ี่นาน 2 ปี  ก่อนที่จะทำการปลูกชา แมลงศัตรูและศัตรูอื่นๆ ในชามีรวมกันมากกว่า 300 ชนิด แมลงศัตรูสำคัญ ที่พบในอินเดียทำความเสียหาย กับผลผลิตในแต่ละปี 6-14 % ได้แก่

 -แมลงกัดกินใบ: ไร(Oligonychus coffeae,Tetranychus spp, Brevipalpus spp.) เพลี้ย(เช่น Scirtothrips dorsalis), มวนยุง(เช่น Helopeltes theivora) เพลี้ยและเพลี้ยอ่อน (Aphis spp.,Toxoptera aurantii), แมลงกัดกินใบ(เช่น Homona spp.) และหนอนม้วนใบ(เช่น Caloptilia theivara) และ flushworm(Cydia leucostoma)

 นอกจากจะมีผลต่อการลดลงของผลผลิตแล้วแมลงกัดกินใบยังมีผลต่อคุณภาพของชาอีกด้วย

-แมลงทำความเสียหายกับทำต้น: red coffee borer(Zeuzera coffeae), scolytid shot-hole borer(Euwallacea fornicatus) และปลวก

 -แมลงศัตรูทำความเสียหายกับราก: โดยเฉพาะไส้เดือนฝอย (Meloidogyne spp,), root lesion (Tratylenchus spp.) และ root burrowing nomatodes(Radopholus similis)

 สารเคมีป้องกันและกำจัดแมลง ที่ใช้ในชามีอย่างชนิดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดในวงแคบๆ มี half life สั้นกว่า 8 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา การตกค้างของสารเคมีสูงกว่ามาตรฐานที่ FAO/WHO  กำหนด ยกเว้นในบางกรณี การควบคุมแมลงศัตรูพืชในชา โดยชีววิธีและการจัดการแบบผสมผสาน ยังไม่มีความก้าวหน้าเท่าที่ควร 

ที่มา: คัดลอกจาก PROSEA ทรัพยากรพืชในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 16 พืชที่ให้สารกระตุ้น. 2001
          พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ชวนพิมพ์.

สาระ..ชา | ข้อมูลชาทางพฤกษศาสตร์ สภาพนิเวศและเขตกรรม | ชาเกี่ยวกับศิลปวัฒธรรมและประเพณี | บทความเกี่ยวกับชา

สนเทศน่ารู้ เรื่องชา ขึ้นด้านบน



ปรับปรุงล่าสุด : 10 มิถุนายน 2553 16:21:54 น.