สนเทศน่ารู้ :: ชา (Tea)

การปรับปรุงพันธุ์ชา

ส่วนใหญ่ของแปลงปลูกชาในโลก ปลูกโดยใช้ต้นกล้าที่ได้จากการเก็บรวบรวมเมล็ดในแปลงขยายพันธุ์ซึ่งมีการขยายพันธุ์ ในยุคแรกๆ เป็นแปลงขยายพันธุ์ซึ่งมีการผสมข้าม แปลงขยายพันธุ์ในยุคแรกๆ เป็นแปลงซึ่งไม่มีการคัดเลือกพันธุ์โดยเฉพาะ แต่ในปัจจุบันประกอบด้วยต้นที่ได้จากการคัดเลือก (mass selected) ตลอดจน progeny-tested family หรือสายต้นที่ได้รับการคัดเลือก ชาจัดเป็นพืชที่มีการผสมข้ามอย่างกว้างขวาง  มีความแปรปรวนในสายพันธุ์มาก  ตลอดจนยังคงมีความแตกต่างระหว่างต้นมากในการขยายพันธุ์ โดยเมล็ดในสายในสายพันธุ์ที่ผ่านการคัดเลือก การพัฒนาวิธีการขยายพันธุ์แบบไม่ใช้เพศโดยวิธีการ single-node cutting ในอินเดีย ศรีลังกา และคีนยาในทศวรรษ 1960 เป็นจุดเริ่มของการขยายพันธุ์ทางสายต้นอย่างกว้างขวางในประเทศผู้ผลิตชาหลายประเทศ การขยายพันธุ์ทางสายต้นทำให้โอกาสได้แปลงปลูกชาที่มีความสม่ำเสมอ ตลอดจนการคงไว้ซึ่งสายพันธุ์ที่มีลักษณะเด่น  อย่างไรก็ตามโอกาสพบต้นคุณภาพสูงโดยวิธีการคัดเลือก จากต้นจำนวนมากจากประชากรของชาในปัจจุบันมีโอกาสน้อยมาก ทั้งนี้การวางแผน recombination cross ระหว่างต้นที่ได้รับการคัดเลือกมีโอกาสที่จะได้ต้นที่มีคุณสมบัติความต้องการมากกว่าในชาเช่นเดียวกันกับในพืชชนิดอื่น ลูกผสมที่ได้จากการผสมต้นพ่อและต้นแม่ที่มีพันธุกรรมแตกต่างกันมีผลผลิตสูงเนื่องจากผลของ hybrid vigor การใช้ molecular marker มีส่วนช่วยในการวัดค่าความหลากหลายของพันธุกรรมในรุ่นลูก ซึ่งมีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับปรุงพันธุ์

การปรับปรุงพันธุ์ชาที่ผ่านมามีจุดมุ่งหมายในการปรับปรุงลักษณะพุ่มต้น ผลผลิตและคุณภาพในสายพันธุ์ C.sinensis  ยังไม่พบต้นที่มีความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืชที่เป็นที่น่าพอใจ การถ่ายทอดพันธุกรรมความต้านทานโรคและแมลงจากพืชที่มีความใกล้เคียงมายังชายังไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งไม่ได้เกิดปัญหาข้อจำกัดในการผสมข้ามแต่เกิดจากยังไม่สามารถที่จะถ่ายทอดคุณสมบัติดังกล่าวมาจากต้นที่ใช้เป็นต้นพ่อและต้นแม่ ต้นลูกที่ออกมาอาจจะมีลักษณะโดยรวมคล้ายกับต้นชาแต่รสชาติชองชาที่ได้ไม่เป็นที่ยอมรับทางการค้า ยังไม่พบต้นที่มีความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืชที่เป็นที่น่าพอใจ การถ่ายทอดพันธุกรรมความต้านทานโรคและแมลงจากพืชที่มีความใกล้เคียงมายังชายังไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งไม่ได้เกิดปัญหาข้อจำกัดในการผสมข้าม แต่เกิดจากยังไม่สามารถที่จะถ่ายทอดคุณสมบัติดังกล่าวมาจากต้นที่ใช้เป็นต้นพ่อและต้นแม่ ต้นลูกที่ออกมาอาจจะมีลักษณะโดยรวมคล้ายกับต้นชาแต่รสชาติชองชาที่ได้ไม่เป็นที่ยอมรับทางการค้า

อุปสรรคอีกข้อหนึ่งในการปรับปรุงพันธุ์ชา ได้แก่ การไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการถ่ายทอดพันธุกรรมของผลผลิตและคุณภาพที่ได้จากการศึกษาพันธุกรรมที่เหมาะสม นอกเหนือจากที่ได้จากการสังเกตและการสรุปที่ว่าองค์ประกอบทางพันธุกรรมของผลผลิตและคุณภาพทั้งหมดเป็นการถ่ายทอดในเชิงปริมาณ

องค์ประกอบของผลผลิตมีความสำคัญมากในส่วนที่เกี่ยวกับจำนวนและน้ำหนักของยอดที่เก็บมากกว่าอัตราการเจริญเติบโตของยอด คุณภาพของชาที่แปรรูปแล้วมีความสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณขนบนผิวใบด้านล่างในใบอ่อนและความเขียวของใบแก่ หรือเขียวอ่อนให้ชาคุณภาพต่ำ

การคัดเลือกสายต้นที่นำมาใช้ประโยชน์เป็นต้นตอ(ระบบรากลึกและมีรากมาก) และการคัดเลือกสายต้นที่มีคุณภาพสูงจัดเป็นวิธีการปฏิบัติที่ได้ผลดีในการปรับปรุงชา โดยมีการพัฒนาเป็นครั้งแรกในมาลาวีและคีนยา เมื่อนำมาใช้ประโยชน์ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจาการมีจำนวนยอดที่เก็บเกี่ยวได้เพิ่มมากขึ้นโดยไม่สูญเสียคุณภาพของชาหลังจากการแปรรูป

ที่มา: คัดลอกจาก PROSEA ทรัพยากรพืชในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 16 พืชที่ให้สารกระตุ้น. 2001.
         
พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ชวนพิมพ์.

ภาพ: A Journey of Tea and Bamboo. 2002.  sinorama. 27, 6( JUNE  2002): 66-71.

สาระ..ชา | ข้อมูลชาทางพฤกษศาสตร์ สภาพนิเวศและเขตกรรม | ชาเกี่ยวกับศิลปวัฒธรรมและประเพณี | บทความเกี่ยวกับชา

สนเทศน่ารู้ เรื่องชา ขึ้นด้านบน



ปรับปรุงล่าสุด : 10 มิถุนายน 2553 16:21:54 น.