พระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่
1-9 |
พระราชลัญจกรที่ใช้ในรัชกาลที่ 9
พระราชลัญจกรประจำรัชกาล
เป็นตราประจำพระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาล
ที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างขึ้น
เพื่อเริ่มต้นรัชกาลเพื่อประทับกำกับพระปรมาภิไธย
ในเอกสารสำคัญต่างๆของชาติ ที่เกี่ยวด้วยการราชการแผ่นดิน เช่น
รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา
และเอกสารสำคัญส่วนพระองคที่เกี่ยวกับราชการแผ่นดิน
พระราชลัญจกรเป็นเครื่องมงคลที่แสดงถึงพระราชอิสริยยศ
และพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์
จากหลักฐานพบว่า มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
อันเป็นหลักฐานถึงความเจริญด้านวัฒนธรรมของชาติที่สืบต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
|
พระราชสัญลักษณ์ ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 1
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก |
เป็นรูปปทุมอุณาโลม มีอักขระ
"อุ" อยู่กลางล้อมรอบด้วยด้วยกลีบบัว
ซึ่งเป็นพฤกษชาติที่เป็นสิริมงคลในพุทธศาสนา
ตราอุณาโลมที่ใช้ตีประทับบนเงินพดด้วงมีรูปร่างคล้ายสังข์เวียนขวา
อยู่ในกรอบมีพื้นเป็นลายกนก ผลิตออกใช้คราวพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2328. |
|
พระราชสัญลักษณ์ ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 2
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย |
เป็นรูปครุฑยุดนาค
เป็นราชพระราสัญลักษณ์ของพระปรมาภิไธยว่า
"ฉิม"
ตามความหมายของวรรณคดีไทย คือพญาครุฑในเทพนิยาย
เทวะกำเนิดเป็นเทพองค์หนึ่งที่ทรงมหิทธานุภาพยิ่งแด่ยอมเป็นเทพ
พาหนะสำหรับพระนารายณ์ ปกติอยู่วิมานฉิมพลี
ดังนั้นจึงทรงพระกรุณาให้ใช้รูปยุตครุฑนาคเป็นสัญลักษณ์
ประจำพระองค์แทนพระปรมาภิไธย. |
|
พระราชสัญลักษณ์ ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 3
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นรูปราสาท
เป็นพระราชสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธยว่า
"ทับ"
หมายความว่า
ที่อยู่หรือเรือน ดังนั้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
ให้สร้างรูปปราสาท เป็นพระราชสัญลักษณ์ประจำพระองค์
แทนพระปรมาภิไธย. |
|
พระราชลัญจกร ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 4
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
เป็นรุปกลมรี
ลายกลางเป็นรูปพระมหาพิชัยมงกุฎ พระราชสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธยว่า
"มงกุฎ"
ซึ่งเป็นศิราภรณ์สำคัญของพระมหากษัตริย์
อยู่ในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์
มีฉัตรบริวารตั้งขนาบข้างที่ขอบทั้งสองข้าง
มีพานทองสองชั้นวางพระแว่นสุริยกานต์ หรือเพชรข้างหนึ่งวางสมุดตำราข้างหนึ่ง
พระแว่นสุริยกานต์หรือเพชรมาจากฉายา
ที่ทรงผนวชว่า
"วชิรญาณ"
ส่วนสมุดตำรามาจากเหตุที่ได้ทรงศึกษาเชี่ยวชาญในทางอักษรศาสตร์และดาราศาสตร์. |
|
พระราชลัญจกร ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 5
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
เรียกว่าพระเกี้ยวเป็นรูปพระจุลมงกุฎเปล่งรัศมี
(พระเกี้ยว)
ประดิษฐานบนพานแว่นฟ้าเป็นสัญลักษณ์ของ พระบรมนามาภิไธยว่า
"จุฬาลงกรณ์"
ซึ่งแปลความหมายว่าศิราภรณ์ชนิดหนึ่งอย่างมงกุฎ
มีฉัตรบริวารตั้งขนาบข้าง
ที่ริมขอบทั้งสองข้างมีพานแว่นฟ้าวางพระแว่น สุริยกานต์หรือเพชรข้างหนึ่งวางสมุดตำราข้างหนึ่ง
พระแว่นสุริยกานต์หรือเพชรและสมุดตำรานั้นเป็นการเจริญรอยจำลอง
พระราชลัญจกร
ประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นสมเด็จพระชนกนาถ. |
|
พระราชลัญจกร ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 6
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว |
เรียกว่าพระราชกัญจกรพระวชิระ เป็นรูป วชิราวุธ
ยอดมีรัศมีประดิษฐานบนพานแว่นฟ้า ตั้งอยู่เหนือดั่ง
มีฉัตรกลีบบัวตั้งอยู่สองข้าง เป็นสัญลักษณ์ของ
พระบรมนามาภิไธยว่า
"วชิราวุธ" ซึ่งหมายถึงศาสตราวุธของพระอินทร์.
|
|
พระราชลัญจกร ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 7
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว |
เรียกว่า พระราชลัญจกร
พระแสงศร เป็นรูปพระแสงศร 3 พระองค์ คือพระแสงศร
พรหมาสตร์ พระแสงศรประลัยวาด และพระแสงศรอัคนีวาด
เหนือราวพาดพระแสงเป็นตรามหาจักรีบรมราชวงศ์
ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ
เบื้องซ้ายและเบื้องขวาของราวพาดพระแสง ตั้งบังแทรกสอดแทรกด้วย
ลายกนกอยู่บนพื้นตอนบนของ
ดวงตราพระแสงศร 3 องค์นี้ เป็นสัญลักษณ์ของ พระบรมนามาภิไธยว่า
"ประชาธิปกศักดิเดชน์"
ซึ่งมาจากความหมายของศัพท์คำสุดท้ายของวรรคที่ว่า เดชน์ แปลว่า
ลูกศร. |
|
พระราชลัญจกร ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 8
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล |
เป็นรูปพระโพธิสัตว์ประทับบนบัลลังก์ดอกบัว
ห้อยพระบาทขวาเหนือบัวบาน หมายถึงแผ่นดิน
พระหัตซ้ายถือดอกบัวตูมและมีเรือนแก้วด้านหลังแทนรัศมี
มีแท่นรองรับตั้งฉัตรบริวาร 2 ข้างเป็น พระราชสัญลักษณ์ของ
พระบรมนามาภิไธยว่า
"อานันทมหิดล"
ซึ่งแปลความหมายว่า เป็นที่ยินดีของแผ่นดิน
เพราะองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ
เป็นพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย
โดยความยกย่องยินดีของอเนกนิกรชาวไทย
ประหนึ่งพระโพธิสัตว์เสด็จมาประทาน
ความร่มเย็นเป็นสุขแก่ทวยราษฎร์ทั้งมวล. |
|
พระราชลัญจกร ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 9
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช |
เป็นรูปพระที่นั่งอัฐทิศ ประกอบด้วยวงจักร
กลางจักรมีอักขระเป็น อุ หรือ เลข 9
รอบวงจักรมีรัศมีเปล่งโดยรอบ
เหนือจักรเป็นรูปเศวตฉัตรเจ็ดชั้น
ฉัตรตั้งอยู่บนพระที่นั่ง อัฐทิศ แปลความหมายว่า
ทรงมีพระบรมเดชานุภาพในแผ่นดิน
โดยมีวันพระบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี
ได้เสด็จประทับเหนือพระที่นั่ง อัฐทิศ
สมาชิกรัฐสภาถวายน้ำอภิเษกจากทิศทั้งแปด
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย
ทรงรับน้ำอภิเษกจากสมาชิกรัฐสภาแทนที่จะทรงรับจากราชบัณฑิต
ดั่งในรัชกาลก่อน. |
พระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่
1-9 |
พระราชลัญจกรที่ใช้ในรัชกาลที่ 9
บรรณานุกรม
ข้อความคัดลอกจาก
:
ปฏิทินสวัสดีปีใหม่
2541,พระราชลัญจกร ประจำรัชกาล,บริษัท
แสงโสมจำกัด,กลุ่มบริษัทสุราทิพย์,สุรามหาราชจำกัด(มหาชน)
,บริษัทเบียร์ไทย(1991)จำกัด,บริษัทคาร์ลสเบอร์กบริวเวอร์(ประเทศไทย)จำกัด.
ภาพประกอบแสกนและดัดแปลงจาก :
ปฏิทินสวัสดีปีใหม่
2541,พระราชลัญจกร ประจำรัชกาล,บริษัท
แสงโสมจำกัด,กลุ่มบริษัทสุราทิพย์,สุรามหาราชจำกัด(มหาชน)
,บริษัทเบียร์ไทย(1991)จำกัด,บริษัทคาร์ลสเบอร์กบริวเวอร์(ประเทศไทย)จำกัด.
รวบรวมข้อมูลโดย : นางนิตยาพร นิ่มนวล
ฝ่ายวิเคราะห์ทรัพยากรห้องสมุดและทำบัตรรายการ
สนเทศน่ารู้
ขึ้นด้านบน
|