- สวนวังแก้ว ห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 38 กิโลเมตร อยู่เลยสวนสนไปตามถนนเลียบชายทะเลประมาณ 11 กิโลเมตร ภายในบริเวณมีสวนป่าธรรมชาติ และสวนไม้ดอกไม้ประดับ หาดทราย และอ่าวที่มีทัศนียภาพสวยงาม มีบ้านพัก และเต็นท์บริการ มีจักรยานให้เช่าสำหรับผู้ที่ชอบออกกำลังกาย ผู้ที่สนใจจะเข้าชมเสียค่าผ่านประตู ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00 – 18.00 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 38-6 3 8-067-8 กรุงเทพฯ โทร. 0 2-259 -4150-1
- แหลมแม่พิมพ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองระยอง 48 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิทมีทางแยกขวาไปแหลมแม่พิมพ์ถึง 3 แห่งด้วยกัน คือ กิโลเมตรที่ 249.5 กิโลเมตรที่ 263 และกิโลเมตรที่ 268 ผ่านอนุสาวรีย์สุนทรภู่ไปอีก 5 กิโลเมตร หรือห่างจากวังแก้ว ตามถนนเลียบชายหาดไปอีก 11 กิโลเมตร บริเวณชายหาดแม่พิมพ์เล่นน้ำได้ คลื่นไม่แรง มีบริการบ้านพัก และร้านอาหารตลอดแนวชายหาดด้วย
- อนุสาวรีย์สุนทรภู่ อยู่เลยแหลมแม่พิมพ์ทางไปอำเภอแกลงประมาณ 5 กิโลเมตร บนเส้นทางแกลง-แหลมแม่พิมพ์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสุนทรภู่ กวีเอกในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น อนุสาวรีย์นี้เปิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2513 บริเวณอนุสาวรีย์มีรูปปั้นของตัวละครเอกในเรื่องพระอภัยมณีจัดแสดงไว้ด้วย
- วัดสารนารถธรรมาราม อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 265 ถนนสุขุมวิท ตำบลทางเกวียน ปากทางเข้าอำเภอแกลง แยกซ้ายเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2488 มีมหาอุโบสถปูชนียสถานที่สวยงาม เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปองค์พระประธานจำลองมาจากพระพุทธชินราช วัดมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก บริเวณมุมกำแพงแก้วรอบอุโบสถทั้ง 4 ได้จำลองเอาพระพุทธเจดีย์ที่สำคัญของแต่ละภาคไว้ คือ พระปฐมเจดีย์ พระธาตุพนม พระเจดีย์พุทธคยาจำลอง และพระบรมธาตุไชยา
- หมู่เกาะมัน เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในเขตตำบลกร่ำ หมู่เกาะมันมีอยู่ 3 เกาะ คือ เกาะมันใน เกาะมันกลาง และเกาะมันนอก เกาะมันใน มีพื้นที่ประมาณ 131 ไร่ มีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม อ่าวหินโขดหญ้า อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน โดยเฉพาะที่อ่าวหน้าบ้านมีปะการังที่สวยงาม ส่วนอ่าวโกงกางมีทรายเรียบ เกาะมันในมีความสำคัญเนื่องจากเป็นที่ดำเนินการโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล มีพันธุ์เต่าตนุ และเต่ากระ ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปิดให้เข้าชม เวลา 8.00 – 18.00 น. เกาะมันในอยู่ห่างจากแหลมแม่พิมพ์ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที สามารถเช่าเรือจากแหลมแม่พิมพ์ หรืออ่าวมะขามป้อมก็ได้ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย ฝั่งทะเลตะวันออก เกาะมันใน โทร. 0 3861 6096, 0 3865 7466
- เกาะมันกลาง และเกาะมันนอก เป็นเกาะที่มีหาดสวยงาม เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนมีบ้านพักของเอกชนบริการ อำเภอวังจันทร์
- สำนักสงฆ์น้ำตกธรรมรส ตั้งอยู่ที่ตำบลป่ายุบใน มีเนื้อที่กว่า 300 ไร่ มีหลวงพ่อธรรมรส หรือหลวงพ่อคล้าย ฐิตธัมโม เป็นเจ้าอาวาส และสำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นสถานที่ปฏิบัติกรรมฐาน ภายในสำนักสงฆ์มีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่ พระพุทธรูปปางพระเจ้าเปิดโลก พระโพธิสัตว์ หอระฆังปราบมาร รูปปั้นพระพุทธองค์ทรงโปรดองคุลีมาล พระอินทร์มาดีดพิณสอนธรรม รูปปั้นหลวงพ่อโต และวนอุทยานสงฆ์น้ำตกธรรมรส
- การเดินทาง จากกรุงเทพฯ สามารถนั่งรถประจำทางสายกรุงเทพฯ-แกลง หรือสามย่าน?มาลงที่หน้าสำนักสงฆ์ได้
- สวนสมุนไพร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์บำรุงรักษา และบ้านพักมาบข่า การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย บนทางหลวงหมายเลข 3191 ตำบลมาบข่า ห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 25 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 60 ไร่ จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมสมุนไพร และศูนย์รวบรวมความรู้ และงานวิจัยทดลองเรื่องสมุนไพร เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ด้านปฏิบัติการโรงแยกก๊าซ ระยอง เลขที่ 555 โรงแยกก๊าซ ปตท. ถนนสุขุมวิท ตำบลมาบตาพุด กิ่งอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง หรือ โทร. 0-3868-1830
- ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน อยู่ในบริเวณวัดลุ่มมหาชัยชุมพล ถนนตากสิน ตำบลท่าประดู่ มีต้นสะตือขนาดใหญ่อยู่หน้าศาล อายุประมาณ 300 ปี เล่ากันว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงนำช้างมาผูกไว้ที่ใต้ต้นสะตือนี้เมื่อครั้นเสด็จผ่านระยองไปเพื่อรวบรวมไพร่พล และตั้งทัพเพื่อเตรียมกู้อิสรภาพที่จันทบุรี ภายในศาลมีรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินในท่าประทับยืนประดิษฐานอยู่ และมีงานสมโภชประจำปีในช่วงตรุษจีน การเดินทาง สามารถใช้เส้นถนนสุขุมวิท สาย 3 เริ่มจากตัวเมืองจนถึงหอนาฬิกาประมาณ 200 เมตร จะถึงสามแยกตากสิน ให้เลี้ยวขวาที่สามแยกตากสิน เข้าสู่ถนนตากสินมหาราช
- วัดโขด หรือ ทิมธาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าประดู่ สร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2007 ผู้สร้างชื่อทิม เป็นเจ้าเมืองระยองในสมัยนั้น สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในอุโบสถมีภาพจิตกรรมฝาผนัง และหลวงพ่อขาวที่เป็นที่เคารพสักการะบูชาของชาวระยอง และมีการจัดงานบูชานมัสการประจำปี ในวันที่ 13-14 เมษายนของทุกปี
- วัดป่าประดู่ อยู่ในเขตเทศบาลนครระยอง ถนนสุขุมวิท เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ภายในวิหารมีพระนอนขนาดใหญ่ ยาว 11.95 เมตร สูง 3.60 เมตร เป็นพระพุทธไสยาสน์ซึ่งประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย เดิมอยู่กลางแจ้ง ต่อมาสร้างวิหารครอบเมื่อปี 2524
- การเดินทาง สามารถใช้เส้นทางได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรก จากถนนสุขุมวิท สาย 3 ผ่านตัวเมือง จังหวัดระยอง จุดสังเกตคือ ผ่านโรงพยาบาลระยอง โรงเรียนวัดป่าประดู่ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยถนนป่าประดู่จะถึงวัดป่าประดู่ เส้นทางที่ 2 จากถนนสาย 36 (บายพาส) ถึงสี่แยกเกาะลอย ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนจันทอุดม ผ่านตัวเมืองจังหวัดระยอง พอถึงสามแยกโรงพยาบาลให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท สาย 3 ผ่านโรงพยาบาลระยอง โรงเรียนวัดป่าประดู่ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยถนนป่าประดู่จะเห็นวัดป่าประดู่
- ศาลหลักเมือง ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง เดิมเป็นศาลไม้ ต่อมาได้รับการปฏิสังขรณ์เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ลักษณะอาคารเป็นศาลเจ้าจีน ตัวหลักเมืองเดิมอยู่หน้าศาล ต่อมามีการสร้างเสาหลักเมืองใหม่ และสร้างมณฑปจตุรมุขครอบเมื่อปี พ.ศ.2535 มีงานสมโภชในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี
- พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน ตั้งอยู่ที่วัดบ้านดอน เป็นที่เก็บรักษาตัวหนังใหญ่ จำนวน 100 ตัว มีอายุมากกว่า 200 ปี ที่นำมาจากจังหวัดพัทลุง เมื่อ ปี พ.ศ. 2431 รวมถึงหนังใหญ่ชุดใหม่ที่ใช้แสดงในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวที่สนใจจะเข้าชมการแสดงหนังใหญ่ควรติดต่อก่อนล่วงหน้าประมาณ 3 วัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-5087-0235, 0-5087-0235, 0-9831-6053
- พระเจดีย์กลางน้ำ ห่างจากตัวเมืองไปทางใต้ 2 กิโลเมตร ใกล้ปากแม่น้ำระยอง องค์พระเจดีย์ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2416 โดยพระยาศรีสมุทรโภคชัยโชค ชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) เป็นผู้สร้าง เจดีย์กลางน้ำนี้ใช้เป็นสัญลักษณ์ของชาวเรือว่า ได้เดินทางมาถึงเมืองระยองแล้ว พอถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกปี จะมีงานประเพณีห่มผ้าพระเจดีย์ แข่งเรือยาว และงานลอยกระทง
- สวนศรีเมือง ชาวเมืองนิยมเรียกว่า เกาะกลาง ตั้งอยู่กลางเมืองด้านหลังศาลากลางจังหวัด มีเนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ เคยเป็นแดนสำหรับประหารนักโทษ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ และสวนสุขภาพสำหรับประชาชน ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของหอพระพุทธอังคีรสซึ่งเป็นอาคารทรงไทย หลังคาจตุรมุข อันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธอังคีรส ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของระยอง
- หาดแหลมเจริญ ตั้งอยู่ใกล้ปากน้ำระยอง ห่างจากตัวเมืองระยองลงมาทางใต้ 5 กิโลเมตร ติดกับหาดแสงจันทร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเลที่อยู่ใกล้ตัวเมืองระยองมากที่สุด เป็นแหล่งผลิตน้ำปลาที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวประมงนอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายอาหารทะเล ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปรับประทานอาหารในช่วงเย็นด้วย
- หาดแสงจันทร์ ตั้งอยู่ตำบลปากน้ำใหม่ ห่างจากตัวเมือง 7 กิโลเมตร เป็นชายหาดติดต่อกับหาดแหลมเจริญ สามารถเล่นน้ำทะเลได้ มีร้านอาหาร และที่พักหลายแห่งไว้บริการนักท่องเที่ยว
- หาดแม่รำพึง-บ้านก้นอ่าว อยู่ห่างจากตัวเมืองระยอง ประมาณ 11 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิท มีทางแยกขวาที่กิโลเมตร 229 เข้าหาดแม่รำพึง ชายหาดมีความยาว 12 กิโลเมตร ถนนเลียบชายหาดยาว 10 กิโลเมตร มีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวมากมาย ชายหาดสะอาด เหมาะแก่การเล่นน้ำ สุดชายหาดเป็นที่ตั้งของบ้านก้นอ่าวซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้าน
- เขาแหลมหญ้า อยู่เลยบ้านก้นอ่าวไปเล็กน้อย ตามถนนเลียบชายหาดเป็นเนินเขาเตี้ย ๆ ริมทะเล มีเนื้อที่ประมาณ 680 ไร่ บางส่วนเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล ปกคลุมด้วยป่าละเมาะ มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นหาดแม่รำพึง เกาะเสม็ด และยัง เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกด้วย ส่วนด้านหน้าเป็นชายหาดแม่รำพึง เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด อัตราค่าเข้าอุทยานฯ นักท่องเที่ยว ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
- สถานที่พัก ทางอุทยานฯ (บนฝั่ง) มีบริการบ้านพัก จำนวน 3 หลัง ราคา 1,500 – 3,900 บาท มีเต็นท์ให้เช่า พักได้ 2-6 คน ราคา 300 – 400 บาท/คน/คืน ในกรณีที่นักท่องเที่ยวนำเต็นท์มาเองเสียค่าพื้นที่ ราคา 20 บาท/คน/คืน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3865 3034 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 www.dnp.go.th
- สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง ตั้งอยู่ที่เลขที่ 2 ต.เพ ริมอ่าวบ้านเพ ตำบลเพ เป็นสถานที่ศึกษา ทดลองและวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ทะเลและพรรณไม้น้ำ อีกทั้งเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำที่สวยงามและหายาก รวมทั้งความรู้ทางด้านทรัพยากรสัตว์ทะเลและการประมง โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำมีชีวิต โดยรวบรวมและจัดแสดงพันธุ์ปลาสวยงาม ปลาเศรษฐกิจ สัตว์น้ำที่หายาก และพรรณไม้น้ำของไทย อุโมงค์ทางเดินใต้ทะเลจำลอง สัมผัสกับสัตว์ทะเล ส่วนที่สอง จัดแสดงนิทรรศการ โดยแสดงโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล ชีวประวัติสัตว์ทะเลที่เลี้ยงลูกด้วยนม วิวัฒนาการของเรือประมงและเครื่องมือประมง จำลองนิเวศน์ป่าชายเลน และส่วนที่สาม จัดแสดงพิพิธภัณฑ์เปลือกหอย โดยนำตัวอย่างของสัตว์ทะเลที่น่าสนใจ เช่น ปะการังหอยทะเล เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันพุธ-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-17.00 น. ปิดวันจันทร์-อังคาร การเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อก่อนล่วงหน้า โดยทำหนังสือถึง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันตก อัตราค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3865-3672, 0-3865-3741 โทรสาร. 0-3865-1763 หรือ http://www.fisheries.go.th
- สวนพฤกษชาติโสภา ตั้งอยู่ใกล้ปากทางเข้าบ้านเพ ห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 17 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิท กิโลเมตรที่ 238 แยกขวา เข้าไปประมาณ 200 เมตร สวนอยู่ทางด้านขวามือ ภายในเนื้อที่ 32 ไร่ ปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด ประกอบด้วย ไม้เบญจพรรณ ไม้ในวรรณคดี ไม้เลื้อย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเรือนไทยโบราณ อายุร่วม 100 ปี จำนวน 3 หลัง จัดแสดงเครื่องลายครามของไทยสมัยต่าง ๆ โดยเฉพาะเครื่องปั้นดินเผาสมัยบ้านเชียงมีเป็นจำนวนมาก อัตราค่าเข้าชมสำหรับ คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท เปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิเสวตรโสภา โทร. 0-3864-1688
- บ้านเพ เป็นที่ตั้งของท่าเรือไปเกาะเสม็ด และท่าเทียบเรือประมง อยู่ห่างจากตัวเมืองระยอง 19 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิทแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ ๒๓๑ ไปประมาณ 5 กิโลเมตร หรือแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 238 ประมาณ 3 กิโลเมตร มีร้านขายของพื้นเมืองต่าง ๆ ที่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป เช่น น้ำปลา ปลาหมึก กุ้งแห้ง กะปิ ฯลฯ
- สวนสน หรือ สวนรุกขชาติเพ อยู่ถัดจากบ้านเพ เป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 29 กิโลเมตร ตามถนนเลียบชายหาดไปแหลมแม่พิมพ์ (ทางหลวงหมายเลข 3145) เป็นพื้นที่ป่าสนริมชายหาดมีต้นสนหลากพันธุ์ขึ้นอยู่ 2 ข้างทาง นอกจากนั้นยังมีพันธุ์ไม้อื่น ๆ เช่น ไม้ยาง ไม้ตะเคียน เป็นต้น ที่บริเวณสวนสนแห่งนี้เป็นหาดที่เหมาะแก่การเล่นน้ำ และโดยรอบบริเวณมีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว
- อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านเพ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2524 มีเนื้อที่ 81,875 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่บนฝั่ง และในทะเล ตลอดจนเกาะต่าง ๆ ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอแกลง มีสถานที่น่าสนใจ คือ หาดแม่รำพึง เขาแหลมหญ้า และหมู่เกาะเสม็ด อันประกอบไปด้วย เกาะเสม็ด เกาะจันทร์ เกาะสันฉลาม เกาะหินขาว เกาะค้างคาว เกาะกุฎี เกาะกรวย และเกาะปลาตีน สถานที่ที่เป็นจุดเด่น คือ เกาะเสม็ด หรือเกาะแก้วพิศดาร อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ๓ เส้นทาง คือ เกาะเสม็ด เกาะกุฎี และเขาแหลมหญ้า ในแต่ละเส้นทางจะพบพันธุ์ไม้นานาชนิด เช่น พันธุ์มะนาวป่า ต้นไข่เต่า ต้นขันทองพยาบาท ต้นเสม็ดแดง และสัตว์ป่า เช่น อีเห็นเครือ พังพอนเล็ก ลิงแสม กระรอกหลากสี นกนางแอ่นบ้าน และนกฮูก เป็นต้น นอกจากนั้นทั้ง 3 เส้นทางยังเป็นจุดชมวิวอีกด้วย อัตราค่าเข้าอุทยานฯ นักท่องเที่ยว ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
- สถานที่พัก ทางอุทยานฯ (บนเกาะเสม็ด) มีบริการบ้านพัก และเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว
ในกรณีที่นักท่องเที่ยวนำเต็นท์ไปเองต้องเสียค่าพื้นที่กางเต็นท์คนละ 20 บาท/คน/คืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด 79 หมู่ 1 บ้านก้นอ่าว ตำบลหาดแม่รำพึง-เพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โทร. 0 3865 2136 โทรสาร 0 3865 3034 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0-2562-0760 หรือ http://www.dnp.go.th
- เกาะเสม็ด เชื่อกันว่าคือเกาะแก้วพิสดาร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อของระยอง ที่ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ ตั้งอยู่ตำบลเพ อำเภอเมือง อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่ มีลักษณะเป็นเกาะรูปสามเหลี่ยม ส่วนฐานของเกาะอยู่ด้านทิศเหนือ ซึ่งหันเข้าสู่ฝั่งบ้านเพ มีภูเขาสลับซับซ้อนกันอยู่ 2-3 ลูก มีที่ราบอยู่ตามริมฝั่งชายหาด ส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านเหนือ และตะวันออก เหตุที่มีชื่อว่า เกาะเสม็ด เพราะเกาะนี้มีต้นเสม็ดขาว และเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก ซึ่งในอดีตชาวบ้านนำมาใช้ทำไต้จุดไฟ บนเกาะเสม็ดไม่มีแม่น้ำลำคลอง ประมาณ 80% ของพื้นที่ เป็นภูเขา และป่าไม้เบญจพรรณ ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายนเป็นช่วงฤดูฝนมีมรสุม คลื่นลมจัดมาก และยังมีฝนตกชุกการเดินทางจากบ้านเพไปเกาะเสม็ด จากท่าเรือบ้านเพ มีเรือโดยสารบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง (รอผู้โดยสารอย่างน้อยประมาณ 7 คนจึงออกเรือ) ค่าโดยสารระหว่างบ้านเพ-หาดทรายแก้ว ไป-กลับ 100 บาท ใช้ เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที จากบ้านเพ-อ่าววงเดือน ไป-กลับ 120 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ท่าเรือนวลทิพย์ โทร. 0 3865 1508, 0 3865 1956 ท่าเรือศรีบ้านเพ โทร. 0 3864 1901-2 , 0 3865 1736, 0 3865 2054 ท่าเรือสะพานปลาบ้านเพ โทร. 0 3865 1441
– การเดินทางบนเกาะเสม็ด บนเกาะเสม็ดมีถนนเพียงสายเดียว เป็นทั้งถนนคอนกรีต และถนนดิน บนเกาะมีรถสองแถวบริการเริ่มจากท่าเรือหน้าด่านไปตามหาดต่าง ๆ แล้วไปสิ้นสุดที่อ่าวปะการัง ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง หรือแล้วแต่จะตกลงกัน ราคาค่ารถสองแถวเริ่มต้นที่ราคา 10-100 บาท หากต้องการจะเหมาเที่ยวทั้งเกาะราคาประมาณ 1,500 บาท
– สถานที่น่าสนใจบนเกาะเสม็ด และเกาะใกล้เคียง
ชายหาด หาดต่าง ๆ ส่วนใหญ่อยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ แต่ละหาดอยู่ในอ่าวเล็ก ๆ มีความยาวประมาณ 200 เมตร เรียงตามลำดับจากทิศเหนือไปทิศใต้ ดังนี้ หาดทรายแก้ว หาดหินโคร่ง หาดคลองไผ่ อ่าวพุทรา อ่าวทับทิม อ่าวนวล อ่าวช่อ อ่าวคอก อ่าวเทียน อ่าวหวาย อ่าวกิ่วหน้านอก อ่าวกะรัง ทางด้านตะวันตกมีหาดทรายอยู่แห่งเดียว คือที่อ่าวพร้าว ส่วนอ่าววงเดือน อยู่ด้านตะวันออกทางตอนกลางของเกาะเป็นอ่าวโค้งคล้ายพระจันทร์ครึ่งดวง จากหาดวงเดือน และหาดทรายแก้วเป็นหาดทรายยาว และสวย บริเวณปลายแหลมด้านใต้มีเกาะเล็ก ๆ อยู่ 3 เกาะ ได้แก่ เกาะจันทร์ เกาะสันฉลาม และหินขาว ซึ่งเป็นที่อาศัยและวางไข่ของนกนางนวล โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปหาดอื่นๆ ได้โดยใช้บริการรถรับจ้าง หรือเดินเท้าไปเอง
- เกาะกรวย เกาะขาม และเกาะปลาตีน เป็นเกาะที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะกุฎี ประมาณ 600 เมตร เป็นเกาะที่สวยงาม มีปะการัง และสามารถตกปลาได้
- เกาะกุฎี หรือเกาะกุด เป็นเกาะหนึ่งในวรรณกรรมของสุนทรภู่ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเสม็ด ห่างจากฝั่งประมาณ 6 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 63 ไร่ ใกล้กับเกาะกุฎีมีเกาะขนาดเล็กอีก 2 เกาะ คือ เกาะท้ายค้างคาวและเกาะถ้ำฤาษี มีหาดทรายสวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำ ตั้งแค้มป์ปิ้ง มีหน่วยพิทักษ์อุทยานตั้งอยู่โดยรอบเกาะมีแนวปะการัง สามารถติดต่อเช่าเรือจากบ้านเพได้ บนเกาะไม่มีบริการบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว แต่มีเต็นท์ให้เช่า ราคา 200 บาท/คน/คืน ในกรณีที่นักท่องเที่ยวนำเต็นท์ไปเองเสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ 20 บาท/คน/คืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3865-3034 หรืองานบริการส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเล สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ โทร. 0-2561-2919 , 0-2561-2921
- เกาะทะลุ ห่างจากเกาะกุฎี ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 6 กิโลเมตร หรือห่างจากเกาะเสม็ด 12 กิโลเมตร มีพื้นที่ 69 ไร่ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ ทิศตะวันตกเป็นผาหินสูงชัน ด้านทิศตะวันออก และทิศใต้มีหาดทรายขาวสะอาด เกาะทะลุมีนกนางนวล ค้างคาวแม่ไก่ อยู่เป็นจำนวนมาก และมีเต่าทะเลบางชนิดอาศัยอยู่ นอกจากนั้นมีปะการังที่อุดมสมบูรณ์อยู่รอบ ๆ เกาะ และเป็นแหล่งเหมาะแก่การดำน้ำลึกอีกแห่งหนึ่ง การเดินทางไปท่องเที่ยวและดำน้ำที่เกาะกุฎี และเกาะทะลุ สามารถติดต่อเช่าเรือเร็วไป-กลับ จากท่าเรือบ้านเพ เป็นแพ็คเกจทัวร์ได้ ราคา 8,000 บาท/10 คน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ไอร์แลนด์ ทัวร์ โทร. 0-3865-3055 ถึง 9 (ควรเตรียมอาหารพร้อมเครื่องดื่มไปด้วย เนื่องจากบนเกาะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก)
- หาดแม่รำพึง หรือก้นอ่าว ที่เป็นที่นิยมของคนชอบอาหารทะเล ตลอดแนวหาดเป็นสิบกิโลเมตร ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลสดๆ และบังกะโล รีสอร์ท คอนโดมิเนียม หาดแห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวแวะมาตลอดปี ทั้งตั้งใจมาพักและเพียงทางผ่านก่อนกลับกรุงเทพ เพื่อมาทานอาหารทะเลสดๆ และเป็นที่นิยมของชาวระยองเองด้วย บรรยากาศริมทะเลหาดทรายยาวสุดลูกหูลูกตา แนวสน และลมทะเล วันหยุดวันพักผ่อนสั้นๆ หาดแม่รำพึงอยู่บนถนนสุขุมวิท ก่อนถึงบ้านเพ เพียงไม่กี่กิโลเมตร จะมีทางแยกเพื่อเข้าหาด ออกจากระยองมาเพียง 10 กว่ากิโลเท่านั้น ช่วงที่น่าเที่ยวก็คงหนีไม่พ้นในหน้าร้อน แต่หาดแห่งนี้ก็ไม่ขาดนักท่องเที่ยวแม้ในฤดูฝน อาจเพราะเนื่องจากการเดินทางที่สะดวกไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพ และเรื่องอาหารทะเลที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหารชื่อดังมากมาย ลานหินขาว ตั้งอยู่ระหว่างกลางของหาดแม่รำพึง ถูกจัดเป็นสวนหินมีที่นั่งพัก เย็นๆ จะเห็นนักท่องเที่ยวแวะมานั่งเล่นมากมายรวมทั้งชาวบ้านแถบนี้เองด้วย
- เกาะมัน เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีพระราชประสงค์ให้เกาะมันในเป็นที่ดำเนินการโครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เกาะมันในมีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม อ่าวหินโขดหญ้า อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน ซึ่งมีปะการังสวยงาม การเดินทางไปเกาะมันในสามารถเช่าเรือได้ที่แหลมแม่พิมพ์ หรือปากน้ำประแสร์ ติดต่อรายละเอียดที่สถานีเพาะเลี้ยงพันธุ์เต่าทะเล โทร. (038) 616-096, 657-466 เกาะมันใน มีพื้นที่ประมาณ 131 ไร่ มีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม อ่าวหินโขดหญ้า อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน โดยเฉพาะที่อ่าวหน้าบ้านมีปะการังที่สวยงาม ส่วนอ่าวโกงกางมีทรายเรียบ เกาะมันในมีความสำคัญเนื่องจากเป็นที่ดำเนินการโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล มีพันธุ์เต่าตนุ และเต่ากระ ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปิดให้เข้าชม เวลา 8.00 -18.00 น. เกาะมันในอยู่ห่างจากแหลมแม่พิมพ์ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที สามารถเช่าเรือจากแหลมแม่พิมพ์ หรืออ่าวมะขามป้อมก็ได้ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย ฝั่งทะเลตะวันออก เกาะมันใน โทร. 0-3861-6096, 0-3865-7466
- เกาะมันกลาง แหล่งอนุรักษ์เต่าทะเลในประเทศไทย เต่าทะเล ทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีคูณค่าและประโยชน์มากมายหลายด้านทั้งการอุปโภค บริโภค ส่วนต่างๆ นำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่นทำเครื่องประดับ เครื่องหนัง?และด้วยเหตุนี้เองทำให้เต่าทะเลถูกจับนำมาใช้ประโยชน์ จนทำให้เต่าทะเลลดลง และอาจจะสูญพันธุ์ในไม่ช้า ดังนั้น จึงต้องมีการอนุรักษ์ขึ้น
1. ฟาร์มเต่าทะเล การทำฟาร์มเต่าทะเลได้มีการดำเนินงานมากว่า 70 ปีแล้ว แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร พ.ศ.2514 ได้มีการทดองเลี้ยงเต่าในห้องทดลอง และได้มีการริเริ่มจัดตั้งฟาร์มเต่าทะเลเพื่อการอนุรักษ์ในปี 2522 โดยสมเด็จพระนางเจ้าๆ พระบรมราชินีนาถ ณ สถานีอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เกาะมันใน จ.ระยอง
2. สภาพการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลในประเทศไทย ประเทศไทยได้มีการเก็บไข่เต่าทะเลเพื่อการบริโภคมาเป็นเวลานาน ในส่วนของการทำประมงก็มีข้อห้าม โดยประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามความในมาตรา 32(7) แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 วันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2490 คุ้มครองเอาไว้ กล่าวคือ ห้ามจับ ดัก ล่อ ทำอันตราย และฆ่าเต่าทะเลทุกชนิดรวมทั้งไข่ของเต่าทะเล ผู้ใดฝ่าฝืนต้องจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และประเทศไทยก็ยังลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศของสัตว์ป่าและพืชป่าที่กลังจะสูญพันธุ์ (CITES)
3. การควบคุมการใช้ประโยชน์ การใช้ประโยชน์จากเต่าทะเล แบ่งออกได้ 3 ประเภท
3.1 การค้า โดยการหามาตรการหยุดยั้งการค้าจากผลิตภัณฑ์ที่มาจากเต่าทะเล
3.2 ควรส่งเสริมให้ชาวทะเลทำประมงที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเต่าทะเล และให้ความรู้ควบคู่กันไป
3.3 การทำฟาร์มเต่าทะเล ทั้งทางภาครัฐและเอกชน
4. เต่าทะเลที่ติดอวนขณะทำการประมง ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญต่อการลดลงของจำนวนเต่าทะเล จะต้องจัดการในเรื่องนี้ คือ
4.1 จัดตั้งเขตห้ามทำการประมง
4.2 พัฒนาเครื่องมือและเทคนิคการทำการประมง เพื่อลดการติดมาของเต่าทะเลในการทำประมง
4.3 ควรจัดการพิจารณาปัญหา และจัดการระเบียบและข้อบังคับขึ้น
4.4 ควรยุติความพยายามใดที่จะอาศัยการทำการประมงเพื่อจับเต่าทะเลในธรรมชาติ
5. การวิจัย ในเรื่องของการวิจัยจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในเรื่องต่างๆ ดังนี้
5.1 การสำรวจและประเมินขนาดจำนวนของเต่าทะเลทุกชนิด
5.2 ความรู้พื้นฐานด้านชีววิทยา และชีววิทยาการแพร่พันธุ์ของเต่าทะเลทุกชนิด
5.3 เทคนิคในการจัดการ มีสิ่งที่สำคัญคือ การทดสอบมาตรการที่ได้ผลในการเพิ่มจำนวน
6. ยุทธวิธีในการอนุรักษ์เต่าทะเลของโลก David Ehrenfeld ได้เสนอวิธีการอนุรักษ์เต่าทะเลของโลก พร้อมทั้งแผนการปฏิบัติการ และโครงการ อนุรักษ์เต่าทะเลของโลก ในการประชุมนานาชาติเกี่ยวกับการอนุรักษ์เต่าทะเล ณ กรุงวอชิงตัน ระหว่าง 26-30 พฤศจิกายน 2522 ดังนี้นโยบายอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล
1. การป้องกันถิ่นที่อยู่อาศัย
2. การจัดการทรัพยากรเต่าทะเล
- การให้การศึกษาเกี่ยวกับการอนุรักษ์เต่าทะเล กระทำโดยเผยแพร่มาตรการอนุรักษ์ที่ได้ผลให้แต่ละประเทศทราบ เพื่อที่ในแต่ละประเทศจะได้นำไปใช้เป็นนโยบายในการปฏิบัติ
- ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การใช้ไมโครชิพในการติดตามเต่าทะเล
- เครื่องมือแยกเต่าทะเลในการทำประมงทะเล เพื่อแยกเต่าทะเลที่จะติดมาในการทำประมง