
เทียนจำนำพรรษา
ภาพ : อนุสาร อ.ส.ท.
แต่เดิมในสมัยพุทธกาล
พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงบัญญัติพระวินัยให้พระสงฆ์สาวก
อยู่ประจำพรรษา
เหล่าภิกษุสงฆ์จึงต่างพากันออกเดินทาง
เผยแผ่พระพุทธศาสนาในสถานที่ต่างๆ
โดยไม่ย่อท้อ
ทั้งในฤดูหนาว ฤดูร้อน
และฤดูฝน
ต่อมาชาวบ้านได้พากันติเตียนว่า
พวกสมณะศากยบุตรไม่ยอมหยุดสัญจรแม้ในฤดูฝน
ในขณะที่พวกพ่อค้าและนักบวชในศาสนาอื่นๆ
ต่างพากันหยุดสัญจรในช่วงฤดูฝนนี้
การที่พระภิกษุสงฆ์จาริกไปในที่ต่างๆ
แม้ในฤดูฝน
อาจเหยียบย่ำข้าวกล้าชาวบ้าน
ได้รับความเสียหาย
หรืออาจไปเหยียบย่ำโดนสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่ออกหากินจนถึงแก่ความตาย
เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบเรื่องจึงได้วางระเบียบให้พระภิกษุสงฆ์เข้าอยู่ประจำที่
ตลอดระยะเวลา 3
เดือนแห่งฤดูฝน
ภิกษุสงฆ์ที่อธิษฐานเข้าพรรษาแล้ว
จะไปค้างแรมที่อื่นนอกเหนือจากอาวาส
หรือที่อยู่ของตนไม่ได้แม้แต่คืนเดียว
หากไปแล้วไม่สามารถกลับมาในเวลาที่กำหนด
คือก่อนรุ่งสว่าง
ถือว่าพระภิกษุรูปนั้นขาดพรรษา
แต่หากมีกรณีจำเป็น 4
ประการต่อไปนี้
ภิกษุผู้อยู่พรรษาสามารถกระทำ
สัตตาหกรณียะ คือ
ไปค้างที่อื่นได้
โดยไม่ถือว่าเป็นการขาดพรรษา
แต่ต้องกลับมาภายในระยะเวลา
7 วัน คือ
1.
ไปรักษาพยาบาลพระภิกษุ
หรือ
บิดามารดาที่เจ็บป่วย
2.
ไประงับไม่ให้พระภิกษุสึก
3.
ไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์
เช่น
ไปหาอุปกรณ์มาซ่อมแซมวัดซึ่งชำรุดในพรรษานั้น
4.
ทายกนิมนต์ไปฉลองศรัทธาในการบำเพ็ญกุศลของเขา
ในการอธิษฐานเข้าพรรษา
ณ
วัดหรือที่ใดที่หนึ่ง
หากมีเหตุจำเป็น 5
ประการต่อไปนี้
ภิกษุไม่ต้องอาบัติ
แม้จะไปอยู่ที่อื่น
ได้แก่
1.
ถูกสัตว์ร้ายรบกวน
ถูกโจรปล้น
วิหารถูกไฟไหม้
หรือถูกน้ำท่วม
2.
ชาวบ้านถูกโจรปล้น
อพยพหนีไป
อนุญาตให้ไปกับเขาได้
หรือชาวบ้านแตกเป็น 2
ฝ่าย
ให้ไปกับฝ่ายที่มีศรัทธาเลื่อมใส
3.
ขาดแคลนอาหาร
หรือยารักษาโรค
4. มีผู้เอาทรัพย์มาล่อ พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้หนีไปเสียให้พ้นได้
5. ภิกษุสงฆ์แตกกันหรือมีผู้พยายามทำให้ภิกษุสงฆ์ในวัดแตกกัน ให้ไปเพื่อหาทางระงับได้
ประโยชน์ในการเข้าพรรษาของพระภิกษุ
1. เป็นช่วงที่ชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่นา หากภิกษุสงฆ์เดินทางจาริกไปในสถานที่ต่างๆ
อาจไปเหยียบต้นกล้า
หรือสัตว์เล็กสัตว์น้อยให้ได้รับความเสียหายล้มตาย
2. หลังจากเดินทางจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนามาเป็นเวลา
8 - 9 เดือน พระภิกษุสงฆ์จะได้หยุดพักผ่อน
3. เป็นเวลาที่พระภิกษุสงฆ์จะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมสำหรับตนเอง และศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยตลอดจนเตรียมการสั่งสอนประชาชน
เมื่อถึงวันออกพรรษา
4. เพื่อจะได้มีโอกาสอบรมสั่งสอนและบวชให้กับกุลบุตรผู้มีอายุครบบวช
อันเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป
5. เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้มีโอกาสบำเพ็ญกุศลเป็นการพิเศษ เช่น การทำบุญตักบาตรหล่อเทียนเข้าพรรษา
ถวายผ้าอาบน้ำฝน รักษาศีล เจริญภาวนา ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม
งดเว้นอบายมุข และมีโอกาสได้ฟังพระธรรมเทศนาตลอดเวลาเข้าพรรษา
ประเพณีตักบาตรดอกไม้
จ.สระบุรี
ภาพ : อนุสาร อ.ส.ท.
|