ประเพณีตักบาตรดอกไม้

ตักบาตรดอกไม้ ณ วัดพระพุทะบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
ที่มา : http://thai.tourismthailand.org
ตามความเชื่อของชาวพุทธการตักบาตรดอกไม้เป็นการสร้างอานิสงส์ที่สูงส่งอย่างยิ่ง
โดยปรากฏตามพุทธตำนานว่า
พระเจ้าพิมพิสาร
กษัตริย์แห่งกรุงราชคฤห์
ทรงโปรดปรานดอกมะลิมาก
ในแต่ละวันจะรับสั่งให้นายมาลาการนำดอกมะลิสดมาถวายถึงวันละ
8 กำมือ วันหนึ่งขณะที่นายมาลาการกำลังเก็บดอกมะลิ
ได้พบเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จออกบิณฑบาตพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์อีกจำนวนหนึ่ง
นายมาลาการสังเกตเห็นพรรณรังษีฉายประกายรอบๆ
พระวรกาย
ทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาพระพุทธองค์อย่างยิ่ง
นายมาลาการตัดสินใจนำดอกมะลิที่มีไปถวายแด่พระพุทธเจ้า
พร้อมกันนั้นก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า
ข้าวของทุกสิ่งที่พระเจ้าพิมพิสารทรงมอบให้เพียงเพื่อยังชีพในภพนี้เท่านั้น
แต่การนำดอกไม้ถวายบูชาแก่พระพุทธองค์สร้างอานิสงส์ได้ทั้งภพนี้และภพหน้า
หากถูกประหารชีวิตเพราะไม่ได้ถวายดอกมะลิก็ยินยอม
ครั้นภรรยานายมาลาทราบ
เกิดความเกรงกลัวว่าจะต้องโทษที่สามีไม่ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระเจ้าพิมพิสารจึงหลบหนีออกจากบ้านไป
แต่หลังจากที่พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบ
กลับพอพระราชหฤทัยเป็นอันมาก
และได้ปูนบำเหน็จรางวัลความดีความชอบแก่นายมาลาการ
นับแต่นั้นมาชีวิตของนายมาลาการก็อยู่อย่างมีความสุข

ดอกเข้าพรรษา
ที่มา : http://www.agalico.com
|
ชาวอำเภอพระพุทธบาทจึงนำพุทธตำนานดังกล่าวยึดถือประเพณีตักบาตรดอกไม้เป็นประเพณีสำคัญ
ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นประจำทุกปี
เมื่อถึงกำหนดวันเข้าพรรษา คือ วันแรม 1 ค่ำเดือน 8
ของทุกปีจะเป็น
วันประเพณีตักบาตรดอกไม้
โดยตอนเช้าคนแก่คนเฒ่าตลอดจนหนุ่มสาวจะพากันไปทำบุญตักบาตรข้าวสุก
แด่พระภิกษุสงฆ์ที่วัดพระพุทธบาทราชวรวิหาร
เสร็จจากการทำบุญตักบาตรแล้วบรรดาหนุ่มสาวพากัน
ออกจากบ้านขึ้นเขาไปเก็บดอกไม้ที่จะบาน
เฉพาะช่วงเข้าพรรษาจนได้ชื่อเรียกขานว่า
"ดอกเข้าพรรษา"
เพื่อเตรียมไว้สำหรับตักบาตรดอกไม้ในตอนบ่ายของวันเดียวกัน (ปัจจุบันดอกเข้าพรรษาสามารถปลูกได้)
ดอกเข้าพรรษาอยู่ในสกุลกลอบบา มีลักษณะคล้ายกับต้นกระชาย หรือขมิ้น สูง 1 คืบเศษๆ
มักขึ้นตามท้องที่ป่าเขา
ที่มีความชุ่มชื้นค่อนข้างสูง
ลำต้นขึ้นเป็นกอจากหัวหรือเหง้าใต้ดิน
ดอกมีขนาดเล็กออกเป็นช่อส่วนยอดของลำต้น
มีหลายสี เช่น ขาว เหลือง เหลืองแซมม่วง และบางต้นก็มีสีน้ำเงินม่วงม่วง
และจะมีดอกรองรับในช่อดอก
ดูเป็นช่อใหญ่สวยงาม โดยเฉพาะชนิดดอกเหลืองจะมีกลีบรองสีม่วงสะดุดตามากซึ่งจะหายากมากกว่าสีอื่น
ชาวบ้านบางคนจึงเรียกว่า
"ดอกยูงทอง" หรือ
"ดอกหงส์ทอง"
|
เมื่อเก็บดอกไม้มาแล้ว
ก็นำมามัดรวมกับธูปและเทียน
จากนั้นชาวบ้านจะมาตั้งแถวรออยู่ริมถนนทั้ง 2
ฝั่ง
ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วงเวียนถนนสายคู่ไปจนถึงประตูพระมณฑป-
พระพุทธบาท
เมื่อถึงเวลาอันเป็นมงคลพระภิกษุสงฆ์จะออกบิณฑบาต โดยมีขบวนแห่กลองยาวพร้อมด้วยนางรำรำหน้ากลองยาวอย่างครึกครื้น
ถัดจากขบวนกลองยาว
เป็นพระพุทธรูปซึ่งขึ้นประดิษฐานอยู่บนรถแห่ ตามด้วยขบวนพระสงฆ์เดินมาเพื่อบิณฑบาตดอกไม้ไปเรื่อยๆ
ไปจนถึงประตูพระมณฑป
ในขณะที่พระภิกษุสงฆ์และ
สามเณรเดินลงจากมณฑปจะเข้าสู่อุโบสถนั้น
ประชาชนจะนำน้ำสะอาดล้างเท้าแด่พระภิกษุสงฆ์บริเวณบันไดและทางเดิน จึงเกิดเป็น
"ประเพณีล้างเท้าพระ"
ขึ้น
ด้วยความเข้าใจที่ว่าเป็นการชำระล้างบาปของตนที่ได้กระทำให้หมดสิ้นไป
ต่อจากนั้นพระภิกษุสงฆ์ก็จะนำเอาดอกไม้เข้าไปในมณฑปพระพุทธบาท
เพื่อเป็นเครื่องสักการะวันทา
"รอยพระพุทธบาท"
แล้วนำเอาดอกไม้ไปวันทาพระเจดีย์
"จุฬามณี"
เจดีย์ที่บรรจุพระเขี้ยวแก้วจำลองขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สุดท้ายจึงนำไปสักการะพระเจดีย์พระมหาธาตุองค์ใหญ่
ซึ่งชาวพุทธถือกันว่าเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรม-
สารีริกธาตุ (กระดูกซี่โครง ของพระพุทธเจ้า)
จากนั้นพระภิกษุสงฆ์และสามเณรทั้งหมดก็จะเดินตรงไปเข้าอุโบสถสวดอธิษฐานเข้าพรรษา
เพื่อเปล่งวาจาว่าจะอยู่ในอาณาเขต
ที่จำกัดในระหว่างฤดูกาลเข้าพรรษา

บรรณานุกรม
ตะลอน. ตักบาตรดอกไม้.
ค้นเมื่อ 20 ต.ค. 2552, จาก http://www.ezytrip.com/webboard/show.php?id=894
หมอชิต. ตักบาตรดอกไม้.
ค้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค 2552,
จาก http://www.mochit.com/place/3256
ไปด้วยกัน. ตักบาตรดอกไม้.
ค้นเมื่อ 20 ต.ค. 2552, จาก http://www.paiduaykan.com/76_province/central/saraburi/flower.html
moopeak. ตักบาตรดอกไม้.
ค้นเมื่อ 20 ต.ค. 2552, จาก http://www.moopeak.com/voyager/to-travel.php?article_id=109
trip&trek. ตักบาตรดอกไม้.
ค้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2552,
จาก http://www.tripandtrek.com/artnculture/takbatr/takbatr.php
ภาพประกอบ
ตักบาตรดอกไม้.
ค้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2552,
จาก http://thai.tourismthailand.org/festival-event/grand-content-5781.html
ดอกเข้าพรรษา.
ค้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2552,
จาก http://www.agalico.com/board/showthread.php?p=43550
ล้างเท้าพระ.
ค้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2552,
จาก http://www.muangboranjournal.com/modules.php?name=News&file=article&sid=1005
เดินขึ้นอุโบสถ.
ค้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2552,
จาก http://thai.tourismthailand.org/festival-event/grand-content-5781.html
เดินขึ้นอุโบสถ.
ค้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2552,
จาก http://www.moopeak.com/voyager/to-travel.php?article_id=109
รวบรวมข้อมูลโดย : แสงมณี ด้นประดิษฐ์ นักศึกษาช่วยงาน งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สนเทศน่ารู้
ขึ้นด้านบน
|