| 
                     
                 ภาพธงชาติไทย 
			http://thaiexanthem.blogspot.com/  
					ประวัติเพลงชาติไทย 
					           
					เพลงชาติเป็นเพลงประจำชาติที่แสดงถึงความเป็นชาติ 
					ความเป็นเอกราชของประเทศนั้นๆ 
					เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายประจำชาติ 
					และนอกจากนี้แล้วเพลงชาติ ยังบ่งบอกถึงศิลปวัฒนธรรมของชนชาตินั้นอีกด้วยสำหรับในประเทศไทยนั้นในอดีตยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเพลงชาติมากมายนักซึ่งการให้ความสำคัญกับเพลงชาติ
					ในประเทศไทยเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 
					โดยได้รับอิทธิพลมาจากชาติตะวันตกที่มีเพลงประจำชาติทำให้ไทยได้ตระหนักถึงการมีเพลงชาติเพื่อแสดงถึงความเป็นชาติไทยยิ่งขึ้น
					โดยเพลงชาติที่สร้างอิทธิพลให้กับไทยก็คือเพลงชาติของประเทศอังกฤษ 
					ชื่อว่าGod save the Queen (หรือบางครั้งก็เรียกว่าGod save the King ขึ้นอยู่กับว่า 
					กษัตริย์ที่ปกครองประเทศอังกฤษเป็นพระราชาหรือพระราชินี)
					และเป็นเพลงที่ใช้กับเมืองที่เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษด้วย
					ในปัจจุบันประเทศไทยมีเพลงชาติมาแล้วทั้งหมด7ฉบับ 
					ซึ่งในแต่ละฉบับนั้นก็มีความเป็นมาทั้งสิ้นแม้ว่าในระยะต้นๆ 
					ของการเริ่มมีเพลงประจำชาติจะเป็นเพลงที่
					ได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ก็ตามแต่ประวัติเพลงชาติที่จะกล่าวในที่นี้ก็บ่งบอกว่าประเทศไทยก็เริ่มให้มีความสำคัญกับเพลงชาติไม่น้อยกว่าชาติไหน 
					 
					ประวัติเพลงชาติไทยในแต่ละสมัย 
					           
					เพลงชาติไทยฉบับแรก คือ เพลงจอมราชจงเจริญโดยใช้ทำนองของเพลง 
					God save the Queen ซึ่งเป็นเพลงฝึกสำหรับทหารแตร 
					 ในปลายรัชกาลที่
					4 พ.ศ. 2395 โดยทหารอังกฤษ
					2 คนชื่อร้อยเอกอิมเปย์ (Impey)และร้อยเอกน๊อกซ์ (Thomas G. 
					Knox)
					ที่เข้ามาเป็นครูฝึกทหารนำเข้ามา ซึ่งในขณะนั้นอังกฤษใช้เพลงกอดเสฟเดอะควีน
					เป็นเพลงชาติแล้วดังนั้นจึงใช้เป็นเพลงเกียรติยศถวายความเคารพต่อพระมหากษัตริย์
					ในระหว่างปี พ.ศ.2395
					 จนกระทั่งปี พ.ศ.
					2414 
					ในกองทหารเรียกเพลงนี้ว่าเพลงสรรเสริญพระบารมี 
					ต่อมาพระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย อาจารยางกูร)
					ได้ประพันธ์เนื้อร้องขึ้นมาใหม่โดยใช้ทำนองเพลง กอดเสฟเดอะควีน 
					โดยใช้ชื่อว่า จอมราชจงเจริญ
 เพลงจอมราชจงเจริญ 
					"ความสุขสมบัติทั้งบริวาร เจริญพละ ปฏิภาณผ่องแผ้ว  
					จงยืนพระชน...มาน นับรอบร้อย แฮ  
					มีพระเกียรติเพริศแพร้ว เล่ห์ เพี้ยง จันทร" 
								
											| 
											 
											   | 
											
											 
											   | 
								 
								
											| 
											 ภาพ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 
											
											
											 ภาพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 
											http://www.racha.coolfreepage.com/5.html  | 
								  |  
					 
					           
					เพลงชาติฉบับที่สอง เกิดขึ้นในปี
					พ.ศ.2414 
					 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 
					เสด็จประพาสที่สิงคโปร์ ซึ่งในขณะนั้นสิงคโปร์ยังเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษอยู่และกองทหารดุริยางค์สิงคโปร์บรรเลงเพลง 
					กอดเสฟเดอะควีน ถวายความเคารพ ทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 
					ทรงตระหนักว่าประเทศควรมีเพลงชาติที่เป็นของตนเอง
					เพื่อประกาศความเป็นเอกราช ดังนั้นเมื่อทรงเสด็จฯ 
					กลับก็ทรงโปรดฯ 
					เรียกครูดนตรีไทยเข้าเฝ้าเพื่อปรึกษาหาเพลงไทยมาใช้สำหรับ
					ถวายทำความเคารพและแสดงถึงความเป็นชาติและคณะดนตรีไทยที่ประกอบด้วย 
					ครูมรกฎ พระประดิษฐ์ไพเราะ(ครูมีแขก)
					และพระเสนาะดุริยางค์(ขุนเณร)
					ได้ลงความเห็นเลือกเพลง 
					ทรงพระสุบินหรือ เพลงบุหลันลอยเลื่อน 
					 ซึ่งเป็นเพลงในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
					รัชกาลที่ 2 
					เป็นเพลงเกียรติยศถวายความเคารพและใช้เป็นเพลงประจำชาติอีกด้วยโดยเรียกว่าเพลงสรรเสริญพระบารมี 
					โดยเรียบเรียงเป็นทำนองสากล และใน
					พ.ศ.2414  ถึงปี พ.ศ.
					2431 
					มีการสันนิษฐานว่าได้ใช้เพลงทรงพระสุบิน(ทางฝรั่ง)เป็นเพลงชาติ   
							
										| 
										 เนื้อเพลงบุหลันลอยเลื่อน  | 
							 
							
										| 
										          
										"กิดาหยันหมอบกรานอยู่งานพัด | 
										พระบรรทมโสมนัสอยู่ในที่ | 
							 
							
										| บุหลันเลื่อนลอยฟ้าไม่ราคี 
										 | 
										รัศมีส่องสว่างดังกลางวัน | 
							 
							
										| พระนิ่งนึกตรึกไตรไปมา | 
										ที่จะแต่งคูหาสะตาหมัน | 
							 
							
										| ป่านนี้พระองค์ทรงธรรม์
										  | 
										จะนับวันเคร่าคอยทุกเวลา | 
							 
							
										| ครั้นล่วงเข้ายามดึกสงัด
										 | 
										สงบเงียบเสียงสัตว์ทุกภาษา | 
							 
							
										|  วังเวงวิเวกวิญญาณ์
										 | 
										
										พระนิทราหลับไปในราตรีฯ" | 
							 
					 
					
					           
					เพลงชาติฉบับที่สาม เกิดขึ้นเมื่อปี
					พ.ศ. 2431 
					 มีการเปลี่ยนแปลงทำนองเพลงสรรเสริญพระบารมีใหม่ประพันธ์ทำนองโดย
					ปโยตร์ สชูโรฟสกี้ 
					นักประพันธ์ชาวรัสเซียส่วนคำร้องนั้นพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ
					กรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ 
					ซึ่งถือได้ว่าเพลงชาติฉบับที่ 3 นี้ก็คือเพลงสรรเสริญพระบารมี(ฉบับปัจจุบัน)โดยใช้เป็นเพลงชาติระหว่างปี 
					พ.ศ.2431-2475 
					  เนื้อเพลงสรรเสริญพระบารมี(ฉบับปัจจุบัน) 
							
										| 
										         
										ข้าวรพุทธเจ้า
										 | 
										
										เอามโนและศิระกราน | 
							 
							
										| นบพระภูมิบาล
										 | 
										บุญญดิเรก | 
							 
							
										| เอกบรมจักริน | 
										พระสยามินทร์
										 | 
							 
							
										| พระยศยิ่งยง | 
										เย็นศิระเพราะพระบริบาล | 
							 
							
										| ผลพระคุณ ธ รักษา | 
										ปวงประชาเป็นสุขศานต์
										 | 
							 
							
										| ขอบันดาล
										 | 
										ธ ประสงค์ใด
										 | 
							 
							
										| จงสฤษฏ์ดัง
										 | 
										หวังวรหฤทัย | 
							 
							
										| ดุจจะถวายชัย
										 | 
										ชโย | 
							 
					 
					        
					
					  
					ภาพเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี(สนั่น เทพหัสดิน ณอยุธยา) 
					http://www.mc41.com/data/thai00.htm 
					 
					           
					เพลงชาติฉบับที่สี่ นั้นคือเพลงชาติมหาชัย ใช้ทำนอง เพลงมหาชัย 
					แต่งเนื้อร้องโดย เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี(สนั่น เทพหัสดิน ณ 
					อยุธยา)เพื่อใช้เพลงนี้เป็นเพลงขับร้องบรรเลงปลุกเร้าใจให้ประชาชน
					เกิดความรักชาติและความสามัคคีในระหว่างที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในระหว่างช่วงการปฏิวัติและการรอเพลงชาติฉบับของพระเจนดุริยางค์ด้วย 
					  
							
										| 
										
					เนื้อเพลงชาติมหาชัย | 
							 
							
										| 
										          
										สยามอยู่คู่ฟ้าอย่าสงสัย  | 
										เพราะชาติไทยเป็นไทยไปทุกเมื่อ | 
							 
							
										| 
										ชาวสยามนำสยามเหมือนนำเรือ | 
										ผ่านแก่งเกาะเพราะเพื่อชาติพ้นภัย | 
							 
							
										| 
										เราร่วมใจร่วมรักสมัครหนุน | 
										
										วางธรรมนูญสถาปนาพาราใหม่ | 
							 
							
										| 
										ยกสยามยิ่งยงธำรงชัย | 
										
										ให้คงไทยตราบสิ้นดินฟ้า | 
							 
					 
					
					  
							
										
										  | 
										
										  | 
							 
							
										ภาพขุนวิจิตรมาตรา 
										http://tcmc.nisit.kps.ku.ac.th/tcmc/modules.php?op=modload&name=News&file=article&sid=41 | 
										ภาพ นายฉันท์ ขันวิไล 
										http://blog.sanook.com/DesktopModules/MIH/Blog/BlogView.aspx?tabID=0&alias=panadistid&ItemID=179428&mid=562303
										 | 
							 
					 
					           
					เพลงชาติฉบับที่ห้า 
					ซึ่งเป็นฉบับปัจจุบันซึ่งเริ่มมีในช่วงการปฏิวัติการปกครองพ.ศ.2475
					แต่ยังไม่สมบูรณ์มากนักประพันธ์ทำนองโดยพระเจนดุริยางค์และคำร้องฉบับแรกประพันธ์โดย
					ขุนวิจิตรมาตรา(สง่า กาญจนาคพันธุ์) โดยมีคำร้อง 2 บท ด้วยกัน 
					ใช้ในระหว่างพ.ศ.2475-2477 
					           
					ต่อมาในปีพ.ศ.2477 
					รัฐบาลได้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องของเพลงชาติอย่างเป็นทางการ 
					โดยคณะกรรมการมีมติให้ใช้ 
					ทำนองเพลงชาติของพระเจนดุริยางค์เป็นเพลงชาติทำนองสากลและให้ 
					จางวางทั่ว พาทยโกศล ประพันธ์ทำนองเพลงชาติทางไทย 
					แต่ต่อมาคณะกรรมการจึงเห็นว่าเพลงชาติเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์
					ควรจะมีเพลงเดียวจึงใช้ทำนองเพลงชาติของพระเจนดุริยางค์เพียงทำนองเดียว 
					  
							
										| 
										
					เนื้อร้องเพลงชาติฉบับของขุนวิจิตรมาตรา | 
							 
							
										| 
										         
										"แผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง | 
										ไทยเข้าครอง ตั้งประเทศ 
					เขตต์แดนสง่า | 
							 
							
										| 
										สืบเผ่าไทยดึกดำบรรพ์ โบราณลงมา | 
										รวมรักษาสามัคคี ทวีไทย | 
							 
							
										| 
										บางสมัย ศัตรู จู่โจมตี | 
										ไทยพลี ชีวิตร่วม รวมรุกไล่ | 
							 
							
										|  เข้าลุยเลือดหมายมุ่งผดุงไผท | 
										 สยามสมัย โบราณรอด ตลอดมา | 
							 
							
										| 
										อันดินสยามคือว่าเนื้อของเชื้อไทย | 
										น้ำรินไหล คือว่าเลือด 
					ของเชื้อข้า | 
							 
							
										| เอกราชคือ 
										เจดีย์ ที่เราบูชา | 
										เราจะสามัคคี ร่วมมีใจ | 
							 
							
										| 
										รักษาชาติ ประเทศ เอกราชจงดี | 
										ใครย่ำยี เราจะไม่ละให้ | 
							 
							
										| 
										เอาเลือดล้างให้สิ้น แผ่นดินไทย | 
										
										สถาปนา สยามให้ เทิดไทย ไชโย" | 
							 
					 
					
					            
					เพลงชาติฉบับที่หก 
					เป็นเพลงชาติที่เกิดขึ้นจากคณะกรรมการจัดให้มีการประกวดเนื้อร้อง 
					โดยมีผู้ส่งประกวดเข้ามามากมายแต่คัดเลือกมา 2 ฉบับ 
					คือของขุนวิจิตรมาตรา(ฉบับแก้ไข) 2
					บท และของนายฉันท์ ขำวิไล 
					อีก 2 บท จึงได้รวมเนื้อเพลงชาติเป็น 4 บทด้วยกัน 
					โดยประกาศใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 
					พ.ศ.2477 แต่ต่อมา ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2478 รัฐบาลของพันเอก 
					พหลพลพยุหเสนา ได้ลงนามประกาศ 
					ระเบียบการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติโดยแบ่งการบรรเลงออกเป็น 
					2 แบบคือ การบรรเลงแบบพิสดาร 
					(ยาวตามปกติพร้อมเนื้อร้องทั้ง 4
					ตอน) และ 
					การบรรเลงแบบสังเขป(ตัดทอนสั้นลง)เนื่องจากเพลงชาติมีความยาวมากเกินไปโดยใช้เป็นเพลงชาติใน
					พ.ศ.2477-2482 ซึ่งเป็น   
					
							
										
										
					เพลงชาติฉบับราชการฉบับแรก 
					เนื้อร้องเพลงชาติฉบับของนายฉันท์ ขำวิไล | 
							 
							
										| 
										เหล่าเราทั้งหลายขอน้อมกายถวายชีวิต | 
										รักษาสิทธิ์อิสระ ณ 
					แดนสยาม | 
							 
							
										| 
										ที่พ่อแม่สู้ยอมม้วยด้วยพยายาม | 
										ปราบเสี้ยนหนามให้พินาศสืบชาติมา | 
							 
							
										| 
										แม้ถึงไทยไทยด้อยจนย่อยยับ | 
										ยังกู้กลับคงคืนได้ชื่นหน้า | 
							 
							
										| 
										ควรแก่นามงามสุดอยุธยา | 
										นั้นมิใช่ว่าจะขัดสนหมดคนดี | 
							 
							
										| 
										เหล่าเราทั้งหลายเลือดและเนื้อเชื้อชาติไทย | 
										มิให้ใครเข้าเหยียบย่ำขยำขยี้ | 
							 
							
										| 
										ประคับประคองป้องสิทธิ์อิสรเสรี | 
										เมื่อภัยมีช่วยกันจนวันตาย | 
							 
							
										| 
										จะสิ้นชีพไว้ชื่อให้ลือลั่น | 
										ว่าไทยมันรักชาติไม่ขาดสาย | 
							 
							
										| 
										มีไมตรีดียิ่งทั้งหญิงทั้งชาย | 
										
										 
					สยามมิวายผู้มุ่งหมายเชิดชัย ไชโย  | 
							 
					 
					
					  
							
										
										  | 
										
										  | 
							 
							
										
										ภาพหลวงสารานุประพันธ์ 
										http://www.suan84.com/modules.php?name=News&file=article&sid=125 | 
										
										ภาพพระเจนดุริยางค์ 
										http://angsila.compsci.buu.ac.th/~it450084/music/music 
										_app/thai_composer/jane.htm | 
							 
					 
					           
					เพลงชาติฉบับที่เจ็ด หรือฉบับปัจจุบันเกิดขึ้นใน พ.ศ.2477 รัฐบาลของจอมแปลก 
					พิบูลสงคราม 
					ที่ได้ประกาศให้มีการประกวดเนื้อร้องของเพลงชาติขึ้นมาใหม่ 
					ผลการประกวดเพลงชาติปรากฏว่าเนื้อร้องฉบับของ 
					พ.อ.หลวงสารานุประพันธ์(นวล 
					ปาจิณพยัคฆ์) ส่งในนามกองทัพบกทางสำนักนายกรัฐมนตรี จึงได้ประกาศยกเลิกเนื้อเพลงชาติฉบับของ 
					ขุนวิจิตรมาตรา และ ของ นายฉันท์ 
					ขำวิไลและให้ใช้เนื้อร้องที่ชนะการประกวดและทำนองประพันธ์โดยพระเจนดุริยางค์ตั้งแต่วันที่ 
					10 ธันวาคมพ.ศ.2482 เป็นต้นไป เนื้อร้องเพลงชาติปัจจุบัน 
							
										| 
										              
										ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย | 
							 
							
										| เป็นประชารัฐ  
										ไผทของไทยทุกส่วน | 
							 
							
										| อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล | 
							 
							
										| ด้วยไทยล้วนหมายรักสามัคคี | 
							 
							
										| ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด | 
							 
							
										| เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่ | 
							 
							
										| สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี | 
							 
							
										| เถลิงประเทศชาติไทยทวีมีชัยชโย | 
							 
					 
					
                 **************************************  
                  
                  
					บรรณานุกรม 
					
					พิทยา ว่องกุล. ( 2550). วิเคราะห์ประวัติศาสตร์สยามใหม่. กรุงเทพฯ:สถาบันวิถีทรรศน์ . 
					
					สุกรี เจริญสุข. (2532). เพลงชาติ. กรุงเทพมหานคร. เรือนแก้วการพิมพ์. 
					
                    ภาพ 
					"ราชวงศ์ จักรี" http://www.racha.coolfreepage.com/2.html 
                    "ราชวงศ์จักร" http://www.racha.coolfreepage.com/5.html 
                    
					รวบรวมข้อมูลโดย : น.ส. โศธิดา ศิริอำนวยศิลป์ นักศึกษาช่วยงาน  ปีงบประมาณ 2551 งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ 
 
    สนเทศน่ารู้ 
  ขึ้นด้านบน 
  |