ภาพจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประวัติ
นายปรีดี
พนมยงค์เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2443
ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายเสียง กับ นางลูกจันทร์ พนมยงค์
ในปี พ.ศ.2460 ได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม
จนกระทั่งศึกษาจบวิชากฎหมายชั้นเนติบัณฑิตเมื่ออายุ 19 ปี
หลังจากนั้นในปีเดียวกันได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงยุติธรรมไปศึกษาวิชากฎหมาย
ณ ประเทศฝรั่งเศส จนจบปริญญารัฐ (Doctorat d'etat)
เป็นดุษฎีบัณฑิตกฎหมายฝ่ายนิติศาสตร์
ซึ่งนับเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ปริญญาแห่งรัฐ "ดุษฎีบัณฑิตกฎหมาย" (Docteur en
droit)
นายปรีดีได้เข้ารับราชการในกระทรวงยุติธรรมเมื่อ พ.ศ.2470 ในตำแหน่งผู้พิพากษาประจำกระทรวงยุติธรรม
ขณะเดียวกันก็เป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมายที่โรงเรียนกฎหมายด้วย
นายปรีดีได้รับพระราชทานยศและบรรดาศักดิ์เป็นหลวงประดิษฐ์มนูธรรม
จากนั้นนายปรีดีได้สมรสกับนางสาวพูนศุข ณ ป้อมเพชร์ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2471 มีบุตรธิดารวม 6 คน
เมื่อคณะราษฎรทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 นายปรีดีเป็นผู้นำฝ่ายพลเรือน โดยเป็นผู้ร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองสยามชั่วคราว พ.ศ.2475
นายปรีดีได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญๆ หลายตำแหน่ง อาทิ เลขาธิการคนแรกของสภาผู้แทนราษฎร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
นายปรีดีมีผลงานอันเป็นคุณูปการใหญ่หลวงต่อชาติบ้านเมือง อาทิ
ได้เสนอเค้าโครงเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับแรกของชาติ
ได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง
ได้เสนอพระราชบัญญัติจัดระเบียบเทศบาล พ.ศ.2476
ได้เจรจาแก้ไขสนธิสัญญาไม่เสมอภาคที่มหาประเทศทำไว้กับประเทศไทยจนสำเร็จ
ทำให้ประเทศไทยมีเอกราชอธิปไตยสมบูรณ์ ทั้งในด้านการเมือง และเศรษฐกิจ
ได้ดำเนินการปฏิรูประบบภาษีที่ไม่เป็นธรรม
ได้จัดทำประมวลรัษฎากรขึ้นเป็นฉบับแรกของประเทศ
ได้ก่อตั้งธนาคารกลางแห่งชาติขึ้น ต่อมาก็คือธนาคารแห่งประเทศไทย ฯลฯ
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สภาผู้แทนราษฎรลงมติแต่งตั้งให้นายปรีดีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
นายปรีดีได้จัดตั้งขบวนการเสรีไทยเพื่อต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น และกอบกู้เอกราชของชาติให้กลับคืนมา
เมื่อพ้นจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งนายปรีดีเป็น "รัฐบุรุษอาวุโส" คนแรก
นายปรีดีได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกระหว่างวันที่ 24 มีนาคม - 3 มิถุนายน พ.ศ.2489
ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน - 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 และครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน - 20 สิงหาคม พ.ศ.2489
ต่อมามีคณะรัฐประหารได้ทำการยึดอำนาจรัฐ
ใช้รถถังบุกทำเนียบท่าช้างอันเป็นที่พำนักของนายปรีดี นายปรีดีจึงต้องลี้ภัยไปสิงคโปร์ ต่อมาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2492
นายปรีดีได้นำกำลังทหารเรือส่วนหนึ่งกับชาวไทยที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย
ต่อต้านการยึดอำนาจของคณะรัฐประหาร แต่ไม่ประสบความสำเร็จ นายปรีดีจึงต้องลี้ภัยการเมืองไปต่างประเทศ
ระหว่าง พ.ศ.2492 - 2513 นายปรีดีได้พำนักในสาธารณรัฐประชาชนจีน จากนั้นย้ายไปพำนักในประเทศฝรั่งเศส ตราบจนสิ้นอายุขัย
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2526 สิริรวมอายุได้ 82 ปี 11 เดือน 22 วัน
ด้วยผลงานและเกียรติคุณความดีของนายปรีดี พนมยงค์
จึงมีการจัดงานฉลองครบรอบ 100 ปี ชาตกาลให้แก่นายปรีดี พนมยงค์
เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป ทั้งนี้องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
ได้เสนอชื่อ ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ บรรจุในปฏิทินบุคคลสำคัญของโลกในปี ค.ศ.2000-2001
บรรณานุกรม
สุพจน์ ด่านตระกูล. รัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์. กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ, ๒๕๔๓.
ข้อมูลจาก: สำนักนายกรัฐมนตรี
ภาพประกอบ จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สืบค้นเมื่อ 25 ธันวาคม 2549.
ข้อมูลโดย : กลุ่มนักศึกษาฝึกงาน งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
สนเทศน่ารู้
ขึ้นด้านบน
|