ช้างไทยในประวัติศาสตร์

ภาพ เจ้าพระยาไชยานุภาพ
http://www.thungyai.org/thai/activities/48/kingnaresuan/king07.htm
ช้างไทยในสงครามประวัติศาสตร์
ในสมัยโบราณมีการใช้ช้างในการทำสงคราม
ซึ่งถือว่าช้างนั้นเป็นกำลังสำคัญในการสู้ศึกเพื่อเอกราชของไทยเลยก็ว่าได้
การใช้ช้างในการทำสงครามนั้นได้มีการกล่าววิธีการต่อสู้เอาไว้ว่าพระเจ้าแผ่นดินหรือแม่ทัพก็จะใช้อาวุธของ้าวต่อสู้กันบนหลังช้าง
ส่วนช้างที่ใช้ต่อสู้นั้นก็จะต่อสู้กับช้างของศัตรูช้างผู้ใดที่มีกำลังมากและสามารถสู้งัดช้างของศัตรู
ก็จะเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะจะทำให้แม่ทัพนั้นสามารถใช้ของ้าวฟันคู่ต่อสู้ได้อย่างสะดวกและได้ชัยชนะ
ซึ่งการรับชัยชนะนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของช้างและแม่ทัพด้วย
ช้างศึกในสมัยโบราณนั้นมีมากมายหลายรัชสมัยโดยเริ่มจากสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
เมื่อครั้งสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถในสมัยนี้พระองค์ได้รับช้างเผือกมาตัวหนึ่งซึ่งถือเป็นช้างเผือกแรกของกรุงศรีอยุธยา
เลยก็ว่าได้จนพระองค์ได้รับพระราชสมัญญาอีกพระนามหนึ่งว่า
พระเจ้าช้างเผือกและในสมัยพระมหาจักรพรรดิทรงใช้ช้างต่อสู้กับกองทัพของพม่าและได้เกิดตำนานพระศรีสุริโยทัยขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการรบบนหลังช้างที่สำคัญกับคนไทยมากที่สุดซึ่งถือเป็นการกู้เอกราชให้กับประเทศไทยเลยก็ว่าได้นั่นคือในสมัยสมเด็จ
พระนเรศวรมหาราชซึ่งเป็นการรบระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดีโดยช้างที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงใช้ในการทำศึกครั้งนี้คือเจ้าพระยาไชยานุภาพและเมื่อได้รับชัยชนะก็ได้สมญานามว่า
เจ้าพระยาปราบหงสา
ส่วนช้างที่พระสมเด็จพระเอกาทศรถผู้น้องทรงช้างนามว่า
เจ้าพระยาปราบไตรจักร
และต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีเมื่อครั้งที่ประชาชนเกิดความแตกแยกข้าศึกเข้าโจมตี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นกำลังรวบรวมชาติไทยให้เป็นปึกแผ่นโดยทรงใช้ช้างในการรบด้วยเช่นกัน
ช้างไทยในพระราชพิธี
ภาพ
ช้างเผือก
http://www.thailandelephant.org/elephant1.php3
ประเทศไทยเป็นชาติหนึ่งที่มีประเพณีที่ถือปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลซึ่งในประเพณีเหล่านี้ก็เกิดจากความเชื่อความศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์
โดยในประเพณี หรือ
พระราชพิธีต่างๆนี้ก็ได้มีการนำช้างเข้ามาประกอบพิธีเพื่อเป็นมิ่งมงคล
ในประเพณีของไทยแต่เดิมช้างเผือกเป็นช้างที่สำคัญในงานพระราชพิธี ซึ่งพระราชพิธีเหล่านี้ได้แก่ งานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
และงานพระราชพิธีฉัตรมงคล
การนำช้างเผือกขึ้นยืนที่แท่นเกยช้างด้านตะวันตกพระที่นั่งดุสิตาภิรมย์ในพระบรมมหาราชวังเพื่อประกอบ เกียรติยศจะต้องแต่งเครื่องคชาภรณ์ในรัชกาลที่ 3
ได้มีการปรากฏถึงการนำช้างพระที่นั่งยืนแท่นในการรับแขกเมืองไว้ในพระราชพงศาวดารดาวกรุงรัตนโกสินทร์
ทั้งนี้ในรัชกาลที่ 4 ที่กล่าวถึงในพระราชพิธีบวรราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จฯพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงช้างพระที่นั่งชื่อเจ้าพระยาไชยานุภาพพร้อมกันนี้ยังมีปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่
5 กล่าวถึงการนำพระวิมลรัตนกิริณีช้างเผือกในรัชกาลที่ 4
แต่งด้วยเครื่องคชาภรณ์ออกยืนแท่นพร้อมกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จไปในพระราชพิธีพิรุณศาสตร์
ซึ่งเป็นพระราชพิธีที่เกี่ยวกับการขอความสมบูรณ์ให้กับต้นข้าวพืชพันธุ์ของประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ช้างที่นำมาใช้งานในพระราชพิธีเช่นนี้จะต้องมีการสมโภชขึ้นระวางช้างสำคัญก่อนซึ่งพระราชพิธีนี้แบ่งออกเป็น
2 ภร คือพิธีสมโภชขึ้นระวางพระราชทานนามช้าง
งานสมโภชช้างนั้นจะจัดเป็นเวลาเท่าไหร่
ก็แล้วแต่ความเหมาะสมในแต่ละสมัยซึ่งในรัชกาลที่ 9 มีงาน 2 วัน


ภาพ ช้างเผือก
จาก
http://www.kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK17/chapter1/t17-1-s.htm
ช้างไทยในจิตรกรรมทางพระพุทธศาสนา
จิตรกรรมภาพวาดของไทยที่ปรากฏในทุกสถานที่ที่สำคัญของเมืองไทยส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับศาสนาความเชื่อที่ผู้คนในแต่ละพื้นที่มี
งานจิตรกรรมส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาโดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีการนับถือพุทธศาสนาเป็นส่วนใหญ่
เริ่มจากเรื่องราวของพระนางสิริมหามายาสุบินนิมิตเห็นพระเศวตกุญชร
ซึ่งเป็นช้างเผือกขาวในเรื่องนี้ก็ได้มีการทำจิตรกรรมฝาผนังเกิดขึ้นและในประเทศไทยได้ปรากฏอยู่ตามโบราณสถานที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาอาทิเช่นในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
พระนคร ในอาคารพิพิธภัณฑ์บ้านจันเสน จังหวัดนครสวรรค์
ที่หอสมุดแห่งชาติ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเหตุการณ์ของช้างชื่อนาฬาคิรี
ช้างคิรีเมขล์ ช้างปาลิไลยะ
ช้างนาฬาคิรีเป็นช้างที่มีรูปสูงใหญ่ วิ่งเร็ว ดุร้าย
เป็นช้างที่พระเทวทัตใช้เป็นเครื่องมือในการทำร้ายพระพุทธเจ้าแต่เมื่อนาฬาคิรีมาเข้าใกล้พระพุทธเจ้าเพื่อทำร้ายแต่กลับกลายเป็นว่าพระพุทธเจ้าทรงแผ่เมตตาจนนาฬาคิรีสงบจิตรกรรมในเรื่องนี้ได้มีที่จิตรกรรมฝาผนังวัดเกาะ
จังหวัดเพชรบุรี
จิตรกรรมฝาผนังที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
พระนคร กรุงเทพมหานคร ในอาคารพิพิธภัณฑ์บ้านจันเสน นครสวรรค์
จิตรกรรมฝาผนังในอาคารพิพิธภัณฑ์บ้านจันเสน นครสวรรค์
แสดงภาพพระพุทธเจ้าทรมานช้างนาฬาคีรี
ภาพ ช้างนาฬาคิรี
จากหนังสือ ช้างในพุทธวรรณกรรมและพุทธศิลปกรรมหน้า 75
ช้างคิรีเมขล์เป็นช้างสูงใหญ่มีกำลังมากเป็นช้างพาหนะของพญามารที่แปลงกายเพื่อทำร้ายพระพุทธเจ้า
จิตรกรรมในเรื่องนี้มีอยู่ที่ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์
ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร
ในอาคารพิพิธภัณฑ์บ้านจันเสน จังหวัดนครสวรรค์
ในวิหารวัดสุทัศนเทพวราราม ในอุโบสถวัดดุสิดารามวรวิหาร
กรุงเทพมหานคร ในอุโบสถวัดหนองสูง จังหวัดสระบุรี
ในอุโบสถวัดเทพอุปการาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถวัดหนองยาวสูง สระบุรี แสดงภาพมารผจญ
ภาพ ช้างคิรีเมขล์
จากหนังสือ ช้างในพุทธวรรณกรรมและพุทธศิลปกรรม
ช้างปาลิไลยกะเป็นช้างที่รับใช้พระพุทธเจ้าเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ที่หมู่บ้านปาลิไลยกะ
จิตรกรรมในเรื่องนี้มีอยู่ในอุโบสถวัดจรรย์และในอุโบสถวัดประตูสาร
จังหวัดสุพรรณบุรี

จิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถวัดจรรย์ จังหวัดสพรรณบุรี
แสดงภาพพระพุทธเจ้าประทับ ณ ป่ารักขิตวัน
มีช้างปาเลไลย์และลิงเฝ้าปรนนิบัติ
ภาพ ช้างปาลิไลยกะ
จากหนังสือ เรื่องช้างในพุทธวรรณกรรมและพุทธศิลปกรรม หน้า 81

ภาพ ช้างเอราวัณ
จาก
http://www.businesscenterbkk.com/arawan.jpg
ช้างในวรรณคดีและวรรณกรรมไทย
• ช้างเอราวัณ
เป็นช้างที่มีชื่ออยู่ในวรรณคดีบาลีกล่าวกันว่าเป็นช้างพาหนะของพระอินทร์
เรื่องราวของช้างเอราวัณที่ได้
พูดถึงกันนั้นจะเกี่ยวข้องกับประวัติของท้าวสักกะหรือพระอินทร์ผู้เป็นราชาแห่งเทพชั้นดาวดึงส์
• ช้างไอราวัณ
เป็นช้างที่มีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนภูเขา ผิวกายผ่องดูสดใส
เป็นช้างที่มีพลังอำนาจมาก ช้างไอราวัณมีหน้าที่
เป็นช้างพาหนะของพระอินทร์ โดยมีหน้าที่หลายอย่างอาทิเช่น
การนำพระอินทร์ออกรบ การทำฝน
ช้างเอราวัณหรือไอราวัณนี้ปรากฏในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง
• ช้างพลายมงคล
เป็นช้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นช้างที่พระเจ้าเชียงใหม่ถวายเป็นบรรณาการแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ
สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีโสกันต์
แต่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชในเวลานั้นยังทรงพระเยาว์
พร้อมกับประทับอยู่ในพระบรมมหาราชวังซึ่งจะทรงเลี้ยงช้างก็ไม่สะดวกนัก
จึงประทานให้เจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์ซึ่งเป็นพระอภิบาลเลี้ยงช้างและคอยกราบทูลถวายรายงานที่เกี่ยวกับพลาย
มงคล
ช้างพลายมงคลมาอยู่ที่บ้านเจ้าพระยาเทเวศรฯ หรือที่เรียกกันว่าวังบ้านหม้อซึ่งมีบริเวณกว้างขวางมีทางเดินขนาดใหญ่
พร้อมกันนี้ก็เป็นบ้านที่มีคนอยู่มากมาย
พลายมงคลเมื่อมาอยู่บ้านนี้ก็รู้สึกครึกครื้นเป็นช้างชอบเล่นและเป็นที่ชื่นชอบแก่เด็กๆ
รวมทั้งลูกๆ หลานๆ ของเจ้าพระยาเทเวศรฯ ด้วย
พลายมงคลเป็นช้างที่ฉลาดจึงทำให้เจ้าพระยาเทเวศรฯ
รักประดุจลูกพลายมงคลมีคนดูแลชื่อว่า ตาภู่
ซึ่งบุคคลทั้งสองนี้จึงเปรียบเหมือนเป็นพ่อของพลายมงคลเลยก็ว่าได้

ภาพช้างพลาย
จาก
http://www.dnp.go.th/multi_prov_forest/pic/66.jpg
ช้างไทยในแต่ละรัชกาล
ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศ
ปกครองมานานหลายรัชสมัย
ซึ่งในการปกครองแต่ละรัชสมัยนั้นก็ได้มีช้างเข้ามาเกี่ยวข้อง
ในการปกครองตั้งแต่สมัยโบราณจนกระทั่งปัจจุบันช้างถือว่าเป็นสัตว์ที่ช่วยเสริมบารมีของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ตามความเชื่อในทางพระพุทธศาสนาที่ว่าพระพุทธเจ้าทรงเสวยราชย์เป็นพระยาช้างที่มีบุญบารมีมากว่า
500 ชาติ
จึงถือได้ว่าช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของคนไทยเลยก็ว่าได้
กรุงสุโขทัย
ในศิลาจารึกหลักที่ 1
กล่าวว่าพระเจ้ารามคำแหงมหาราชได้ชนช้างชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด
และยังมีอีกตอนที่กล่าวถึงช้างเผือกตัวโปรดของพระเจ้ารามคำแหงมหาราชที่ชื่อรุจาครี
ซึ่งช้างเผือกตัวนี้ทรงให้แต่งด้วยเครื่องคชาภรณ์
แล้วทรงนำราษฎรออกบำเพ็ญกุศลตามพระอารามในอรัญญิกเมื่อครั้งที่ทรงครองกรุงสุโขทัย
กรุงศรีอยุธยา
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาได้มีช้างเผือกที่มีลักษณะพิเศษที่นำมาเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาล
• ในสมัย สมเด็จพระอินทราชาที่ 2 ได้ช้างเผือกมา 1 เชือก
•
ในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราชได้ปรากฏช้างเผือกที่ชื่อพระฉัททันต์ขึ้น
• ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
ซึ่งถือได้ว่าเป็นรัชสมัยเริ่มต้นที่ให้ความสำคัญกับช้างเผือกมากที่สุด
พร้อมทั้งยังมีช้างเผือกประจำรัชกาลนี้ถึง 7 เชือก คือ
พระคเชนทโรดม พระรัตนากาศ พระแก้วทรงบาศ
ช้างเผือกพังแม่และพังลูก พระบรมไกรสร พระสุริยกุญชร
• ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 (สมเด็จพระนารายณ์มหาราช)
ได้ช้างเผือกมา 2 เชือก คือ พระอินทร์ไอยราวรรณ และ
เจ้าพระยาบรมคเชนทรฉัททันต์
• ในสมัยสมเด็จพระมหาบุรุษ( พระเพทราชา) ได้ช้างเผือกมา 2
เชือก คือ พระอินทรไอราพต และ พระบรมรัตนากาศ
• ในสมัยสมเด็จพระสรรเพชญที่ 8 ( พระเจ้าเสือ )
ได้ช้างเผือกชื่อ พระบรมไตรจักร
• ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 ( พระบรมโกศ )ได้ช้างเผือกมา
6 เชือก คือ พระวิเชียรหัสดิน พระบรมราชนาเคนทร
พระบรมวิไชยคเชนทร พระบรมกุญชร พระบรมจักรพาลหัตถี
พระบรมคชลักษณ์
กรุงธนบุรี
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ช้างพังเผือก
ได้เมื่อครั้งนำกองทัพกรุงไปล้อมเมืองฝาง
เจ้าฝางหนีพาช้างไปด้วย กองทัพติดตามได้ลูกช้างนำมาถวาย
กรุงรัตนโกสินทร์
• รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ช้าง
10 เชือก คือ พระบรมไกรสร ( บวรสุประดิษฐ) พระบรมไกรสร (
บวรบุษปทันต์ ) พระอินทรไอยรา พระเทพกุญชร พระบรมฉัททันต์
พระบรมนัขมณี พระบรมคชลักษณ์ ( อรรคคเชนทร์ ) พระบรมนาเคนทร์
พระบรมคชลักษณ์ ( อรรคชาติดามพหัตถี ) พระบรมเมฆเอกทนต์
• รัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีช้าง 6
เชือก คือ พระยาเศวตกุญชร พระบรมนาเคนทร์ พระบรมหัศดิน
พระบรมนาเคนทร์ ( คเชนทรธราธาร ) พระยาเศวตไอยรา
พระยาเศวตคชลักษณ์
• รัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีช้างเผือกอยู่ 20 เชือก คือ พระบรมคชลักษณ์ พระบรมไอยรา
พระบรมนาเคนทร์ พระบรมเอกทันต์ พระยามงคลหัสดิน
พระยามงคลนาคินทร์ พระบรมไกรสร พระบรมกุญชร พังหงษาสวรรค์
พระนัขนาเคนทร์ พระบรมไอยเรศ พระบรมสังขทันต์ พระบรมคชลักษณ์ (
ศักดิสารจุมประสาท ) พระบรมนขาคเชนทร์ พระนาเคนทรนขา
พระบรมทัศนขา ช้างพลายสีประหลาด พระบรมศุภราช พระยามงคลคชพงศ์
ช้างพลายกระจุดดำ
• รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีช้าง 15
เชือก คือ พระบรมนัขสมบัติ พระวิมลรัตนกิริณี พระบรมคชรัตน
พระวิสูตรรัตนกิริณี พระพิไชยนิลนัข พระพิไชยกฤษณาวรรณ
พระศรีสกลกฤษณ์ พระมหาศรีเศวตวิมลวรรณ ช้างพังเผือกเอก
พระเศวตสุวรรณาภาพรรณ ช้างพัง
เผือกเอก พระเทวสยามมหาพิฆเนศวร ช้างสีประหลาด
เจ้าพระยาปราบไตรจักร พระยาไชยานุภาพ

ภาพจำลองพระเศวตสุนทรสวัสดิ์
จาก
http://www.csd.go.th/news/31012007/

ภาพ พระยาปราบไตรจักร
จาก http://www.csd.go.th/news/31012007/
• รัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีช้าง
19 เชือก คือ พระเศวตวรวรรณ พระมหารพีพรรณคชพงษ์
พระเศวตสุวภาพรรณ พระเทพคชรัตนกิริณี พระศรีสวัสดิเศวตวรรณ
พระบรมทันตวรลักษณ์ พระเศวตวรลักษณ์ พระเศวตวรสรรพางค์
พระเศวตวิสุทธิเทพา พระเศวตสุนทรสวัสดิ์ พระเศวตสกลวโรภาศ
พระเศวตรุจิราภาพรรณ พระเศวตวรนาเคนทร์ ช้างพลายเผือกเอก
พระศรีเศวตวรรณิภา พระเศวตอุดมวารณ์ ช้างพลายสีประหลาด 2 เชือก
เจ้าพระยาไชยานุภาพ
• รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ช้าง
พระเศวตวชิรพาหะ
• รัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ช้าง
พระเศวตคชเดชน์ดิลก

ภาพพระเศวตคชเดช
จาก
http://www.csd.go.th/news/31012007/
• รัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
มีช้างเผือก 10 เชือก คือ พระเศวตอดุลยเดชพาหน
พระเศวตวรรัตนกรี พระเศวตสุรคชาธาร พระศรีเศวตศุภลักษณ์
พระเศวตศุทธวิลาศ พระวิมลรัตนกิริณี พระศรีนรารัฐราชกิริณี
พระเศวตภาสุรคเชนทร์ พระเทพรัตนกิริณี พระบรมนขทัศ

ภาพพระเศวตอดุลยเดชพาหน
จาก
http://www.csd.go.th/news/31012007/
**************************************

บรรณานุกรม
สุทธิลักษณ์ อำพันวงศ์.
2530. ช้างไทย.
กรุงเทพมหานคร :
มูลนิธิธนาคารกรุงเทพ
อมรา ศรีสุชาติ. 2550.
ช้างในพุทธวรรณกรรมและพุทธศิลปกรรม.
กรุงเทพมหานคร: รุ่งศิลป์การพิมพ์
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนเล่ม 17.
2537. พิมพ์ครั้งที่ 2.
กรุงเทพมหานคร: ด่านสุทธาการพิมพ์.
ภาพ
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนเล่ม 17.
2537. พิมพ์ครั้งที่ 2.
กรุงเทพมหานคร: ด่านสุทธาการพิมพ์.
อมรา ศรีสุชาติ.
2550. ช้างในพุทธวรรณกรรมและพุทธศิลปกรรม.
กรุงเทพมหานคร: รุ่งศิลป์การพิมพ์
"เจ้าพระยาไชยานุภาพ" . 2551. http://www.thungyai.org/thai/activities/48/kingnaresuan/king07.htm
"ช้างเผือก".
2551.
http://www.thailandelephant.org/elephant1.php3
"ช้างต้น". 2551. http://www.kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK17/chapter1/t17-1-s.htm
"ช้างเอราวัณ".
2551. http://www.businesscenterbkk.com/arawan.jpg
"ช้างเผือก". 2551. http://www.dnp.go.th/multi_prov_forest/pic/66.jpg
"ช้างต้น".2551.
http://www.csd.go.th/news/31012007/
รวบรวมข้อมูลโดย :
น.ส. โศธิดา ศิริอำนวยศิลป์ นักศึกษาช่วยงาน ปีงบประมาณ 2551
งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ
สนเทศน่ารู้
เรื่องช้าง
ขึ้นด้านบน
|