
ประเทศไทยได้เผชิญกับปัญหายาเสพติดมาเป็นเวลาช้านาน
รัฐบาลในแต่ละยุคได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดมาตลอด จนกระทั่งในปี พ.ศ.
๒๕๐๑ คณะปฎิวัติภายใต้การนำของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
ได้ออกประกาสคณะปฎิวัติ ฉบับที่ ๓๗ ลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๐๑
ให้เลิกการสูบฝิ่นทั่วราชอาณาจักร
โดยมีการเผาทำลายฝิ่นและอุปกรณ์การสูบฝิ่นที่ท้องสนามหลวงในคืนวันที่ ๓๐
มิถุนายน ๒๔๐๒ ต่อมาในปีพ.ศ. ๒๕๐๔ รัฐบาลได้จัดตั้ง "คณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดให้โทษ"
ใช้ชื่อย่อว่า กปส. สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีอธิบดีกรมตำรวจเป็นประธาน
และมีผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ
ต่อมาในสมัยนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลได้เล็ง
เห็นว่า การปราบปรามยาเสพติดไม่สามารถแก้ไขได้โดยการดำเนินการเฉพาะกรมตำรวจฝ่ายเดียว
จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙
ต่อสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน และประกาศใช้เป็นกฏหมายเมื่อวันที่ ๑๖
พฤศจิกายน ๒๕๑๙
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
การแก้ไขปัญหายาเสสพติดของประเทศไทยก็ได้ดำเนินไปอย่างมีแบบแผนและเป็นระบบที่ดียิ่งขึ้น
พระราชบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
หรือเรียกชื่อย่อว่า ป.ป.ส. โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
และจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ส. ขึ้นเป็นหน่วยงานกลางรับผิดชอบโดยตรง
มีฐานะเป็นกรมกรมหนึ่งในสำนักนายกรัฐมนตรี
มีหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ปัจจุบันปัญหายาเสพติดนับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
จากสถิติการจับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศ พบว่า
จำนวนคดียาเสพติดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่
ถูกจับในข้อหามีไว้ในครอบครอง
และเสพยาเสพติดซึ่งก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมติดตามมา
วิธีการดำเนินงานด้านการป้องกันยาเสพติดที่ได้รับการยอมรับกันในปัจจุบันว่าเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุดวิธีหนึ่ง
ได้แก่ การป้องกันการใช้ยาเสพติดที่ผิด หรือที่เรียกว่า
Drug Abuse Prevention
ซึ่งเป็นวิธีการที่ให้ความรู้และชี้นำให้ประชาชนและเยาวชนได้ตระหนักถึงโทษและพิษภัย
ตลอดจนผลร้ายของยาเสพติด
ทำให้เกิดความเกรงกลัวไม่กล้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
อันเป็นการตัดต้นตอของปัญหาเสียแต่เนิ่นๆ ผลจากปัญหายาเสพติดได้ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติทั่วโลก
ประเทสต่างๆ ทั่วโลกจึงได้พยายามร่วมมือกัน
เพื่อหาทางหยุดยั้งปัญหายาเสพติด
ดังนั้น ในการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิด
และการลักลอบค้ายาเสพติด (International Conference on Drug Abuse and
Illicit Trafficking - ICDAIT) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา
ประเทศออสเตรีย ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๒๖ มิถุนายน ๒๕๓๐
ที่ประชุมได้มีมติให้เสนอสมัชชาใหญ่สหประชาชาติขอให้กำหนดวันที่ ๒๖
มิถุนายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติด

บรรณานุกรม
วรนุช อุษณกร. ประวัติวันสำคัญที่ควรรู้จัก. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๓.
ธนากิต เรียบเรียง.วันสำคัญไทย.พิมพ์ครั้งที่๑ กรุงเทพฯ : ปิรามิด, ๒๕๔๑.
ภาพประกอบ
http://www.healthnet.in.th
ข้อมูลโดย : กลุ่มนักศึกษาฝึกงาน งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
สนเทศน่ารู้
ขึ้นด้านบน
|