องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ ๓ ธันวาคม ของทุกปี เป็น "วันคนพิการสากล"
เพื่อเป็นการระลึกถึงวันครบรอบที่สมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติมีมติรับแผนปฏิบัติการโลกว่าด้วยเรื่องคนพิการ
และได้ให้ประเทศสมาชิกร่วมจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความเข้าใจของสังคมต่อคนพิการ
และยอมรับให้เข้าร่วมกิจกรรมในด้านต่างๆ และประเทศไทยในฐานะองค์การสมาชิก
โดยคณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการได้มีการขานรับวันคนพิการสากลและกีฬาเฟสปิกเกมส์
โดยจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมคนพิการในด้านต่างๆ
ทั่วประเทศ วันคนพิการสากล
มีเป้าหมายเพื่อสร้างกระแสความเข้าใจต่อคนพิการและระดมการสนับสนุนแก่คนพิการเพื่อศักดิ์ศรีและความเป็นอยู่ของคนพิการ
นอกจากนี้ก็ยังช่วยสร้างความตื่นตัวของประชาชนต่อคนพิการในทุกๆ
ด้าน ทั้งด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
ความเป็นมาของวันคนพิการสากล
นับตั้งแต่องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้ปี พุทธศักราช ๒๕๒๖-๒๕๓๕
เป็นทศวรรษคนพิการแห่งสหประชาชาติ หรือ UNITED NATION DECADE OF DISABLED
PERSONS,1983-1992. ยังผลให้ประเทศต่างๆ
รวมไปถึงองค์การต่างๆในทุกภูมิภาคทั่วโลก ได้ตื่นตัวในการส่งเสริมฟื้นฟูสมรรถถาพคนพิการอย่างกว้างขวาง
มีการติดต่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างประเทศองค์การสมาชิกอย่างเป็นรูปธรรม
การเสนอแนะประเทศสมาชิกสหประชาชาติ
ให้ใช้ทรัพยากรเพื่อประโยชน์สูงสุง การป้องกันความพิการ
การสนองความต้องการของคนพิการ การให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ
ในทุกรูปแบบต่อประเทศกำลังพัฒนา ตลอดจนรณรงค์เรื่องสิทธิ
และความเท่าเทียมกันในสังคนเพื่อคนพิการ รวมไปถึงมรการจัดกิจกรรมคนพิการ
เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนา ทักษะการช่วยตัวเอง การเพิ่มพุนสมรรถภาพทางกาย
จิตใจ อารมณ์และสังคมของคนพิการ และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีร่วมกัน
ระหว่างคนพิการและคนปกติ
ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิค
หรือ ESCAP ได้จัดให้มีสมัยการประชุมครั้งที่ ๔๘ ขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง
ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยที่ประชุมได้มีมติประกาศให้ปีพุทธศักราช ๒๕๓๖-๒๕๔๕
เป็นทศวรรษคนพิการภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค
หรือรู้จักกันในนามสากลทั่วโลกว่า "Asian and Pacific
Decade of Disabled Persons, 1993-2002"
โดยมีจุดประสงค์หลักในการให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมพัฒนาคนพิการในทุกๆ
ด้าน ทั่วทุกประเทศในแถบเอเชียและแปซิฟิค ทั้งในด้านการพัฒนาฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ
ส่งเสริมการฝึกอบรมอาชีพและจัดหาสถานประกอบการรองรับแรงงานคนพิการ
สนับสนุนด้านการศึกษา ตลอดจนผลักดันให้คนพิการมีส่วนร่วมในสังคมอย่างเต็มที่
ซึ่งก็จะช่วยให้คนพิการมีโอกาสและมีความเสมอภาคเท่าเทียมกันกับบุคคลทั่วไปในสังคม
จากการสำรวจทางสถิติขององค์การสหประชาชาติพบว่า
กลุ่มประเทศแถบเอเชีย และแปซิฟิคนี้มีจำนวนประชากรที่เป็นบุคคลพิการมากที่สุดในโลก
ทั้งนี้สาเหตุส่วนใหญ่เกิดมาจากปัญหาของความยากจน
นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเพราะสาเหตุของความรุนแรงของภัยพิบัติทางธรรมชาติ
อุบัติเหตุและผลของสงคราม และด้วยความพิการทุพพลภาพนี้เองที่เริ่มแพร่มากขึ้นทุกขณะ
ทางองค์การสหประชาชาติจึงเร่งตระหนักที่หาหนทางวิธีการแก้ไขป้องกันโดยเร็ว
ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะลดจำนวนของผู้พิการลงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
โดยทางคณะกรรมธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค
ก็ได้มีแนวนโยบายที่จะเร่งผลักดันแหนส่งเสริมคนพิการให้อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมของแต่ละชาติ
ตั้งคณะกรรมการประสานงานให้ความร่วมมือช่วยเหลือคนพิการและองค์การต่างๆ
ที่จะร่วมมือสร้างชีวิตคนพิการให้ดีขึ้น ทั้งในระดับชาติและระดับสากล
ตลอดจนเร่งพัฒนาส่งเสริมให้คนพิการทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้ได้รับการฟื้นฟูบำบัดรักษา
การศึกษา การฝึกฝีมือและอาชีพหรือแม้กระทั่งมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม
ทั้งทางการกีฬา วัฒนธรรมประเพณีและสิ่งแวดล้อม
องค์การสหประชาติได้ส่งเสริมคนพิการในด้านต่างๆ มากมายด้วยกัน
ตัวอย่างเช่น
ส่งเสริมให้คนพิการได้มีโอกาสอยู่ร่วมกับคนในสังคมและมีโอกาสได้รับการศึกษาในด้านต่างๆ
เช่นเดียวกับคนปกติ และให้คนพิการมีส่วนร่วมในกิจกรรมอื่นๆ
อีกมากมายซึ่งสามารถจำแนกออกมาในด้านต่างๆ อาทิเช่น ในด้านสังคม
คนพิการสามารถอยู่ร่วมกับคนในสังคมต่างๆ
ได้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และทำตนไม่ให้เป็นภาระแก่คนในสังคมนั้น
ซึ่งนานาประชาชาติได้มอบ อุปกรณ์ต่างๆ
เพื่อให้คนพิการได้ช่วยเหลือตนเอง เช่น
การคิดค้นประดิษฐ์หุ่นยนต์สุนัขเพื่อช่วยคนตาบอดในการเดินทาง
หรือการประดิษฐ์เครื่องช่วยฟังสำหรับคนหูหนวก
เป็นต้น ซึ่งช่วยให้คนพิการเหล่านั้นสามารถช่วยเหลือตนเองได้
รวมทั้งประดิษฐ์ขาเทียมเพื่อคนพิการทางขาอีกด้วย
นอกจากงานในด้านสังคมแล้ว
ในด้านอาชีพก็เช่นกัน
นานาประชาชาติได้เล็งเห็นความสำคัญในการประกอบอาชีพของคนพิการด้วย
เพื่อให้คนพิการได้นำเงินมาจุนเจือตนเองและครอบครัว
จึงได้สนับสนุนคนพิการในด้านต่างๆ เช่น งานหัตถกรรม เป็นต้น ขายล๊อตเตอรี่
พนักงานรับโทรศัพท์ งานช่างต่างๆ เช่น ช่างไม้ ช่างกระจก
เป็นต้น
ทำให้คนพิการได้มีโอกาสประกอบอาชีพต่างๆ ได้มากขึ้น
ส่วนงานที่เกี่ยวกับการศึกษานั้นนานาชาติก็ส่งเสริมได้เช่นเดียวกัน เพื่อให้คนพิการได้นำเอาวิชาความรู้ไปใช้ในด้านการประกอบอาชีพและป้องกันการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ
ซึ่งได้ให้โอกาสในการศึกษาของคนพิการในด้านต่างๆ เช่น
การให้ทุนเกี่ยวกับการศึกษาแก่คนพิการ
และการผลิตอุปกรณ์ทางการศึกษาแก่คนพิการต่างๆ เช่น
การผลิตเครื่องเรียงสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์และสแกนเนอร์ของคนตาบอด
การผลิตลูกคิดสเลตและสไตลัสสำหรับคนตาบอด
ทำให้คนตาบอดศึกษาหาความรู้ได้สะดวกขึ้น
นอกจากนั้นแล้วยังมีการจัดแปลหนังสือเรียนของคนปกติมาพิมพ์เป็นหนังสือเรียนเป็นตัวอักษรเบลล์แก่คนตาบอดอีกด้วย
ทางด้านกีฬาก็เช่นกันนานาประชาชาติก็ได้ส่งเสริมและให้โอกาสเพื่อให้คนพิการได้แสดงความสามารถในด้านกีฬาเช่นกัน
ตั้งแต่การแข่งขันกีฬาระดับประเทศ ระดับโลกตามลำดับ
ซึ่งนานาประชาชาติได้ให้โอกาสในด้านกีฬาต่างๆ เช่น
การจัดงานแข่งขันเฟสปิคเกมส์ การว่ายน้ำคนพิการ วิ่งมาราธอนคนพิการ
เฟสปิกเกมส์ (Fespic Games-FarEast and South Pacific Games for the
Disabled) เป็นกีฬาของคนพิการ ในประเทศที่อยู่ตะวันออกไกลและแปซิฟิกตอนใต้
ได้จัดเป็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี ๒๕๑๘
มีผู้เข้าร่วมแข่งขัน ๙๗๓ คน จาก ๑๘ ประเทศ ต่อมาในปี ๒๕๓๒
ประเทศญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเฟสปิกเกมส์ ครั้งที่ ๕
อีก โดยมีผู้เข้าร่วมแข่งขันเพิ่มมากขึ้นเป็น ๑๗๐๐ คน จาก ๔๑ ประเทศ
ความสำเร็จในการจัดครั้งนั้น
เป็นผลให้รัฐบาลของประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันตระหนักว่า
การเล่นกีฬาเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนี่ง
ที่ช่วยให้คนพิการได้เพิ่มประสบการณ์ชีวิตด้านสังคม
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องจัดการฝึกอบรมผู้นำด้านกีฬาและผู้ฝึกสอน
เพื่อส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ด้านกีฬาของคนพิการ
บรรณานุกรม
สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์.งานวันคนพิการ ครั้งที่
๓๓. กรุงเทพฯ : สมชายการพิมพ์, ๒๕๔๐.
ภาพประกอบ
http://www.nupge.ca/
http://www.dfid.gov.uk/
http://www.paralympic.org/ ข้อมูลโดย : กลุ่มนักศึกษาฝึกงาน งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
สนเทศน่ารู้
ขึ้นด้านบน
|